Ranging Marketคืออะไร และเทรดเดอร์สามารถระบุและทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่ชัดเจนได้อย่างไร?
ในตลาดการเงิน การเคลื่อนไหวของราคามักจะไม่ได้มีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นหรือลงเสมอไป ในหลายกรณี ตลาดจะเคลื่อนไหวแบบ Sideway ติดอยู่ระหว่างระดับแนวรับ (support) และ ระดับแนวต้าน (resistance) ซึ่งสร้างสิ่งที่เรียกว่า Ranging Market
ในขณะที่ Trend จะให้แรงโมเมนตัม แต่ Ranging Market นั้นมอบโอกาสในการทำกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะสำหรับกลยุทธ์ที่ใช้ในตลาดที่มีขอบเขตหรือ mean-reversion strategies
ในบทความนี้จะเสนอคำแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับ Ranging Market คืออะไร สาเหตุการเกิด วิธีการระบุกรอบ Sideway และที่สำคัญที่สุดคือ วิธีการเทรดมันอย่างมีประสิทธิภาพ
Ranging Market หรือที่เรียกว่าตลาด Sideway หรือตลาด Consolidating คือสถานการณ์ที่ราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวขึ้นและลงระหว่างระดับแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจน โดยไม่แสดงแนวโน้มว่าจะขึ้นหรือลง ในสถานการณ์นี้ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายไม่มีอำนาจมากพอที่จะควบคุมตลาด ทำให้ราคาสินทรัพย์ผันผวนภายในกรอบ Sideway
ต่างจากตลาดที่มีการสร้าง higher high และ higher low หรือ lower high และ lower low ตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบมักจะมี high และ low ที่ใกล้เคียงกันในระยะเวลาหนึ่ง ระดับราคาเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นแนวรับ-แนวต้านชั่วคราว ที่ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาไม่สามารถผ่านไปได้
สภาวะที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง หลายวัน หรือแม้กระทั่งหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์และกรอบเวลาการเทรด
สินทรัพย์หลายชนิดมักมีช่วงราคาตามเงื่อนไขบางประการ:
Forex: คู่เงิน เช่น EUR/USD และ AUD/JPY มักจะเข้าสู่ช่วงที่เคลื่อนไหวในกรอบระหว่างช่วงการเทรดในเอเชียหรือช่วงปลายการเทรดในสหรัฐอเมริกา
หุ้น: หุ้นอาจเคลื่อนไหว Sideway ก่อนการประกาศผลประกอบการหรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ
ดัชนี: S&P 500 หรือ NASDAQ มักจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่างช่วงการรวมตัวในช่วงระหว่างการเผยแพร่ข่าวสำคัญ
สินค้าโภคภัณฑ์: ทองคำ และ น้ำมัน บางครั้งเคลื่อนไหวในกรอบแนวนอนเนื่องจากความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน
พฤติกรรมการเคลื่อนไหวในกรอบเกิดขึ้นในทุกกรอบเวลา ตั้งแต่กราฟ 5 นาทีจนถึงกราฟรายสัปดาห์ ทำให้กลยุทธ์การเทรดในกรอบสามารถปรับใช้ได้ทั้งสำหรับนักเทรดระยะสั้น (day trader) และนักเทรดระยะกลาง (swing trader)
ราคามักจะเคลื่อนไหวขึ้นลงระหว่างแนวรับและแนวต้าน โดยระดับเหล่านี้มักจะถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนและมักจะถูกทดสอบซ้ำ ๆ ราคาจะไม่สามารถทะลุผ่านแนวรับต้านเหล่านี้ได้หลายๆครั้ง ทำให้กราฟดูมีการเคลื่อนไหวแบบกระเพื่อม (choppy)
ปริมาณการเทรดมักจะลดลงในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบ และ Indicator ส่วนใหญ่ เช่น RSI หรือ MACD มักจะเคลื่อนไหวในแนวนอน โดยให้ข้อมูลทิศทางที่น้อย การเคลื่อนไหวเฉลี่ย (Moving averages) อาจจะปรับตัวเป็นแนวนอน ซึ่งสัญญาณนี้บ่งบอกถึงการขาดโมเมนตัม
ความผันผวน (Volatility) โดยทั่วไปจะลดลงในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway เว้นแต่ช่วงกรอบจะเกิดขึ้นก่อนการ Breakout ในกรณีนี้ การบีบอัดของราคามักจะนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่รุนแรงเมื่อกรอบถูกทำลาย
มีหลายวิธีในการหากรอบ Ranging Market บนกราฟของคุณ หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด คือการตรวจสอบด้วยตา หากราคาไม่สามารถรสร้าง higher high หรือ lower low และยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway
คุณยังสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Bollinger Band ซึ่งมักจะแคบลงในช่วงที่ตลาดกำลังรวมตัว การบีบตัวของแถบ Bollinger Bands มักจะเป็นสัญญาณของความผันผวนที่ลดลงและตลาดที่เคลื่อนไหวไปด้านข้าง
Average Directional Index (ADX) เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ ค่าของ ADX ที่ต่ำกว่า 20 แสดงถึงแนวโน้มที่อ่อนแอหรือตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ
สาเหตุหลักหนึ่งคือ ความไม่แน่นอน เมื่อเทรดเดอร์คาดหวังข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น รายงานเศรษฐกิจ การตัดสินใจของธนาคารกลาง การประกาศผลประกอบการ หรือเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้เทรดเดอร์ไม่กล้าเทรด และออก Lot ขนาดใหญ่ ทำให้ราคาหยุดวิ่ง
ตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบยังเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดอ่อนแรง หลังจากแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ราคามักจะรวมตัวเพื่อพิจารณาทิศทางต่อไป มักจะเรียกช่วงนี้ว่าเป็นช่วงหยุดพัก (pause) หรือช่วงการกระจาย/สะสม (distribution/accumulation) ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดก่อน Downtrend หรือ Uptrend
นอกจากนี้ ปริมาณการเทรดที่ต่ำในช่วงเวลาที่ไม่ตลาดไม่มีแรงซื้อขาย อาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ โดยเฉพาะเมื่อตลาด forex เปิดทำการ
1. กลยุทธ์การกลับช่วง
วิธีคลาสสิกนี้เกี่ยวข้องกับการซื้อใกล้แนวรับ แนวต้าน โดยอาจใช้กราฟยืนยัน เช่น รูปแบบแท่งเทียน (เช่น hammer, pin bar, หรือ engulfing candles) เพื่อยืนยันการกลับตัว
ยกตัวอย่าง เช่น หาก RSI แสดงถึงภาวะ Oversold ที่ระดับแนวรับ หรือภาวะ overbought ที่ระดับแนวต้าน อาจสนับสนุนกลยุทธ์การกลับตัว เป้าหมายคือ การทำกำไรจากการที่ราคาปฏิเสธขอบเขตของกรอบซ้ำๆ
Stop-loss มักจะถูกตั้งไว้ด้านนอกของระดับแนวรับ ต้าน เพื่อป้องกันการเกิด Breakout
2. กลยุทธ์ Bollinger Band
ในตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ Bollinger Band มักจะให้แนวรับแนวต้าน ที่มีความยืดหยุ่น เมื่อราคาทะลุถึง Upper band มักจะมีการปรับตัวกลับไปที่ Middle band หรือ Lower band เช่นเดียวกับเมื่อราคาต่ำสุดที่ Lower band มักจะกระเด้งกลับขึ้น
หากใช้กลยุทธ์ซื้อใกล้ Lower band และขายใกล้ Upper band โดยใช้ Middle band (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 ช่วงเวลา) เป็นจุดออกหรือจุดทำกำไร
3. กลยุทธ์ Stochastic Oscillator Crossovers
Stochastic Oscillator เป็น Indicator ที่สามารถระบุพื้นที่ overbought และ oversold ภายในกรอบ เมื่อ stochastic ข้ามลงต่ำกว่า 20 อาจเป็นสัญญาณของโอกาสในการซื้อใกล้ระดับแนวรับ ในขณะที่หากเคลื่อนไหวเหนือ 80 อาจเป็นสัญญาณในการขาย short ใกล้ระดับแนวต้าน
กลยุทธ์นี้จะได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับสัญญาณจากการเคลื่อนไหวของราคา (price action) และระดับแนวนอนที่ชัดเจน
4. กลยุทธ์การเตรียมตัวสำหรับ Breakout
ในขณะที่การเทรดในกรอบ สามารถทำกำไรได้ในช่วงการรวมตัว (consolidation) นักเทรดยังสามารถเตรียมตัวสำหรับการ Breakout ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเฝ้าติดตามปริมาณการเทรด (volume) การบีบตัวของราคา (price compression) และระยะเวลาในการเคลื่อนไหวในกรอบ
Breakout หลังจากการรวมตัวที่ยาวนานมักจะมีความแข็งแกร่ง คุณสามารถตั้งคำสั่ง stop ไว้เล็กน้อยเหนือระดับ resistance หรือใต้ระดับ support เพื่อจับโอกาสในแนวโน้มถัดไป ซึ่งกลยุทธ์นี้เรียกว่า range breakout strategy และเหมาะสมสำหรับการจับการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่
กลยุทธ์การเทรดในตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ Ranging Market มักตรงข้ามกับกลยุทธ์ที่ใช้ในตลาดที่มีแนวโน้ม Trending Market ในตลาดที่มีแนวโน้ม นักเทรดจะเทรดตามแรงโมเมนตัม โดยซื้อเมื่อราคาผ่าน Breakout หรือ Pullback ในแนวโน้มขาขึ้น และขาย short เมื่อราคามีการรีบาวด์ในแนวโน้มขาลง
อย่างไรก็ตาม นักเทรดจะทำในทางตรงข้าม พวกเขาจะทำการ fade การเคลื่อนไหวที่ขอบของกรอบราคา และทำกำไรเมื่อราคากลับไปที่ฝั่งตรงข้าม ตัวชี้วัดที่ใช้ติดตามแนวโน้ม เช่น Moving Averages และ MACD จะมีประโยชน์น้อยลงในสภาวะที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบ
ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่นักเทรด คือการใช้กลยุทธ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เกิดขึ้น หากเราสามารถระบุตลาดนั้นเป็นตลาด Trend หรือ Ranging ได้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดได้อย่างดีขึ้น
แม้ว่าการเทรดในกรอบ (Range trading) จะเป็นกลยุทธ์ที่เชื่อถือได้ แต่อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด หากมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น คำแถลงจากธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) หรือรายงาน Non-Farm Payrolls การหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด เนื่องจากเหตุการณ์เหล่านี้อาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวและการผันผวนในตลาดที่ไม่คาดคิด
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงกรอบที่แคบที่ไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวของราคา หากกรอบมีขนาดแค่ 10-20 จุด (pips) ในตลาดฟอเร็กซ์ หรือมีความผันผวนเพียงเล็กน้อยในหุ้น ความเสี่ยงและผลตอบแทนอาจไม่คุ้มค่าหลังจากพิจารณาค่าสเปรดและค่าคอมมิชชันแล้ว
หากเจอแนวรับต้านไม่ชัดเจน หรือการเคลื่อนไหวของราคามีลักษณะที่ไม่แน่นอน ควรรอให้โครงสร้างราคาชัดเจนยิ่งขึ้นจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
สรุปแล้ว แม้ตลาด Trend จะดูน่าตื่นเต้นมากกว่า แต่ตลาด Ranging Markets ก็มีโอกาสการเทรดที่สม่ำเสมอและสามารถทำซ้ำได้ ความสำเร็จในการเทรดในกรอบขึ้นอยู่กับการวางแนวรับแนวต้านอย่างถูกต้อง การใช้เครื่องมือยืนยันอย่างมีประสิทธิภาพ และการรักษาระเบียบวินัยในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน
ไม่ว่าคุณจะทำการเทรดในกรอบที่แคบ (scalping) หรือกำลังเตรียมตัวสำหรับ ฺฺBreakout การเข้าใจพฤติกรรมของตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบจะทำให้คุณได้เปรียบในการเทรด
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ETF RSP ให้ความสำคัญกับหุ้น S&P 500 ทั้งหมดเท่าๆ กัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากความเข้มข้น และให้การเปิดรับความเสี่ยงที่สมดุลในทุกภาคส่วนและตามมูลค่าตลาด
2025-07-03ค้นพบว่าดัชนี S&P/ASX 200 คืออะไร ทำงานอย่างไร และเหตุใดจึงเป็นดัชนีอ้างอิงสำคัญของตลาดหุ้นออสเตรเลีย เหมาะสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่
2025-07-03ต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเทรดแบบ Breakout หรือไม่? สำรวจกลยุทธ์อันทรงพลัง 5 ประการที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จใช้เพื่อทำกำไรจากการ Breakout ของราคาในตลาดใดๆ ก็ตาม
2025-07-03