ตลาดหุ้นเปิดทำการในวันเสาร์ อาทิตย์หรือไม่? ค้นหาเวลาซื้อขาย ข้อยกเว้นในวันหยุด และตลาดโลกดำเนินการอย่างไรหลังเวลาทำการ
เทรดเดอร์และนักลงทุนมือใหม่หลายคนมักสงสัยว่า: ตลาดหุ้น เสาร์ อาทิตย์ เปิดไหม? ซึ่งส่วนใหญ่บางคนคิดว่า "ไม่เปิด" แต่จริง ๆ แล้วมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันตามตลาด ภูมิภาค และแม้แต่โบรกเกอร์ที่คุณใช้งานก็ตาม
ไม่ว่าคุณจะลงทุนผ่าน NYSE, NASDAQ, BSE, NSE, ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน หรือโบรกเกอร์ออนไลน์ การเข้าใจเวลาทำการของตลาดอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้อย่างแม่นยำและตรงจังหวะยิ่งขึ้น
ในบทความนี้ เราจะอธิบายความเป็นจริงเกี่ยวกับการเปิด-ปิดของตลาดหุ้นในช่วงสุดสัปดาห์ เหตุผลที่ตลาดหยุดทำการ ตัวเลือกการซื้อขายที่ยังสามารถทำได้ และสิ่งที่เทรดเดอร์ควรรู้เพื่อนำไปปรับใช้ในกลยุทธ์ของตนเอง
คำตอบสั้น ๆ คือ ไม่ — ตลาดหุ้นหลักทั่วโลก ไม่เปิดทำการซื้อขายตามปกติในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยข้อกำหนดนี้ใช้กับแทบทุกตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ทั่วโลก เช่น:
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE)
NASDAQ
ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE)
ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE)
ตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติอินเดีย (NSE)
ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE)
ตลาดเหล่านี้โดยทั่วไปจะเปิดทำการ วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ในช่วงเวลาที่กำหนดของแต่ละประเทศ และ ปิดทำการในวันเสาร์และวันอาทิตย์
ต่อไปนี้คือตารางภาพรวมโดยทั่วไปของเวลาเปิด-ปิดของตลาดหลักทั่วโลก (ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละตลาด):
ตลาดหลักทรัพย์ | ประเทศ | วันเปิดทำการ | เวลาเปิดทำการ |
---|---|---|---|
NYSE / NASDAQ | สหรัฐอเมริกา | จันทร์–ศุกร์ | 09:30 – 16:00 น. EST |
LSE (London Stock Exchange) | สหราชอาณาจักร | จันทร์–ศุกร์ | 08:00 – 16:30 น. GMT |
TSE (Tokyo Stock Exchange) | ประเทศญี่ปุ่น | จันทร์–ศุกร์ | 09.00 – 15.00 น. JST |
SSE (Shanghai Stock Exchange) | จีน | จันทร์–ศุกร์ | 09:30 – 15:00 น. CST |
NSE / BSE | อินเดีย | จันทร์–ศุกร์ | 09:15 – 15:30 น. IST |
1) เหตุผลทางประวัติศาสตร์และการดำเนินงาน
ตารางเวลาของตลาดหุ้นถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับเวลาทำงานของภาคธุรกิจและธนาคาร ซึ่งโดยทั่วไปทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน การซื้อขายหุ้นในอดีตดำเนินการแบบพบหน้ากันในตลาด และกิจการส่วนใหญ่ก็ปิดทำการในวันหยุดสุดสัปดาห์ ถึงแม้ปัจจุบันจะมีระบบซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์แล้ว แต่แนวทางนี้ก็ยังคงสืบทอดอยู่
2) สภาพคล่องและปริมาณการซื้อขาย
ตลาดหุ้นต้องพึ่งพาสภาพคล่อง (Liquidity) และปริมาณการซื้อขายที่สูง เพื่อให้สามารถค้นหาราคาที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ปริมาณผู้เข้าร่วมตลาดจะลดลงอย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ความผันผวนเพิ่มขึ้นและคุณภาพในการส่งคำสั่งซื้อขายลดลง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะปิดทำการในวันเสาร์และอาทิตย์
3) การบริหารความเสี่ยง
หน่วยงานกำกับดูแลและสถาบันการเงินส่วนใหญ่นิยมให้มีช่วงเวลาการซื้อขายที่กำหนดแน่นอน เพื่อจุดประสงค์ดังนี้:
จัดการกระบวนการชำระราคาประจำวัน (Daily settlements)
ปรับตัวต่อข่าวสารหรือรายงานผลประกอบการ
ลดความเสี่ยงจากการเปิดรับตลาดตลอด 24 ชั่วโมง
การปิดตลาดในวันเสาร์-อาทิตย์ช่วยให้สถาบันต่าง ๆ มีเวลาวิเคราะห์ข้อมูลและเตรียมกลยุทธ์ โดยไม่ต้องเผชิญแรงกดดันจากราคาตลาดแบบเรียลไทม์
1. ตลาดซื้อขายคริปโต (Cryptocurrency Exchanges)
ตลาดคริปโตไม่เคยหลับ — เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ รวมถึงวันหยุดสุดเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วย
2. การซื้อขายก่อนตลาดเปิดและหลังตลาดปิด
แม้จะไม่ครอบคลุมถึงวันเสาร์–อาทิตย์ แต่โบรกเกอร์ในสหรัฐฯ หลายแห่งมีบริการขยายเวลาซื้อขาย ได้แก่:
Pre-market (ก่อนตลาดเปิด): ประมาณ 04:00 – 09:30 น. ตามเวลา EST
After-hours (หลังตลาดปิด): ประมาณ 16:00 – 20:00 น. ตามเวลา EST
แม้จะไม่ใช่การซื้อขายในช่วงสุดสัปดาห์โดยตรง แต่ช่วงเวลานี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถตอบสนองต่อรายงานผลประกอบการหรือข่าวสารนอกเวลาทำการได้ทันที
3. ตลาดฟิวเจอร์ส
บางตลาดฟิวเจอร์ส เช่น ดัชนีหรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ อาจเปิดซื้อขายช่วงเย็นวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันซื้อขายถัดไป โดยเฉพาะตลาด เช่น:
ฟิวเจอร์ส S&P 500 (ES)
ฟิวเจอร์สทองคำ (GC)
ฟิวเจอร์สน้ำมัน (CL)
ตัวอย่างเช่น CME Globex จะเปิดระบบในวันอาทิตย์ เวลา 18:00 น. EST สำหรับการซื้อขายฟิวเจอร์สในวันจันทร์
ไม่สามารถเทรดหุ้นแบบดั้งเดิมโดยตรงในวันหยุดสุดเสาร์ อาทิตย์ได้ ตลาดหุ้นหลักจะปิดในช่วงนี้ แต่ยังมีวิธีทางเลือกสำหรับจัดการความเสี่ยงและโอกาสในช่วงเวลานี้ได้ เช่น
1. การใช้โบรกเกอร์ CFD
CFD (Contracts for Difference) เป็นตราสารอนุพันธ์ประเภทหนึ่งที่โบรกเกอร์เสนอให้ โดยบางโบรกเกอร์อนุญาตให้เทรดหุ้นหรือดัชนีบางตัวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ เช่น โบรกเกอร์ EBC
อย่างไรก็ตาม ราคาของ CFD จะขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานที่โบรกเกอร์กำหนด ไม่ใช่ราคาตามตลาดจริงแบบเรียลไทม์
2. การวางแผนตำแหน่งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
แม้ว่าตลาดจะปิดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ช่วงเวลานี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์และเตรียมความพร้อม เช่น
ทบทวนกราฟรายสัปดาห์
วิเคราะห์รายงานผลกำไรของบริษัท
วางแผนจุดเข้าและออกตลาด
ตั้งการแจ้งเตือนและคำสั่งซื้อขายสำหรับวันจันทร์
แม้ว่าการเทรดสดจะหยุดชั่วคราวในช่วงวันหยุดสุดเสาร์ อาทิตย์ แต่ช่วงเวลานี้ก็เป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ในการเสริมสร้างทักษะการเทรดของคุณ:
1. การวิจัยตลาด
ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ในการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ศึกษารูปแบบกราฟ และเตรียมแผนการเทรด
2. กลยุทธ์ Backtest
ลองทดสอบกลยุทธ์ใหม่ๆ กับข้อมูลในอดีตโดยใช้โปรแกรมทดสอบย้อนหลัง เพื่อเพิ่มความแม่นยำโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง
3. การศึกษา
เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ อ่านหนังสือเกี่ยวกับการเทรด หรือลงเรียนคอร์สต่างๆ การเพิ่มพูนความรู้ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่เวลาซื้อขายจะช่วยเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับการทำงานที่ดีขึ้นตลอดสัปดาห์
4. ทบทวนบันทึกการเทรดของคุณ
ย้อนดูการเทรดที่ผ่านมา วิเคราะห์ว่าจุดไหนได้ผลดี จุดไหนไม่ดี และจะปรับปรุงอย่างไร สมุดบันทึกการเทรดคือครูที่ดีที่สุดของคุณ
แม้ว่าตลาดจะปิดในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ข่าวสารต่างๆ ไม่ได้หยุดลง เหตุการณ์สำคัญมักเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ เช่น
เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์
ภัยธรรมชาติ
นโยบายรัฐบาล
การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ในกรณีฉุกเฉิน)
เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลให้เกิด “ช่องว่างการเปิดตลาด” (gap open) คือ ราคาการเปิดตลาดในวันจันทร์ที่สูงหรือต่ำกว่าราคาปิดในวันศุกร์อย่างมีนัยสำคัญ
ตัวอย่าง :
ถ้าบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลในช่วงสุดสัปดาห์ หุ้นของบริษัทนั้นอาจเปิดตลาดในวันจันทร์ด้วยราคาที่ต่ำลง ซึ่งนักลงทุนไม่มีโอกาสตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้ในช่วงสุดสัปดาห์เลย
นี่จึงเป็นเหตุผลที่นักเทรดบางรายใช้คำสั่ง stop loss หรือเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง (hedging) ก่อนเข้าสู่ช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อจำกัดความเสี่ยงและปกป้องการลงทุนของตนเอง
สรุปได้ว่า ตลาดหุ้น เสาร์ อาทิตย์ เปิดไหม? คำตอบคือ ปิด แต่ไม่ได้หมายความว่าช่วงสุดสัปดาห์จะไร้ประโยชน์สำหรับนักเทรดเลย ในทางตรงกันข้าม ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับการวางแผนการเทรด ทบทวนกลยุทธ์ และเสริมสร้างจิตวิทยาการเทรด
ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ Day Trade, Swing Trader หรือ นักลงทุนระยะยาว ใช้ช่วงวันหยุดให้เป็นประโยชน์ในการเพิ่มพูนความรู้ บริหารจัดการความเสี่ยง และเตรียมพร้อมสำหรับการเทรดเมื่อเปิดตลาดอีกครั้ง ในระยะยาว ความอดทนและการวางแผนของคุณจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการเทรดอย่างเร่งรีบเสมอ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ค้นพบรูปแบบแท่งเทียนเดี่ยวสำคัญ 5 รูปแบบที่ส่งสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม และเรียนรู้วิธีการซื้อขายอย่างมั่นใจในตลาดใดๆ ก็ตาม
2025-06-26ค้นพบว่าการกวาดล้างสภาพคล่องในธุรกิจซื้อขายฟอเร็กซ์คืออะไร มันดักจับผู้ซื้อขายรายย่อยได้อย่างไร และคุณสามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์กับตนเองด้วยกลยุทธ์การเข้าอย่างชาญฉลาดได้อย่างไร
2025-06-26ค้นหาว่า Discord IPO อาจเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ไหน รายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ซื้อขาย และสิ่งที่คาดหวังจากการจดทะเบียนหุ้นเทคโนโลยีที่ได้รับการรอคอยอย่างมากในปี 2025 นี้
2025-06-26