简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวน: หุ้น Hang Seng พุ่ง หุ้น Nikkei ร่วง

เผยแพร่เมื่อ: 2025-07-04    อัปเดตเมื่อ: 2025-07-09

ตลาดหุ้นเอเชียมีผลการดำเนินงานผสมผสานในวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2025 เนื่องจากนักลงทุนต้องประเมินความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงมีอยู่ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ และท่าทีที่เปลี่ยนแปลงของตลาดโลก


ดัชนี Hang Seng ในฮ่องกงเป็นดัชนีหลักที่ปรับตัวลดลงในภูมิภาค ในขณะที่ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นก็ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดัชนีหลักอื่น ๆ เช่น ดัชนี Shanghai Composite และดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ สะท้อนบรรยากาศความระมัดระวังในภูมิภาคนี้ด้วยเช่นกัน


ตลาดหุ้นเอเชียผันผวน: หุ้น Hang Seng และหุ้น Nikkei ร่วง

ผลการดำเนินงานของตลาดเอเชียในวันนี้

ดัชนี Hang Seng ร่วงจากความอ่อนแอในภาพรวม

ดัชนี Hang Seng ร่วงลง 0.68% หรือ 164.34 จุด ปิดที่ 24,048.77 จุด การปรับตัวลดลงเป็นวงกว้างโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มการเงินเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด


ดัชนีเปิดตลาดที่ 23,900.69 จุด เคลื่อนไหวในกรอบ 23,691.44 ถึง 23,932.97 จุด ก่อนปิดตลาดต่ำกว่า 24,100 จุดเล็กน้อย การปรับตัวลดลงนี้นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันของดัชนี Hang Seng โดยนักลงทุนยังคงระมัดระวังท่ามกลางการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังไม่คลี่คลายและความกดดันจากกำหนดเวลาการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่ใกล้เข้ามา


  • ดัชนี Hang Seng : -0.68% ปิดที่ 24,048.77


  • ปัจจัยขับเคลื่อนหลัก: หุ้นเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์, ความไม่แน่นอนทางการค้า


ดัชนี Nikkei 225 ร่วงลงท่ามกลางกระแสความระมัดระวัง

ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.79% หรือ 318.25 จุด ปิดที่ 39,710.04 จุด ดัชนีถูกกดดันจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระดับโลก และข้อมูลเงินเฟ้อในประเทศ


หุ้นผู้ส่งออกญี่ปุ่นมีผลการดำเนินงานที่อ่อนแอ บรรยากาศตลาดยิ่งตึงเครียดก่อนวันหยุดวันชาติสหรัฐฯ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ


  • ดัชนี Nikkei 225: -0.79% ปิดที่ 39,710.04


  • ปัจจัยขับเคลื่อนหลัก: ค่าเงินเยนแข็งค่า, ความไม่แน่นอนทางการค้า, ความกังวลเงินเฟ้อ


ดัชนีหลักอื่น ๆ ในเอเชีย

  • KOSPI (เกาหลีใต้): ลดลง 1.99% หรือ 61.99 จุดปิดที่ 3,111.89 จุด นักลงทุนทยอยทำกำไรหลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้า และจับตาการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ

  • Shanghai Composite (จีน): เปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.01% ปิดที่ 3,906.78 จุด โดยหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่และแบตเตอรี่มีการปรับตัวขึ้นบ้าง แต่นักลงทุนยังระมัดระวังภาพรวมตลาด


ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาด


1. ความตึงเครียดด้านการค้าและความไม่แน่นอนด้านภาษีศุลกากร

บรรยากาศในภูมิภาคถูกกำหนดโดยกำหนดเวลาการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม โดยประธานาธิบดีทรัมป์คาดว่าจะประกาศมาตรการทางการค้าใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ ตลาดเอเชียจึงไวต่อข่าวสารด้านการค้า เพราะความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน


2. การเคลื่อนไหวของค่าเงิน

เงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้น ทำให้ผู้ส่งออกของญี่ปุ่นมีแรงกดดันมากขึ้น และส่งผลให้ดัชนี Nikkei ร่วงลง ในขณะเดียวกันดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ส่งผลดีต่อความต้องการความเสี่ยงในบางตลาดเอเชีย


3. ข้อมูลเศรษฐกิจและนโยบาย

  • จีน: ดัชนี Shanghai Composite ที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ระมัดระวังหลังจากที่ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อสนับสนุนการเติบโต นักลงทุนกำลังจับตาดูสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว


  • ญี่ปุ่น: ข้อมูลเงินเฟ้อและค่าจ้างในประเทศได้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับแนวทางนโยบายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดกำลังมองหาความชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต


  • เกาหลีใต้: ดัชนี KOSPI ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิถุนายน โดยมีการเทขายทำกำไรและความไม่แน่นอนทั่วโลกทำให้การปรับขึ้นต้องหยุดชะงัก


ภาพรวมตามกลุ่มอุตสาหกรรม

ภาพรวมตามกลุ่มอุตสาหกรรม

  • เทคโนโลยี: หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในฮ่องกงปรับตัวอ่อนแอ ตามความผันผวนของหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกและความเสี่ยงด้านนโยบายการค้า


  • อสังหาริมทรัพย์: หุ้นกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อแนวโน้มของภาคอสังหาริมทรัพย์


  • ผู้ส่งออก: หุ้นกลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวแย่ลง จากแรงกดดันด้านอัตราแลกเปลี่ยนและความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า


  • เหมืองแร่และพลังงาน: หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ในออสเตรเลียและจีนได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการโลหะสำหรับแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่ง


แนวโน้ม


ในระยะข้างหน้า ตลาดหุ้นเอเชียคาดว่าจะยังคงมีความผันผวน โดยนักลงทุนจับตาประเด็นต่อไปนี้อย่างใกล้ชิด:


  • ผลการเจรจาภาษีของสหรัฐฯ และมาตรการการค้าใหม่ที่อาจมีการประกาศ


  • การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น ตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ


  • สัญญาณจากธนาคารกลางของจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เกี่ยวกับนโยบายการเงิน


  • ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและพัฒนาการเฉพาะในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม


สรุป


การเคลื่อนไหวที่ผสมผสานของตลาดหุ้นในเอเชียสะท้อนถึงความอ่อนไหวของภูมิภาคต่อการเปลี่ยนแปลงของนโยบายระดับโลกและข้อมูลเศรษฐกิจ ขณะที่การปรับตัวลดลงของดัชนี Hang Seng เน้นย้ำถึงความระมัดระวังที่ยังคงมีอยู่ในหมู่นักลงทุน ภาพรวมของตลาดในวงกว้างแสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนซึ่งนักลงทุนต้องเผชิญในช่วงครึ่งหลังของปี 2025


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
ด่วน Government shutdown สะเทือนตลาดโลก แต่ทองคำพุ่งแรง
เจาะลึกโอกาสการเติบโตของเอเชียผ่าน AAXJ ETF
เปิดข้อมูล หุ้นเทคอเมริกาพุ่งแรงจากเทรนด์ AI และ Cloud
รู้จัก NYSE คืออะไร อาณาจักรตลาดหุ้นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
เงินบาทแกว่งตัวรอ FED ลดดอกเบี้ย ทองคำ-บอนด์ยีลด์ผันผวน