Weekend Futures คืออะไร และทำงานอย่างไร?

2025-06-12
สรุป

Weekend futures ช่วยให้คุณเทรดได้ตลอดเวลา แต่จริง ๆ แล้วทำงานอย่างไร และใครที่เหมาะจะใช้บริการนี้บ้าง?

แม้ตลาดจะปิดทำการในวันศุกร์ แต่นักเทรดยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ต้องการเทรดได้ตลอดเวลา และไม่พลาดข่าวสำคัญนอกเวลาทำการ Weekend Futures จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง


สัญญาเหล่านี้เปิดโอกาสให้คุณเทรดและบริหารความเสี่ยงได้ แม้ตลาดดั้งเดิมจะปิดแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว Weekend Futures คืออะไร ทำงานอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง?

Weekend Futures คืออะไร?

Weekend Futures คืออะไร?

Weekend Futures คือสัญญาทางการเงินที่เปิดโอกาสให้นักเทรดสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ นอกเวลาทำการของตลาด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งแตกต่างจากฟิวเจอร์แบบดั้งเดิมที่ซื้อขายกันในตลาดหลัก เช่น CME หรือ ICE ในวันทำการ โดย Weekend Futures มักจะมีให้บริการผ่านแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์บางรายที่พัฒนาขึ้นเองเป็นการเฉพาะ


เครื่องมือเหล่านี้มักจะอ้างอิงกับดัชนีหลัก สินค้าโภคภัณฑ์ หรือแม้แต่สกุลเงินดิจิทัล และเปิดให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าออกสถานะการซื้อขายได้ในวันเสาร์และอาทิตย์ แนวคิดหลักคือการ "เชื่อมช่องว่าง" ระหว่างราคาปิดในวันศุกร์กับราคาเปิดในวันจันทร์ เนื่องจากเหตุการณ์สำคัญระดับโลกมักเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นและสามารถส่งผลต่อราคาได้อย่างมีนัยสำคัญ


ทำไมจึงมี Weekend Futures?


Weekend Futures เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักเทรดในการเข้าถึงตลาดได้ตลอดเวลา ปัจจุบันโลกการเงินเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้น เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการประกาศนโยบายจากธนาคารกลาง เหตุการณ์ความไม่สงบ หรือข่าวบริษัทที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาอย่างรุนแรง


การต้องรอจนถึงวันจันทร์อาจทำให้นักเทรดพลาดโอกาสสำคัญ ดังนั้น Weekend Futures จึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยเปิดโอกาสให้นักเทรดสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์แบบเรียลไทม์ แม้อยู่นอกเวลาทำการของตลาดแบบดั้งเดิม


Weekend Futures ทำงานอย่างไร?


เพื่อให้เข้าใจว่า Weekend Futures ทำงานอย่างไร เราลองมาดูกลไกพื้นฐานของมันกันก่อน โดยทั่วไป สัญญาเหล่านี้จะอิงราคาจากจุดปิดล่าสุดของตลาด แล้วใช้การประเมินแนวโน้มราคาตามข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นระหว่างวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งเรียกกันว่า “Synthetic Pricing” หรือการตั้งราคาจำลอง


ยกตัวอย่างเช่น หากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในวันศุกร์ที่ระดับดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 4,200 จุด แล้วในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์มีข่าวใหญ่ที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักเทรดสามารถใช้ Weekend Futures เพื่อคาดการณ์ว่าดัชนีจะเปิดสูงหรือต่ำลงในวันจันทร์ และเข้าเปิดสถานะซื้อหรือขายตามมุมมองของตนได้ทันที


Weekend Futures มักเริ่มเปิดให้เทรดในเช้าวันเสาร์ และปิดในคืนวันอาทิตย์ ทั้งนี้แล้วแต่โบรกเกอร์ที่ให้บริการ โดยสัญญาเหล่านี้จะอยู่ในระบบซื้อขายแยกจากฟิวเจอร์ปกติ และมักมีข้อกำหนดด้านมาร์จิ้น สเปรด และสภาพคล่องที่แตกต่างออกไปจากตลาดหลัก


ประโยชน์ของ Weekend Futures


  • เข้าถึงตลาดได้อย่างต่อเนื่อง: Weekend Futures ช่วยให้นักเทรดยังคงถือสถานะและบริหารความเสี่ยงได้แม้ในช่วงที่ตลาดปกติปิดทำการ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงหรือเฮดจ์พอร์ตในช่วงวันหยุด

  • ตอบสนองต่อข่าวสารแบบเรียลไทม์: ข่าวระดับโลกไม่หยุดในวันหยุดสุดสัปดาห์ การมีโอกาสในการซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวช่วยให้นักเทรดได้เปรียบในการเคลื่อนไหวก่อนใคร

  • กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น: ไม่ว่าจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นหรือวางแผนลงทุนระยะยาว Weekend Futures ก็เปิดโอกาสให้สร้างกลยุทธ์ใหม่ๆได้ทั้งในระดับรายย่อยและสถาบัน

  • เชื่อมช่องว่างราคาวันหยุด: นักเทรดสามารถบริหารสถานะของตนได้ในช่วงวันหยุด แทนที่จะรอให้ตลาดเปิดในวันจันทร์ ซึ่งมักเกิดช่องว่างของราคา (gap) และมีสภาพคล่องต่ำ


ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณา


แม้ว่า Weekend Futures จะมีข้อดีที่ชัดเจน แต่ก็ไม่ปราศจากความเสี่ยง ข้อควรระวังสำคัญประการหนึ่งคือสภาพคล่อง ซึ่งอาจต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อขายช่วงวันธรรมดา ซึ่งอาจส่งผลให้สเปรดกว้างขึ้นและมีโอกาสเกิด Slippage ได้


นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องความผันผวน เนื่องจากอาจมีผู้เข้าร่วมน้อยลง ราคาจึงอาจผันผวนมากขึ้น เนื่องจาก Weekend Futures มักถูกให้บริการผ่านแพลตฟอร์มเฉพาะของโบรกเกอร์ ซึ่งหมายความว่ารูปแบบการกำหนดราคาอาจไม่โปร่งใสเสมอไป และอาจแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการ


สุดท้าย แม้จะสามารถเทรดช่วงสุดสัปดาห์ได้ แต่เมื่อเข้าสู่การเปิดตลาดจริงในวันจันทร์ ราคาก็อาจเปิดกระโดดไปในทิศทางที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่คาดการณ์ไว้


Weekend Futures เหมาะกับใครที่สุด?


Weekend Futures ไม่ได้เหมาะสำหรับนักเทรดทุกประเภท โดยกลุ่มที่มักได้ประโยชน์จากเครื่องมือนี้มากที่สุดคือ นักเทรดสายเทคนิค นักเทรดที่ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจหรือการเมืองอย่างใกล้ชิด หรือนักเทรดที่ต้องการเทรดอย่างต่อเนื่องและตอบสนองต่อข่าวได้ทันท่วงที


ในทางตรงกันข้าม ผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ยังไม่เข้าใจกลไกราคาแบบจำลอง (Synthetic Pricing) หรือไม่คุ้นเคยกับการเทรดในภาวะสภาพคล่องต่ำ อาจยังไม่เหมาะกับตลาดลักษณะนี้ เพราะมีความเสี่ยงสูงและต้องใช้ประสบการณ์ในการบริหารสถานะอย่างรอบคอบ


เทรด Weekend Futures ได้ที่ไหนบ้าง?

เทรด Weekend Futures ได้ที่ไหนบ้าง?

ไม่ใช่โบรกเกอร์ทุกแห่งที่จะให้บริการ Weekend Futures โดยทั่วไปจะเปิดให้เทรดผ่านแพลตฟอร์มเฉพาะของโบรกเกอร์ และประเภทของสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้อาจแตกต่างกันไป โดยส่วนมากจะเน้นดัชนีสำคัญ เช่น S&P 500, Nasdaq 100 หรือ DAX ในขณะที่บางโบรกเกอร์ก็อาจมีสินค้าโภคภัณฑ์หรือสกุลเงินดิจิทัลให้เทรดในช่วงสุดสัปดาห์ด้วย


ก่อนเริ่มต้นเทรด ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์ในด้านของสเปรด ช่วงเวลาการเทรด ข้อกำหนดด้านความเสี่ยง และโครงสร้างราคาว่าเหมาะกับกลยุทธ์ของคุณหรือไม่


Weekend Futures จะเป็นทิศทางใหม่ของโลกการเทรดหรือไม่?


เมื่อโลกการเงินก้าวเข้าสู่ยุคที่ทุกวินาทีล้วนมีความหมาย ความต้องการในการเข้าถึงตลาดแบบ 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ จึงทวีความสำคัญขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ Weekend Futures ก็คือภาพสะท้อนของแนวโน้มนี้อย่างชัดเจน


แม้ในปัจจุบันจะยังเป็นเครื่องมือเฉพาะกลุ่ม แต่ Weekend Futures ก็เปิดมุมมองใหม่ในการเทรดนอกเวลาตลาดหลัก และอาจกลายเป็นต้นแบบของรูปแบบการซื้อขายในอนาคต ที่อาจได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น หรือถูกบรรจุเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดซื้อขายหลักในระดับสากล สำหรับผู้ที่ต้องการบริหารความเสี่ยงเชิงรุก หรือมองหาโอกาสจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงสุดสัปดาห์ การมีช่องทางให้เทรดได้อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ย่อมเพิ่มทั้งความยืดหยุ่นและพลังในการควบคุมกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที


สรุป


Weekend Futures ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการเทรดยุคใหม่ได้อย่างลงตัว เพราะช่วยให้นักเทรดมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และไม่ต้องพลาดโอกาสแม้ในช่วงที่ตลาดหลักปิดทำการ แต่อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ การใช้ Weekend Futures ให้ได้ผลจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ทั้งในเรื่องของกลไกการทำงาน ข้อจำกัด และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น


สุดท้ายแล้ว การศึกษาและการบริหารความเสี่ยงยังคงเป็นหัวใจสำคัญ เพราะ Weekend Futures ไม่ได้เป็นแค่การขยายเวลาการเทรดให้ยาวขึ้นเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้มใหม่ของโลกการเงินที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและการตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างทันที ในโลกที่ไม่มีวันหลับใหล


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

USD/CAD กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน: ระดับ 1.3820 จะเป็นระดับการทะลุแนวรับหรือไม่?

USD/CAD กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน: ระดับ 1.3820 จะเป็นระดับการทะลุแนวรับหรือไม่?

USD/CAD พุ่งขึ้นใกล้เส้น EMA 20 วัน เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการเจรจาการค้าส่งผลต่อความรู้สึกของตลาด

2025-06-19
ตัวบ่งชี้ปริมาณตัวใดดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อขาย?

ตัวบ่งชี้ปริมาณตัวใดดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อขาย?

สำรวจตัวบ่งชี้ปริมาณอันทรงพลัง 5 ตัว ได้แก่ OBV, VWAP, A/D Line, CMF และ Volume Profile เพื่อปรับปรุงการยืนยันแนวโน้มและจังหวะเวลาการซื้อขาย

2025-06-19
วิธีการเทรดตามกลยุทธ์ Break และ Retest เหมือนมืออาชีพ

วิธีการเทรดตามกลยุทธ์ Break และ Retest เหมือนมืออาชีพ

ต้องการซื้อขายแบบ breakout ให้ประสบความสำเร็จหรือไม่ เรียนรู้วิธีการ breakout และทดสอบซ้ำที่มืออาชีพใช้เพื่อรับการซื้อขายที่มีความน่าจะเป็นสูงพร้อมความเสี่ยงที่ลดลง

2025-06-19