กลยุทธ์ทำกำไรด้วย Theta Options อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการเทรดออปชัน การเข้าใจเกี่ยวกับ Theta Options ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปรับแต่งกลยุทธ์และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ โดยค่า Theta เป็นหนึ่งใน "ภาษากรีก (Greeks)" ที่นักเทรดใช้วัดความไวของราคาของออปชันต่อการลดค่าตามเวลา พูดง่าย ๆ คือ Theta Options จะบอกคุณว่าออปชันจะสูญเสียมูลค่าไปเท่าใดในแต่ละวันเมื่อเวลาผ่านไป โดยสมมติว่าปัจจัยอื่นๆเช่นราคาของสินทรัพย์อ้างอิงยังคงเดิม

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับแนวคิดเรื่องการลดค่าตามเวลา (Time Decay) ควรทราบว่า Theta Options เป็นองค์ประกอบสำคัญในการกำหนดราคาของออปชัน ยิ่งวันหมดอายุของออปชันใกล้เข้ามา มูลค่าของเวลา (Time Value) ก็จะยิ่งลดลง ซึ่งอาจส่งผลในทางบวกหรือทางลบต่อผู้เทรด ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ฝั่งซื้อหรือขายออปชัน

การเข้าใจการทำงานของ Theta Options และนำมาใช้ร่วมกับกลยุทธ์การเทรดของคุณอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้นและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ

Theta Options คืออะไร?

Theta Options หมายถึงการลดค่าตามเวลาที่เกิดขึ้นกับสัญญาออปชัน โดยการลดค่าตามเวลา (Time Decay) คือการที่มูลค่าของออปชันค่อย ๆ ลดลงเมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุ โดยค่า Theta จะเป็นตัววัดในเชิงปริมาณของการลดค่าดังกล่าว เช่น ถ้าออปชันมีค่า Theta เท่ากับ -0.05 หมายความว่าออปชันนั้นจะสูญเสียมูลค่าไป 5 เซนต์ต่อวัน หากปัจจัยอื่น ๆ ในตลาดยังคงเดิม

สำหรับผู้ที่ถือสถานะซื้อ (ทั้ง Call และ Put) การลดค่าของ Theta จะส่งผลให้มูลค่าออปชันลดลงในแต่ละวัน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่นักเทรดซึ่งถือสถานะ Long Option มักกังวลกับ Time Decay เพราะยิ่งถือไว้นาน ออปชันยิ่งสูญเสียมูลค่า โดยเฉพาะเมื่อราคาสินทรัพย์อ้างอิงไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการ

ในทางกลับกัน สำหรับผู้ขายออปชัน ค่า Theta จะส่งผลดี เนื่องจากสามารถทำกำไรจากการที่มูลค่าออปชันลดลงเมื่อเวลาผ่านไป และอาจซื้อคืนออปชันได้ในราคาถูกลงหรือปล่อยให้หมดอายุไปโดยไม่ต้องดำเนินการใด ๆ

บทบาทของ Theta Options ในการกำหนดราคาออปชัน

Theta Options ของสัญญาออปชันแต่ละตัวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดราคา แต่อย่าลืมว่ายังมีองค์ประกอบอื่นที่เรียกว่า "กรีก (Greeks)" เช่น Delta, Gamma และ Vega ที่มีผลต่อราคาด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อออปชันใกล้หมดอายุ การลดค่าตามเวลา (Time Decay) ซึ่งวัดด้วย Theta จะกลายเป็นปัจจัยหลักที่ครอบงำมากที่สุด

ในการเทรดออปชัน คุณจะสังเกตได้ว่า Theta Options มีผลมากที่สุดกับออปชันที่อยู่ในสถานะ At-The-Money (ATM) เพราะออปชันประเภทนี้มีมูลค่าของเวลามากที่สุดและเสี่ยงต่อการลดค่ามากที่สุด ตัวอย่างเช่น หากออปชันมีค่า Theta สูง ก็จะสูญเสียมูลค่าอย่างรวดเร็วเมื่อเข้าใกล้วันหมดอายุ ซึ่งหมายความว่า Time Decay สามารถกัดกินพรีเมียมของออปชันได้อย่างมาก

กล่าวโดยสรุป ยิ่งออปชันเข้าใกล้วันหมดอายุมากเท่าใด ก็ยิ่งมีความไวต่อผลกระทบของ Theta Options มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดออปชันต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะหากละเลยเรื่อง Time Decay อาจนำไปสู่การขาดทุนโดยไม่คาดคิด

การใช้ Theta Options เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การเทรด

การนำ Theta Options มาปรับใช้ในกลยุทธ์การเทรด ช่วยให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ประโยชน์จากการลดค่าตามเวลา (Time Decay) หรือบริหารจัดการผลกระทบจากมันอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับนักเทรดที่ต้องการเก็บเกี่ยวผลกำไรจาก Time Decay การขายออปชันเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเมื่อคุณขายออปชันคุณจะมีภาระผูกพันในการส่งมอบสินทรัพย์อ้างอิง (กรณี Call Option) หรือรับซื้อ (กรณี Put Option) แต่ในทางกลับกัน คุณจะได้รับพรีเมียมทันที

เมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าของออปชันจะค่อย ๆ ลดลง และหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่เหมาะสม คุณก็สามารถรักษาพรีเมียมที่ได้รับไว้ได้โดยไม่ต้องดำเนินการใดเพิ่มเติม

หากคุณเป็นผู้ซื้อออปชัน (Option Buyer) ค่า Theta อาจส่งผลเสียต่อคุณ เนื่องจากมูลค่าของเวลาในออปชันที่คุณถือไว้จะลดลงเรื่อย ๆ คุณจึงจำเป็นต้องให้ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นประโยชน์อย่างชัดเจน เพื่อชดเชยผลขาดทุนจาก Time Decay ตัวอย่างเช่น หากคุณถือ Call Option ที่อยู่นอกสถานะ (Out-of-the-Money) ราคาของสินทรัพย์จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากจึงจะเพียงพอในการชดเชยมูลค่าที่ลดลงในแต่ละวันจาก Theta

หนึ่งในกลยุทธ์ที่สามารถช่วยบริหาร Theta ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการทำสเปรด (Spread) ซึ่งหมายถึงการซื้อและขายออปชันที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) หรือวันหมดอายุที่ต่างกัน กลยุทธ์นี้ช่วยสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและ Time Decay เช่นในกรณีของ Bull Put Spread คุณจะขาย Put ที่มีวันหมดอายุใกล้ และซื้อ Put ที่มีวันหมดอายุไกลกว่า ซึ่งช่วยให้คุณได้รับพรีเมียมจากออปชันที่ขาย ในขณะเดียวกันก็มีออปชันที่ซื้อไว้เพื่อจำกัดความเสี่ยง ซึ่งเป็นการบริหารผลกระทบจาก Theta Options ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบของ Theta Options เมื่อใกล้หมดอายุ

เมื่อออปชันเข้าใกล้วันหมดอายุ อัตราการลดค่าของ Time Decay จะยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ถือสถานะซื้อ หากราคาสินทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลงภายในระยะเวลาสั้น ๆ ออปชันที่ถืออยู่อาจสูญเสียมูลค่ามากจนนำไปสู่การขาดทุน

ตัวอย่างเช่น Out-of-the-Money Option ที่ยังมีเวลาอีกสองสามสัปดาห์อาจมี Time Value อยู่บ้าง แต่เมื่อเหลือเวลาเพียงไม่กี่วัน Time Value นั้นจะลดลงเร็วมาก นักเทรดจำนวนมากจึงนิยมปิดสถานะก่อนหมดอายุ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจาก Theta Options

ในทางตรงกันข้าม ผู้ขายออปชันกลับได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เพราะพรีเมียมที่เคยขายไว้จะลดลงอย่างรวดเร็ว และสามารถซื้อคืนในราคาต่ำ หรือปล่อยให้หมดอายุโดยที่ตนได้รับกำไรเต็มจำนวน

กลยุทธ์ที่นิยมใช้เพื่อทำกำไรจาก Theta Options

มีกลยุทธ์หลายแบบที่นักเทรดนิยมใช้เพื่อสร้างผลกำไรจาก Theta Options โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลดค่าตามเวลา (Time Decay) การขายออปชันถือเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุด เพราะเมื่อคุณขายออปชัน โดยเฉพาะออปชันที่ใกล้วันหมดอายุ คุณสามารถรับพรีเมียมไว้ และปล่อยให้มูลค่าของออปชันค่อย ๆ ลดลงจากผลของ Theta

กลยุทธ์ง่าย ๆ ที่นิยมใช้คือ Covered Call ซึ่งหมายถึงการขาย Call Option บนหุ้นที่คุณถือครองอยู่แล้ว เมื่อออปชันใกล้หมดอายุ Time Decay จะส่งผลในทางที่เป็นประโยชน์กับคุณ และคุณสามารถเก็บพรีเมียมจากการขาย Call ได้เต็มจำนวนหากราคาหุ้นไม่ทะลุราคาที่กำหนดไว้

อีกกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยสร้างกำไรจาก Theta Options คือ Iron Condor และ Iron Butterfly กลยุทธ์เหล่านี้ประกอบด้วยการขายทั้ง Call และ Put ที่อยู่ใกล้ราคาปัจจุบัน และซื้อออปชันอีกชุดหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป เพื่อใช้เป็นการป้องกันความเสี่ยง (Hedge) เป้าหมายของกลยุทธ์เหล่านี้คือการใช้ประโยชน์จาก Time Decay เมื่อราคาสินทรัพย์ยังคงอยู่ภายในกรอบที่กำหนด มูลค่าของออปชันที่ขายไว้จะลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้คุณสามารถทำกำไรได้จากส่วนต่างของพรีเมียม

สรุป

การทำความเข้าใจ Theta Options เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เทรดออปชันทุกคน เนื่องจากการลดค่าตามเวลา มีผลกระทบอย่างมากต่อราคาของออปชันและความสามารถในการทำกำไร หากคุณสามารถบริหาร Theta ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงในการเทรด

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จาก Time Decay การขายออปชันและการใช้กลยุทธ์แบบ Spread ถือเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูง ส่วนผู้ที่เป็นผู้ซื้อออปชันก็ควรมีความเข้าใจใน Theta Options และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องเพื่อลดผลกระทบจาก Time Decay ท้ายที่สุดแล้ว การมีความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับ Theta Options จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความซับซ้อนของการเทรดออปชันได้อย่างมั่นใจและแม่นยำยิ่งขึ้น

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่าการลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือกลยุทธ์การลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ