เปิดโลกทอง CFD ฟิวเจอร์ส และ ETF ต่างกันยังไง?

ทองยังคงเป็นสินทรัพย์สำคัญที่นักลงทุนและนักเทรดหลายคนเลือกใช้ในการสร้างผลตอบแทน แต่สิ่งที่อาจสร้างความแตกต่างอย่างมาก คือ “วิธีที่คุณเลือกลงทุนในทองคำ” เพราะแต่ละวิธีมีผลต่อกลยุทธ์และผลลัพธ์ที่ได้ ปัจจุบันมี 3 วิธีที่ได้รับความนิยมในการลงทุนหรือเก็งกำไรจากราคาทอง ได้แก่ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD), ฟิวเจอร์สทองคำ และกองทุน ETF ทองคำ ซึ่งแต่ละแบบก็มีทั้งข้อดี ความเสี่ยง และลักษณะการเทรดที่ต่างกัน

บทความนี้จะพาคุณไปเปรียบเทียบข้อแตกต่างของทั้ง 3 รูปแบบ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีลงทุนทองคำที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณมากที่สุด

ทอง CFD : การซื้อขายที่ยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่าย

ทอง CFD (Contract for Difference) คือเครื่องมืออนุพันธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองได้ โดยไม่ต้องถือครองทองจริง การเทรดทอง CFD คือการทำสัญญาซื้อขายส่วนต่างของราคาทองระหว่างเวลาที่เปิดและปิดสถานะ โดยทั่วไปแล้วจะซื้อขายผ่านระบบออนไลน์แบบ OTC (Over-the-Counter) กับโบรกเกอร์

จุดเด่นของทอง CFD:

• ไม่มีการส่งมอบทองจริง: การซื้อขายจะชำระด้วยเงินสด โดยไม่มีการส่งมอบทองจริง

• ไม่มีวันหมดอายุ: ไม่เหมือนฟิวเจอร์ส ทอง CFD ไม่มีวันครบกำหนด สามารถถือสถานะได้นานตราบใดที่ยังรักษาระดับมาร์จิ้นได้

• เลเวอเรจ: CFD มักเสนอเลเวอเรจที่สูงกว่าฟิวเจอร์สหรือ ETF โดยโบรกเกอร์บางรายเสนอให้สูงถึง 1:500 ส่งผลให้ทั้งกำไรและขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น

• เทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง: สามารถทำกำไรจากทั้งการขึ้นและลงของราคาทอง จึงเหมาะสำหรับนักเทรดที่เน้นความคล่องตัว

• ไม่มีความเสี่ยงด้านการเก็บรักษา: เนื่องจากไม่มีการถือทองจริง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บหรือประกันภัย

ความเสี่ยงที่ควรระวัง:

ความเสี่ยงหลักของ CFD คือการใช้เลเวอเรจ แม้ว่าจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมสถานะขนาดใหญ่ด้วยเงินฝากเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนจำนวนมากด้วยเช่นกัน และหากถือสถานะข้ามวัน อาจมีค่าธรรมเนียมการถือสถานะ ( Swap หรือ Overnight Fee) ที่ต้องพิจารณา

ฟิวเจอร์สทอง: เลเวอเรจสูงและมาตรฐานชัดเจน

ฟิวเจอร์สทองคำเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีมาตรฐานแน่นอน และซื้อขายในตลาดที่มีการกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ โดยผู้ซื้อมีข้อผูกพันที่จะต้องซื้อ และผู้ขายต้องส่งมอบทองในปริมาณที่กำหนด ณ ราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในวันครบสัญญา

จุดเด่นของฟิวเจอร์สทอง:

• สัญญาแบบมาตรฐาน: สัญญาแต่ละฉบับจะแสดงปริมาณทองที่แน่นอน (เช่น 100 ออนซ์ สำหรับสัญญาแบบมาตรฐาน และ 10 ออนซ์ สำหรับสัญญาแบบไมโคร)

• เลเวอเรจ: ต้องวางเงินประกันเริ่มต้น (Initial Margin) ประมาณ 5% ของมูลค่าสัญญา ทำให้สามารถควบคุมสถานะขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนที่น้อย

• วันหมดอายุ: สัญญาฟิวเจอร์สมีวันหมดอายุที่แน่นอน หากต้องการคงสถานะการลงทุนไว้ต้องทำการปิดหรือ rollover

• สามารถส่งมอบทองจริงได้: แม้ส่วนใหญ่จะปิดสถานะก่อนวันครบกำหนด แต่ในทางทฤษฎีฟิวเจอร์สสามารถนำไปสู่การส่งมอบทองจริงได้

• ซื้อขายผ่านตลาดที่มีการกำกับดูแล: ฟิวเจอร์สซื้อขายในตลาดที่มีความโปร่งใส มีสภาพคล่อง และอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด

ความเสี่ยงที่ควรระวัง:

ฟิวเจอร์สถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเลเวอเรจและโอกาสที่อาจถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับสถานะที่ถืออยู่ นักลงทุนอาจต้องเติมเงินประกันเพิ่มเติมเพื่อรักษาสถานะ หรือถูกบังคับปิดสถานะโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังต้องบริหารจัดการสัญญาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อใกล้วันครบอายุ

ETF ทอง: เรียบง่ายและสภาพคล่องสูง

ETF ทอง (Gold ETF) คือกองทุนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสะท้อนราคาทอง เมื่อคุณซื้อหน่วยลงทุนใน ETF ทอง เท่ากับว่าคุณได้มีส่วนในการลงทุนตามราคาทองโดยไม่ต้องถือครองทองจริง

จุดเด่นของ ETF ทอง:

• ไม่มีเลเวอเรจ: โดยทั่วไปแล้ว ETF จะซื้อขายเหมือนหุ้นทั่วไป โดยไม่มีเลเวอเรจ ยกเว้นในกรณีที่คุณใช้บัญชีมาร์จิ้นกับโบรกเกอร์

• สภาพคล่องสูง: สามารถซื้อขาย ETF ได้ตลอดเวลาทำการของตลาดพร้อมส่วนต่างราคา (Bid-Ask Spread) ที่แคบ

• ไม่มีวันหมดอายุ: นักลงทุนสามารถถือครองหน่วยลงทุน ETF ได้นานเท่าที่ต้องการ จึงเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว

• ค่าธรรมเนียมการจัดการ: โดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายรายปีประมาณ 0.25%–0.40% ซึ่งอาจส่งผลต่อผลตอบแทนในระยะยาว

• ไม่มีการส่งมอบทองจริง: นักลงทุนไม่ได้ถือทองโดยตรง โดยกองทุนจะเป็นผู้ดูแลการถือครองทองแทน

ความเสี่ยงที่ควรระวัง:

แม้ ETF จะใช้งานง่ายและมีสภาพคล่องสูง แต่ก็อาจมีความคลาดเคลื่อนของราคา (Tracking Error) ซึ่งทำให้ราคาของ ETF อาจไม่ตรงกับราคาทองในตลาดแบบเรียลไทม์ รวมถึงมีค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ และในบางกรณีที่หายาก อาจเกิดความเสี่ยงจากการปิดกองทุนได้

เปรียบเทียบทอง CFD, ฟิวเจอร์ส และ ETF

การเลือกเครื่องมือทองให้เหมาะกับคุณ

• ทอง CFD เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความยืดหยุ่น ใช้เลเวอเรจสูง และสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงที่ราคาทองคำขึ้นและลง เหมาะกับผู้ที่ถนัดการเทรดระยะสั้นและสามารถบริหารความเสี่ยงจากเลเวอเรจได้ดี

• ฟิวเจอร์สทอง เหมาะกับนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการเข้าถึงตลาดที่มีการกำกับดูแล เข้าถึงเลเวอเรจสูง และต้องการซื้อขายสัญญาที่เป็นมาตรฐาน โดยต้องมีความเข้าใจเรื่องมาร์จิ้นและการบริหารสถานะอย่างใกล้ชิด

• ETF ทอง เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาวิธีติดตามราคาทองคำแบบเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน มีต้นทุนต่ำ สามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นทั่วไป และไม่ต้องกังวลเรื่องเลเวอเรจหรือวันหมดอายุของสัญญา

บทสรุป

หากคุณต้องการลงทุนหรือเทรดทองคำอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจความแตกต่างระหว่างทอง CFD, ฟิวเจอร์ส และ ETF ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ เพราะแต่ละรูปแบบมีจุดเด่น จุดด้อย และความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเทรดที่ชอบความรวดเร็ว หรือเป็นนักลงทุนที่มองไกลในระยะยาว การเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับสไตล์และเป้าหมายของคุณ จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากทองคำได้อย่างเต็มที่ และวางแผนได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ