ค้นพบว่าสกุลเงินที่ออสเตรเลียใช้คืออะไร เรียนรู้การทำงานของเงินออสเตรเลีย ประวัติความเป็นมา และวิธีที่นักเทรดซื้อขายเงินดอลลาร์ออสเตรเลียในตลาดโลก
ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) มีบทบาทสำคัญทั้งในระบบเศรษฐกิจของประเทศและในตลาดการเงินโลก ด้วยการเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุน นักเทรด และนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก
หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการเทรดฟอเร็กซ์ การทำความเข้าใจการทำงานของเงินออสเตรเลียถือเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับเงินออสเตรเลีย ทั้งในด้านประวัติความเป็นมา ลักษณะเฉพาะ และวิธีการซื้อขายในตลาดโลกอย่างครบถ้วน
สกุลเงินอย่างเป็นทางการของออสเตรเลียคือ ดอลลาร์ออสเตรเลีย (Australian Dollar) ใช้ตัวย่อว่า AUD และสัญลักษณ์ว่า "$" หรือบางครั้งเขียนว่า "A$" เพื่อแยกความแตกต่างจากดอลลาร์ของประเทศอื่น เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) หรือดอลลาร์แคนาดา (CAD) ดอลลาร์ออสเตรเลียถือเป็นเงินตราถูกต้องตามกฎหมายในประเทศออสเตรเลียและดินแดนภายนอก เช่น เกาะนอร์ฟอล์ก เกาะคริสต์มาส และหมู่เกาะโคโคส (คีลิง)
ดอลลาร์ออสเตรเลียแบ่งย่อยเป็น 100 เซนต์ โดยมีเหรียญมูลค่าตั้งแต่ 5 เซนต์ถึง 2 ดอลลาร์ และธนบัตรมูลค่าตั้งแต่ 5 ดอลลาร์ถึง 100 ดอลลาร์ การออกและควบคุมเงินสกุลนี้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของธนาคารกลางออสเตรเลีย (Reserve Bank of Australia: RBA) ซึ่งมีหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ก่อนปี 1966 ออสเตรเลียใช้ "ปอนด์ออสเตรเลีย" ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเงินปอนด์ของอังกฤษ ต่อมาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1966 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบเงินตราใหม่โดยใช้ระบบทศนิยม และเปิดตัว "ดอลลาร์ออสเตรเลีย" เพื่อให้ระบบการเงินทันสมัยขึ้นและง่ายต่อการค้าขาย
หนึ่งในจุดเด่นของเงิน AUD คือการเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ใช้ธนบัตรโพลีเมอร์ (Polymer Banknotes) ซึ่งทนทานและมีระบบป้องกันการปลอมแปลงที่ล้ำหน้า และในปัจจุบันธนบัตรแบบนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานในหลายประเทศทั่วโลก
ดอลลาร์ออสเตรเลียจัดเป็น "สกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Currency)" เพราะเศรษฐกิจของออสเตรเลียพึ่งพาการส่งออกสินค้าทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน ทองคำ และก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะกับจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่
ด้วยเหตุนี้ AUD จึงมีความไวต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และบรรยากาศเศรษฐกิจโลก นักลงทุนมักเลือกถือครอง AUD ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตและตลาดมีความเสี่ยงต่ำ แต่จะหลีกเลี่ยงในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
ดอลลาร์ออสเตรเลียมีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในช่วงเวลาการซื้อขายของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะระหว่างเวลา 07:00 – 16:00 น. (AEST) ซึ่งตรงกับเวลาตลาดซิดนีย์และโตเกียวเปิดทำการ นอกจากนี้ ความผันผวนของ AUD ยังเพิ่มขึ้นในช่วงที่ตลาดยุโรปเริ่มเปิด
คู่สกุลเงิน AUD/USD ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนในสหรัฐฯ จึงมีปริมาณการซื้อขายสูงในช่วงเวลาตลาดอเมริกาเช่นกัน
คู่สกุลเงินยอดนิยมที่ใช้เทรด AUD
คู่สกุลเงิน AUD ที่มีการเทรดบ่อยที่สุด ได้แก่:
AUD/USD – เรียกกันว่า “Aussie” เป็นคู่ที่นิยมมากที่สุด คู่เงินนี้แสดงถึงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐฯ
AUD/JPY – มีความผันผวนสูง โดยได้รับผลจากราคาสินค้าโภคภัณและความเสี่ยงของตลาด
AUD/NZD – สะท้อนเศรษฐกิจของสองประเทศเพื่อนบ้าน
EUR/AUD และ GBP/AUD – เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการเก็งกำไรจากความต่างของสกุลเงินระหว่างยุโรปกับออสเตรเลีย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินออสเตรเลีย
1. อัตราดอกเบี้ย
การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลียส่งผลโดยตรงต่อค่าเงิน ยิ่งดอกเบี้ยสูงนักลงทุนต่างชาติก็ยิ่งสนใจนำเงินเข้ามาลงทุน ส่งผลให้ความต้องการสกุลเงินนี้เพิ่มมากขึ้น
2. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์
เนื่องจากเป็นประเทศที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ เศรษฐกิจของออสเตรเลียจึงมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับวัฏจักรสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก ราคาแร่เหล็ก ถ่านหิน และทองคำที่พุ่งสูงขึ้นมักทำให้ค่าเงิน AUD แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงอาจทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
3. ดุลการค้า
ดุลการค้าของออสเตรเลียส่งผลกระทบต่อ AUD เช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว การค้าเกินดุลจะทำให้เงินแข็งค่าขึ้น ในขณะที่การขาดดุลอาจทำให้เงินอ่อนค่าลง
4. เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง
ความเชื่อมั่นของตลาดต่อการกำกับดูแลเศรษฐกิจ นโยบายการคลัง และเสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ของออสเตรเลีย ส่งผลให้สกุลเงิน AUD ดูน่าดึงดูดในตลาดต่างประเทศ
การเทรดสกุลเงินออสเตรเลียได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ โดยถือเป็นหนึ่งใน 5 สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก ซึ่งมักจับคู่ซื้อขายกับสกุลเงิน USD, EUR, JPY และ NZD
1. ตลาดฟอเร็กซ์ (Forex Market)
วิธีที่ตรงที่สุดในการซื้อขาย AUD คือผ่านตลาดฟอเร็กซ์ ซึ่งเป็นตลาดที่ไม่มีศูนย์กลาง นักเทรดสามารถเก็งค่าของ AUD เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น เช่น คู่เงิน AUD/USD, AUD/JPY หรือ EUR/AUD
2. สัญญาฟิวเจอร์ส (Futures Contracts)
สัญญาฟิวเจอร์สของ AUD คือข้อตกลงมาตรฐานที่ซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ เช่น Chicago Mercantile Exchange (CME) เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการรับความเสี่ยงจากค่าเงิน AUD โดยมีวันหมดอายุและขนาดสัญญาที่ชัดเจน
3. ETF (Exchange-Traded Funds)
กองทุน ETF ด้านสกุลเงิน เช่น Invesco CurrencyShares Australian Dollar Trust (FXA) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนใน AUD โดยไม่ต้องซื้อขายผ่านโบรกเกอร์โดยตรง
4. CFD (Contracts for Difference)
CFD เปิดโอกาสให้นักเทรดสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา AUD โดยไม่ต้องถือครองสกุลเงินจริง เป็นเครื่องมือที่มีความเสี่ยงสูงและใช้เลเวอเรจจึงเหมาะกับนักเทรดระยะสั้นที่มีประสบการณ์มากกว่า
กลยุทธ์สำหรับมือใหม่ในการเทรดเงินออสเตรเลีย
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นเทรดเงินออสเตรเลีย ลองพิจารณากลยุทธ์เบื้องต้นที่เข้าใจง่ายและเหมาะสำหรับมือใหม่ดังต่อไปนี้:
1. การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following)
ให้ความสำคัญกับการระบุแนวโน้มหลักโดยใช้เครื่องมืออย่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) ควรเปิดสถานะตามทิศทางของแนวโน้มหลัก และหลีกเลี่ยงการสวนทางกับแรงโมเมนตัมของตลาด
2. การเทรดแบบเบรกเอาต์ (Breakout Trading)
ติดตามระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญบนกราฟราคา เมื่อราคาทะลุผ่านระดับเหล่านี้ด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูง มักจะตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงซึ่งสามารถใช้โอกาสในการทำกำไรได้
3. การเทรดในกรอบ (Range Trading)
ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนต่ำ ค่าเงิน AUD มักเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคาที่ชัดเจน กลยุทธ์นี้คือการซื้อเมื่อราคาลงมาที่แนวรับและขายเมื่อขึ้นไปที่แนวต้าน
ความสม่ำเสมอและวินัยเป็นสิ่งสำคัญ หลีกเลี่ยงการเทรดมากเกินไป และควรควบคุมอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio) อย่างเหมาะสมเสมอ
ณ กลางปี 2025 ดอลลาร์ออสเตรเลียแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก โดยเริ่มต้นปีที่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีใกล้ 0.6150 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะทยอยแข็งค่าขึ้นมาเคลื่อนไหวในช่วง 0.65 – 0.6550 ภายในเดือนมิถุนายน การฟื้นตัวดังกล่าวสะท้อนถึงทั้งปัจจัยภายในและภายนอกดังนี้:
1. ความแข็งแกร่งของค่าเงินและแนวรับทางเทคนิค
ค่าเงิน AUD/USD กลับมายืนเหนือระดับ 0.6500 ได้อีกครั้งในช่วงที่ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงทั่วโลก และหยุดพักหลังจากแตะจุดสูงสุดใหม่ของปี 2025 ที่ใกล้ 0.6550
สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่ามีแนวรับบริเวณ 0.6434 (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน) และแนวต้านอยู่ใกล้ระดับสูงสุดของปีที่ 0.6545
2. ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เริ่มต้นปี 2025 ด้วยการผ่อนคลายนโยบายการเงินโดยลดอัตราดอกเบี้ยลงมาใกล้ระดับ 3.85% และคาดว่าจะปรับลดลงสู่ประมาณ 3.20% ภายในปี 2027
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงดำเนินนโยบายตามข้อมูลเศรษฐกิจ (data-dependent) โดยอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งทำให้ความแตกต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างสองประเทศแคบลง และช่วยสนับสนุนค่าเงิน AUD ในระดับหนึ่ง
3. สัญญาณเศรษฐกิจผสมผสานของจีน
การฟื้นตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนสร้างความเชื่อมั่นในตลาด แต่ข้อมูลด้านการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนที่อ่อนแอยังคงกดดันบรรยากาศโดยรวม
เนื่องจากออสเตรเลียพึ่งพาการค้ากับจีนเป็นหลัก ภาวะเศรษฐกิจของจีนจึงยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางค่าเงิน AUD
4. ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และการส่งออก
แม้จะเผชิญกับแรงต้านจากเศรษฐกิจจีน แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักอย่างแร่เหล็กและทองแดงยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยพยุงค่าเงิน AUD
จากการคาดการณ์ของ UBS ค่าเงิน AUD อาจแข็งค่าขึ้นสู่ระดับประมาณ 0.68 ภายในช่วงปลายปี 2025 หากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงทรงตัวได้ดี
5. บบรยากาศในตลาดและสถานะการเก็งกำไร
ข้อมูลล่าสุดจาก CFTC แสดงให้เห็นว่าสถานะการขายสุทธิ (Net Short Position) เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในเชิงลบที่เริ่มขยายตัว
อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมเชิงเทคนิคยังคงอยู่ในทิศทางบวก แม้การปรับขึ้นของราคาจะถูกจำกัดไว้ที่ระดับสูงสุดของปี 2025
สรุปแล้ว ดอลลาร์ออสเตรเลียไม่ได้เป็นเพียงแค่สกุลเงินที่ใช้ในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลก
ด้วยความเชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์และการเคลื่อนไหวในตลาดฟอเร็กซ์ ทำให้ค่าเงิน AUD เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเรียนรู้ เข้าใจแนวโน้ม และบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
USD/CAD พุ่งขึ้นใกล้เส้น EMA 20 วัน เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการเจรจาการค้าส่งผลต่อความรู้สึกของตลาด
2025-06-19ต้องการซื้อขายแบบ breakout ให้ประสบความสำเร็จหรือไม่ เรียนรู้วิธีการ breakout และทดสอบซ้ำที่มืออาชีพใช้เพื่อรับการซื้อขายที่มีความน่าจะเป็นสูงพร้อมความเสี่ยงที่ลดลง
2025-06-19สำรวจตัวบ่งชี้ปริมาณอันทรงพลัง 5 ตัว ได้แก่ OBV, VWAP, A/D Line, CMF และ Volume Profile เพื่อปรับปรุงการยืนยันแนวโน้มและจังหวะเวลาการซื้อขาย
2025-06-19