เจาะลึกรูปแบบ Inverted Cup and Handle

2025-07-03
สรุป

ค้นพบรูปแบบ Inverted Cup and Handle พร้อมเรียนรู้ความหมาย กลยุทธ์ และตัวอย่างจริง เพื่อให้คุณสามารถจับสัญญาณการกลับตัวขาลงได้อย่างมั่นใจ

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค มีรูปแบบกราฟมากมายที่ช่วยให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสในการเข้าและออกจากตลาดได้อย่างแม่นยำ หนึ่งในรูปแบบที่บ่งชี้ถึงการกลับตัวเป็นขาลงที่มีความน่าเชื่อถือและชัดเจนคือรูปแบบ Inverted Cup and Handle


รูปแบบนี้มักปรากฏเมื่อแนวโน้มขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง และเป็นสัญญาณถึงความเป็นไปได้ของแนวโน้มขาลงที่กำลังจะเริ่มต้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดสาย Short หรือผู้ที่เน้นการเทรดแบบรอบคอบที่ต้องการตั้งค่าการเทรดเพื่อจับจังหวะกลับตัว


ในบทความนี้ เราจะอธิบายอย่างละเอียดว่ารูปแบบ Inverted Cup and Handle คืออะไร วิธีการสังเกตให้แม่นยำ กลยุทธ์ในการเทรดให้ได้ผล และนำเสนอตัวอย่างจริงจากหลากหลายตลาดเพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมั่นใจ


รูปแบบ Inverted Cup and Handle คืออะไร?

รูปแบบ Inverted Cup and Handle

Inverted Cup and Handle คือรูปแบบกราฟกลับตัวขาลง (bearish reversal pattern) ที่มักปรากฏหลังจากราคามีแนวโน้มขาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รูปร่างของรูปแบบนี้จะคล้ายกับรูปแบบ “ถ้วยและด้ามจับ” (Cup and Handle) แบบดั้งเดิมแต่เป็นภาพกลับหัว


รูปแบบนี้เริ่มต้นด้วยการสร้าง “ยอดโค้งมน” คล้ายถ้วยที่กลับหัว (inverted cup) ตามด้วยการพักตัวของราคาเล็กน้อยในลักษณะทรงข้างหรือปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งเรียกว่า “ด้ามจับ” (handle) เมื่อราคาทะลุแนวรับที่ฐานของด้ามจับลงมาได้อย่างชัดเจน มักจะตามมาด้วยการปรับตัวลงอย่างรุนแรง ถือเป็นสัญญาณยืนยันการกลับตัวของแนวโน้ม


รูปแบบนี้พบได้ทั่วไปในกราฟราคาของหุ้น, ฟอเร็กซ์ และสินค้าโภคภัณฑ์ และนักเทรดมักใช้เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง


โครงสร้างของรูปแบบ


ถ้วยกลับหัว (Inverted Cup)

เป็นส่วนที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของรูปแบบ โดยเกิดขึ้นเมื่อราคาที่เคยอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเริ่มชะลอตั วและค่อย ๆ กลับทิศลงมาเป็นรูปโค้งมนคล้ายตัว "U" กลับหัว สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ตลาด จากฝั่งซื้อที่เคยควบคุมเริ่มถดถอย และแรงขายเริ่มเข้ามาแทนที่


ถ้วยกลับหัวแสดงถึงภาวะที่ราคาสูญเสียแรงส่งขาขึ้นและเริ่มเข้าสู่ความไม่แน่นอน



ด้ามจับ (Handle)

หลังจากส่วนของถ้วยกลับหัวเสร็จสิ้น ราคามักจะพักตัวในลักษณะปรับขึ้นเล็กน้อยหรือเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงสั้น ๆ ซึ่งเกิดเป็น "ด้ามจับ" 


โดยลักษณะนี้มักทำให้บางคนเข้าใจผิดว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังกลับมา แต่ในความเป็นจริง มันมักจะเป็น “bull trap” ก่อนที่ราคาจะร่วงแรงในที่สุด


รูปแบบจะถือว่า "สมบูรณ์" ก็ต่อเมื่อราคาทะลุแนวรับที่ฐานของด้ามจับลงมาได้


วิธีการสังเกตและยืนยันรูปแบบ


การระบุรูปแบบนี้ในระหว่างที่กำลังเกิดขึ้นต้องใช้ทักษะและความอดทนในการอ่านกราฟ โดยมีจุดสังเกตดังนี้:


  • แนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า: รูปแบบนี้ควรเกิดหลังจากที่ราคามีแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน หากไม่มีแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า สัญญาณกลับตัวจะมีความน่าเชื่อน้อยลง

  • ยอดโค้งมน: ส่วนของถ้วยกลับหัวควรมีลักษณะโค้งมน ไม่ใช่ยอดแหลม แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดแบบค่อยเป็นค่อยไป

  • การพักตัวในช่วงด้ามจับ: ราคาควรเคลื่อนไหวออกด้านข้างหรือปรับขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้น

  • แนวรับ (Support Line): ขีดเส้นแนวนอนบริเวณจุดต่ำสุดของด้ามจับ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเส้นคอ (neckline)

  • การทะลุแนวรับ: หากราคาทะลุเส้นแนวรับลงมาพร้อมปริมาณการซื้อขาย (volume) ที่มากขึ้น แสดงถึงการยืนยันรูปแบบ และเป็นสัญญาณในการเปิดสถานะขาย (short)


รูปแบบนี้สามารถใช้ได้ในหลายช่วงเวลา (timeframe) แต่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดเมื่อใช้ในกราฟรายวัน (Daily) หรือกราฟรายสัปดาห์ (Weekly) โดยเฉพาะในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง


Inverted Cup and Handle vs Cup and Handle

Inverted Cup and Handle vs Cup and Handle

แม้ทั้งสองรูปแบบจะมีโครงสร้างคล้ายกัน แต่ให้สัญญาณการเคลื่อนไหวของราคาที่ตรงข้ามกัน โดย Cup and Handle แบบปกติเป็นรูปแบบต่อเนื่องขาขึ้น (Bullish Continuation) ส่วน Inverted Cup and Handle เป็นรูปแบบกลับตัวขาลง (Bearish Reversal)


Cup and Handle แบบปกติ:

  • ส่วนของถ้วยเป็นรูปตัว "U" โค้งมน ไม่ใช่รูปตัว "V" แหลม

  • ด้ามจับเป็นการพักตัวแบบปรับฐานลงเล็กน้อย

  • การทะลุแนวต้านด้านบนเป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อ


Inverted Cup and Handle:

  • ถ้วยกลับหัวเป็นยอดโค้งมน คล้ายตัว "U" กลับด้าน

  • ด้ามจับเป็นการพักตัวแบบขยับขึ้นเล็กน้อย

  • การหลุดแนวรับด้านล่างเป็นสัญญาณกลับตัวลง


วิธีเทรดด้วยรูปแบบ Inverted Cup and Handle

กลยุทธ์ Inverted Cup and Handle


ขั้นตอนที่ 1: ระบุรูปแบบ

สังเกตกราฟหากพบยอดโค้งที่ดูคล้ายถ้วยกลับหัว และมีการเด้งขึ้นเล็กน้อย (ด้ามจับ) หลังจากแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน


ขั้นตอนที่ 2: รอการ “หลุด” แนวรับ

อย่ารีบเข้าเทรดในช่วงที่รูปแบบยังไม่สมบูรณ์ รอให้ราคาหลุดแนวรับที่ฐานของด้ามจับก่อนเพราะจุดนี้มักจะเป็นจุดที่แรงขายเริ่มเข้ามาชัดเจน


ขั้นตอนที่ 3: เปิดออเดอร์ขาย (Short)

เมื่อแน่ใจว่าราคาหลุดแนวรับพร้อมปริมาณการขายที่มากขึ้น จึงเปิดสถานะขายใต้แนวรับ หรือบางคนอาจรอให้ราคาย้อนกลับขึ้นมาทดสอบแนวรับเดิมที่กลายเป็นแนวต้าน (Pullback) ก่อนเข้าเทรด


ขั้นตอนที่ 4: ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss)

จุดที่เหมาะในการตั้ง Stop Loss คือเหนือด้ามจับเล็กน้อย หรือหากต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจตั้งเหนือยอดถ้วยก็ได้ เพื่อป้องกันหากรูปแบบล้มเหลว


ขั้นตอนที่ 5: ตั้งเป้าหมายทำกำไร

วัดระยะจากยอดของถ้วยลงมาถึงแนวรับฐานด้ามจับ แล้วลบระยะนี้ออกจากจุดหลุดแนวรับ เพื่อหาเป้าราคาทำกำไร


ตัวอย่างเช่น ถ้าระยะจากยอดถึงแนวรับคือ 10 จุด และแนวรับอยู่ที่ 150 เป้าราคาก็คือ 140


ตัวอย่างจริงจากตลาด


ตัวอย่างที่ 1 : ตลาดหุ้น (กราฟรายวัน)

ช่วงต้นปี 2022 หุ้น Zoom Video (ZM) ซึ่งเคยพุ่งสูงจากกระแส Work-from-Home ได้สร้างรูปแบบ Inverted Cup and Handle หลังจากขึ้นถึงประมาณ $360 จากนั้นย่อลงมาที่ $320 (ด้ามจับ)


เมื่อราคาหลุดระดับ $300 การขายเริ่มรุนแรง ส่งผลให้ราคาลงไปถึงประมาณ $250 ตามแนวโน้มขาลง


ตัวอย่างที่ 2: ตลาด Forex (คู่เงิน EUR/USD)

ในกราฟรายวันของ EUR/USD นักเทรดสังเกตเห็นรูปแบบนี้ที่ระดับ 1.1800 ถึง 1.1600 หลังจากเกิดความพยายามเบรกไม่สำเร็จ ราคาย่อลงมาแถว 1.1650 (ด้ามจับ)


เมื่อราคาหลุด 1.1600 อย่างชัดเจน ราคาก็ร่วงลงอีก 200 จุด


เคล็ดลับสำหรับมือใหม่


หากคุณเพิ่งเริ่มศึกษาเทคนิคนี้ โปรดพิจารณาเคล็ดลับต่อไปนี้:

  • ฝึกสังเกตจากกราฟย้อนหลังในหลากหลายตลาด

  • ทดลองเทรดในบัญชีทดลองก่อนใช้เงินจริง

  • รอให้เกิดการ “เบรก” แนวรับจริงก่อนเข้าเทรด

  • อย่าลืมวางจุด Stop Loss ทุกครั้งเพื่อจำกัดความเสี่ยง

  • ใช้ตัวชี้วัดปริมาณซื้อขาย (Volume) หรือโมเมนตัมเพื่อช่วยยืนยันสัญญาณ


ความอดทนและมีวินัย คือกุญแจสำคัญ อย่าพยายามบังคับให้รูปแบบเกิดขึ้นในทุกกราฟที่คุณดู เพราะไม่ใช่ทุกการเคลื่อนไหวของราคาจะเข้ากับทฤษฎีเสมอไป


สรุป


รูปแบบ Inverted Cup and Handle ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบกราฟกลับตัวขาลงที่ทรงพลัง ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอารมณ์ของตลาดและแนวโน้มราคาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสามารถระบุรูปแบบนี้ได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้นักเทรดวางแผนการขายชอร์ตหรือการป้องกันความเสี่ยง (hedging) ในช่วงตลาดขาลงได้อย่างมีโครงสร้างและแม่นยำ


อย่างไรก็ตาม ควรใช้รูปแบบทางเทคนิคควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ภาพรวมอื่น ๆ อยู่เสมอ มีความอดทน และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

การวิเคราะห์กองทุน ETF RSP: ผลงาน กลยุทธ์ และเหมาะกับใคร

การวิเคราะห์กองทุน ETF RSP: ผลงาน กลยุทธ์ และเหมาะกับใคร

ETF RSP ให้ความสำคัญกับหุ้น S&P 500 ทั้งหมดเท่าๆ กัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากความเข้มข้น และให้การเปิดรับความเสี่ยงที่สมดุลในทุกภาคส่วนและตามมูลค่าตลาด

2025-07-03
ดัชนี S&P/ASX 200 อธิบาย: คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกด้านการลงทุน

ดัชนี S&P/ASX 200 อธิบาย: คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกด้านการลงทุน

ค้นพบว่าดัชนี S&P/ASX 200 คืออะไร ทำงานอย่างไร และเหตุใดจึงเป็นดัชนีอ้างอิงสำคัญของตลาดหุ้นออสเตรเลีย เหมาะสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่

2025-07-03
กลยุทธ์การเทรด Breakout 5 อันดับแรกที่ได้ผลจริง

กลยุทธ์การเทรด Breakout 5 อันดับแรกที่ได้ผลจริง

ต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเทรดแบบ Breakout หรือไม่? สำรวจกลยุทธ์อันทรงพลัง 5 ประการที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จใช้เพื่อทำกำไรจากการ Breakout ของราคาในตลาดใดๆ ก็ตาม

2025-07-03