มือใหม่หัดเทรดออปชันใช่ไหม? นี่คือวิธีเทรดออปชันสำหรับมือใหม่ พร้อมขั้นตอนที่ชัดเจน แนวคิดสำคัญ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการเริ่มต้น
การเรียนรู้วิธีเทรด Option สำหรับมือใหม่อาจดูน่ากังวลในช่วงแรก เนื่องจาก Option มักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน ทั้งในแง่คำศัพท์ กลไกการทำงาน และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องซึ่ง อาจสร้างความสับสนให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ อย่างไรก็ตาม หากเริ่มต้นอย่างมีแบบแผนและเข้าใจพื้นฐานอย่างชัดเจน ใคร ๆ ก็สามารถเรียนรู้การเทรด Option และนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การลงทุนโดยรวมได้
Option คือสัญญาที่ให้สิทธิ (แต่ไม่ใช่ข้อผูกพัน) ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ภายในระยะเวลาหนึ่ง โดย Option ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อการเก็งกำไรสร้างรายได้ หรือบริหารความเสี่ยง
หากคุณกำลังสงสัยว่าจะเทรด Option อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ขั้นตอนแรกคือการเข้าใจว่าสิ่งที่คุณกำลังเทรดนั้นคืออะไร และสัญญา Option ทำงานอย่างไร
1) ทำความเข้าใจพื้นฐานของสัญญา Option
ในการเริ่มต้นเทรด Option สิ่งแรกที่ควรเรียนรู้คือประเภทของสัญญาหลัก 2 ประเภท ได้แก่ “สิทธิในการซื้อ” (Call Option) และ “สิทธิในการขาย” (Put Option) โดย Call Option ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ (เรียกว่า ราคาใช้สิทธิ) ก่อนที่สัญญาจะหมดอายุ ส่วน Put Option ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด
โดยปกติ 1 สัญญา Option จะอ้างอิงหุ้นจำนวน 100 หุ้น ผู้ซื้อจะต้องจ่าย “ค่า Premium” เพื่อได้รับสิทธินี้ และผู้ขายสัญญาจะได้รับค่า Premium ดังกล่าวเป็นการตอบแทนความเสี่ยงในกรณีที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา
คำศัพท์สำคัญที่มือใหม่ควรรู้ ได้แก่ ราคาใช้สิทธิ (Strike Price), วันหมดอายุ (Expiration Date), ค่า Premium, มูลค่าภายใน (Intrinsic Value) และมูลค่าจากระยะเวลา (Time Value) ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อราคาของ Option และโอกาสในการทำกำไร
2) เลือกกลยุทธ์ให้เหมาะสม
การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมคือหัวใจของการเทรด Option สำหรับผู้เริ่มต้นมักเริ่มจากการ “ซื้อ Call” หรือ “ซื้อ Put” ซึ่งเป็นกลยุทธ์พื้นฐาน โดยการซื้อ Call เมื่อคาดว่าราคาสินทรัพย์จะปรับขึ้น ส่วนการซื้อ Put เมื่อคาดว่าราคาจะลดลง
เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น อาจเริ่มใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น Covered Call, Cash-Secured Put หรือ Vertical Spread โดยแต่ละกลยุทธ์จะมีระดับความเสี่ยงและเหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดที่แตกต่างกัน
ควรเข้าใจว่าการเทรด Option มีการสูญเสียมูลค่าตามเวลา (Time Decay) หมายความว่าแม้ราคาจะเคลื่อนไหวเป็นไปตามคาด แต่หากถือสัญญานานเกินไป ก็อาจขาดทุนได้ จังหวะเวลาในการเข้าและออกจึงสำคัญอย่างยิ่ง
3) ใช้แพลตฟอร์มหรือโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้
คุณจำเป็นต้องมีบัญชีซื้อขายที่รองรับการเทรด Option ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีความแตกต่างกันในด้านความเร็วในการส่งคำสั่ง เครื่องมือวิเคราะห์ และการบริหารความเสี่ยง ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ให้ข้อมูลโปร่งใส มีสื่อการเรียนรู้ และบริการลูกค้าที่ดี หลายแพลตฟอร์มยังมีบัญชีทดลอง (Paper Trading) ที่ให้คุณฝึกเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง
ในการเปิดบัญชี คุณอาจต้องตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้ทางการเงินและประสบการณ์ด้านการลงทุน เพราะการเทรด Option มีความเสี่ยงสูงกว่าเทรดหุ้นปกติ
การส่งคำสั่งใน Option ต้องรวดเร็ว เพราะการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างฉับพลันอาจส่งผลต่อกำไรขาดทุน การเรียนรู้การใช้คำสั่งซื้อขาย เช่น Market, Limit, Stop-Limit หรือ Conditional Orders จึงเป็นสิ่งสำคัญ
4) การบริหารความเสี่ยงคือหัวใจของการเทรด
สิ่งสำคัญที่สุดในการเรียนรู้การเทรด Option คือ “ความเสี่ยง” เพราะต่างจากหุ้นที่ขาดทุนสูงสุดคือเงินลงทุน แต่ Option บางกลยุทธ์อาจมีความเสี่ยงไม่จำกัด เช่น การขาย Call แบบไม่มีการป้องกัน (Naked Call)
จึงควรกำหนดขนาดการลงทุนในแต่ละเทรดอย่างชัดเจน ตั้งจุดตัดขาดทุน และจุดทำกำไรที่เหมาะสม อย่าลงทุนด้วยอารมณ์ หรือกลัวพลาดโอกาส (FOMO) ควรเข้าใจรูปแบบความเสี่ยงของแต่ละกลยุทธ์ก่อนลงมือจริง
ความผันผวน (Volatility) มีบทบาทสำคัญต่อราคาของ Option โดยหากความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility) สูง ราคาของ Option จะเพิ่ม แต่เมื่อความผันผวนลดลง Option อาจสูญเสียมูลค่าเร็วขึ้น ซึ่งมักเกิดในช่วงประกาศผลประกอบการหรือเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญ
5) เรียนรู้ผ่านการฝึกฝนและความอดทน
การเทรด Option เป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนา วิธีที่ดีที่สุดคือการฝึกฝนอย่างมีระบบ ไม่ว่าจะผ่านบัญชีทดลอง การทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง หรือการจดบันทึกเทรดเพื่อวิเคราะห์ผล
หลีกเลี่ยงการใช้กลยุทธ์ซับซ้อนในช่วงเริ่มต้น เพราะการเทรดแบบพื้นฐาน เช่น ซื้อ Call หรือ Put จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของ Option ได้ดี เมื่อมั่นใจแล้วค่อยขยับไปสู่กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น
การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ควรอ่านหนังสือ ดูวิดีโอ วิเคราะห์ความเห็นจากนักเทรดมืออาชีพ หรือเข้าเรียนคลาออนไลน์ เพื่อเพิ่มพูนความรู้จากประสบการณ์จริง ยิ่งคุณได้เห็นตัวอย่างจากตลาดจริงมากเท่าไร ความมั่นใจและวินัยในการเทรดก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การเทรด Option มอบความยืดหยุ่นและการควบคุมที่เหนือกว่า แต่ก็ต้องอาศัยความรู้ วินัย และความสามารถในการบริหารความเสี่ยง หากคุณต้องการเริ่มต้นเทรด Option อย่างถูกต้อง ควรเริ่มจากการเรียนรู้พื้นฐาน เลือกใช้กลยุทธ์ที่เรียบง่าย และค่อย ๆ สั่งสมความมั่นใจทีละขั้น หลีกเลี่ยงการรีบเร่งเข้าสู่กลยุทธ์ที่ซับซ้อนเกินไปในช่วงเริ่มต้น และให้ความสำคัญกับการพัฒนาแนวทางที่สามารถทำซ้ำได้อย่างสม่ำเสมอ
แม้ Option อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกคน แต่สำหรับผู้ที่ตั้งใจเรียนรู้และเทรดอย่างรอบคอบ มันสามารถเป็นเครื่องมือเฉพาะตัวในการสะท้อนมุมมองต่อทิศทางของตลาด บริหารความเสี่ยง หรือสร้างรายได้เสริมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความอดทน และกรอบความคิดที่ถูกต้อง มือใหม่ก็สามารถก้าวสู่การเป็นนักเทรด Option ที่มีทักษะ และสามารถรับมือกับความซับซ้อนของตลาดได้อย่างมั่นใจและแม่นยำมากขึ้น
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกองทุน ETF USO ว่าใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบเพื่อติดตามราคา WTI ได้อย่างไร และอะไรที่ทำให้กองทุนนี้เป็นเครื่องมือการซื้อขายที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลตอบแทนสูง
2025-07-11เปรียบเทียบดัชนี DAX 30 และ FTSE 100 เพื่อค้นหาว่าดัชนีใดให้ผลตอบแทน การกระจายความเสี่ยง และมูลค่าระยะยาวที่ดีกว่าสำหรับนักลงทุนทั่วโลก
2025-07-11เรียนรู้ว่าแท่งเทียน Marubozu คืออะไร สื่อถึงโมเมนตัมตลาดที่แข็งแกร่งได้อย่างไร และกลยุทธ์การซื้อขายใดได้ผลดีที่สุดกับรูปแบบที่ทรงพลังนี้
2025-07-11