Turtle Trading หรือกลยุทธ์เต่า: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

2025-06-11
สรุป

Turtle Trading คือกลยุทธ์เทรดตามเทรนด์ โดยสร้างขึ้นบนกฎและการควบคุมความเสี่ยงที่เข้มงวด หาคำตอบถึงต้นกำเนิด การใช้งาน และทำไมเทรดเดอร์ถึงเลือกใช้ได้ในบทความนี้

ระบบเทรดที่มีชื่อเสียงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเทรดหลายคนอย่างมาก คือ Turtle Trading (การเทรดแบบเต่า) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งระบบนี้พิสูจน์ว่า การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างมีวินัย ไม่ใช่การใช้สิ่งที่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง หลายสิบปี ระบบเทรด Turtle แสดงให้เห็นว่านักเทรดมือใหม่ก็สามารถฝึกฝนจนทำผลงานได้ดีกว่าเทรดเดอร์มืออาชีพ ซึ่งหลักการของระบบนี้ยังคงมีความสำคัญสำหรับนักเทรดที่ต้องการวิธีเทรดอย่างเป็นระบบเพื่อจับจังหวะเทรนด์ของตลาด


จุดเริ่มต้นของ Turtle Trading


การทดลอง Turtle Trading เริ่มขึ้นในปี 1983 จากเดิมพันระหว่างนักเทรดผู้มากประสบการณ์สองคน ได้แก่ ริชาร์ด เดนนิส และวิลเลียม เอกฮาร์ท เดนนิส ซึ่งเป็นนักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ เชื่อว่าการเทรดที่ดีสามารถสอนกันได้ ส่วนเอกฮาร์ท เชื่อว่านักเทรดเก่ง ๆ นั้นเป็นมาตั้งแต่เกิด ไม่สามารถฝึกสอนได้

Richard Dennis

เพื่อตัดสินข้อโต้แย้งนี้ พวกเขาได้คัดเลือกกลุ่มบุคคลจากหลากหลายพื้นฐาน — บางคนไม่มีประสบการณ์ทางการเงินเลย — และฝึกสอนพวกเขาด้วยชุดกฎการเทรดที่เรียบง่าย กลุ่มนี้จึงได้ชื่อว่า “เต่า” (Turtles) ภายในเวลาเพียงสองสัปดาห์หลังการฝึกอบรม เต่าเหล่านี้ก็เริ่มทำการเทรดด้วยเงินจริง และในช่วงหลายปีต่อมา หลายคนประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง ซึ่งพิสูจน์ความเห็นของเดนนิสว่า การเทรดที่ดีสามารถสอนได้จริง


ระบบนี้อิงอยู่บนกลยุทธ์ที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยเน้นการตามเทรนด์ การควบคุมความเสี่ยง และวินัย — ซึ่งเป็นเสาหลักสามประการที่ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของระบบการเทรดสมัยใหม่จนถึงวันนี้


หลักการและกฎสำคัญ

Turtle Trading

แก่นแท้ของระบบเทรดแบบ Turtle Trading คือกลยุทธ์ตามเทรนด์แบบอัตโนมัติ (mechanical trend-following) ที่ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคในการกำหนดจุดเข้าและออก โดยอาศัยการเคลื่อนไหวของราคาเป็นหลัก โดยไม่ใช้การวิเคราะห์พื้นฐาน


องค์ประกอบสำคัญมีดังนี้:


  • สัญญาณเข้าเทรด Breakout: เต่าจะเข้าซื้อขายเมื่อราคาทะลุจุดสูงสุดหรือต่ำสุดของช่วงวันที่กำหนด (โดยทั่วไปใช้เบรกเอาต์ 20 วันสำหรับการเข้า)

  • การกำหนดขนาดตำแหน่งตามความผันผวน: ระบบใช้ค่า Average True Range (ATR) หรือที่เรียกว่า "ค่า N" เพื่อกำหนดจำนวนสัญญาที่จะเทรด ความผันผวนสูงตำแหน่งจะเล็กลง ความผันผวนต่ำตำแหน่งจะใหญ่ขึ้น

  • การกระจายการลงทุน: เต่าจะเทรดหลากหลายตลาด เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน และฟิวเจอร์สทางการเงิน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและความสัมพันธ์ระหว่างตลาด

  • การต่อเนื่องของแนวโน้ม: ตำแหน่งจะถูกเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อแนวโน้มได้รับการยืนยัน โดยมักใช้การเบรกเอาต์เพิ่มเติมเป็นสัญญาณ

  • ระบบ 1 และ ระบบ 2: เต่าใช้กลยุทธ์สองแบบ — ระบบ 1 เป็นแบบระยะสั้น (เบรกเอาต์ 20 วัน) และระบบ 2 เป็นแบบระยะยาว (เบรกเอาต์ 55 วัน) เพื่อความยืดหยุ่นตามสภาพตลาด


กฎเหล่านี้ถูกปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยแทบไม่มีที่ว่างให้กับอารมณ์เข้ามาแทรกแซง เน้นย้ำที่ความมีวินัยและความสม่ำเสมอ


ตลาดและช่วงเวลาของระบบ Turtle Trading


ระบบ Turtle Trading ดั้งเดิมถูกนำไปใช้กับตลาดฟิวเจอร์สที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งง่ายต่อการเทรดในปริมาณมากและช่วยให้การส่งคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือที่นิยมใช้ ได้แก่:


  • น้ำมันดิบ

  • ทองคำและเงิน

  • ฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ย

  • สินค้าเกษตร

  • คู่สกุลเงินหลัก (เช่น USD, EUR, JPY, GBP)

  • ดัชนีหุ้น (เช่น ฟิวเจอร์ส S&P 500)


แม้ว่านักเทรดสมัยใหม่อาจไม่มีโอกาสเข้าถึงตลาดฟิวเจอร์สทั้งหมด แต่แนวคิดหลักสามารถปรับใช้กับการเทรด CFD, ETF หรือแม้แต่ตลาดฟอเร็กซ์สปอตได้ โดยใช้เครื่องมือและการควบคุมความเสี่ยงที่เหมาะสม


ในด้านช่วงเวลา กลยุทธ์นี้ใช้กับกราฟรายวัน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเฝ้าหน้าจอตลอดทั้งวัน สัญญาณเข้าและออกจะถูกตรวจสอบเพียงวันละครั้งตามราคาปิด ซึ่งช่วยลดการเทรดเกินความจำเป็นและเสียงรบกวนจากความผันผวนระหว่างวันด้วย


Breakouts & Channels


หนึ่งในเครื่องมือหลักของระบบคือ Donchian Channel ซึ่งจะแสดงระดับราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงจำนวนวันที่กำหนดไว้ นักเทรด Turtle ใช้ดังนี้:


  • ราคาสูงสุด/ต่ำสุดใน 20 วันที่ผ่านมา สำหรับสัญญาณเข้าเทรด (ระบบ 1)

  • ราคาต่ำสุดใน 10 วันที่ผ่านมา สำหรับจุดหยุดขาดทุน (stop-loss)

  • ราคาสูงสุด/ต่ำสุดใน 55 วันที่ผ่านมา สำหรับการยืนยันระยะยาว (ระบบ 2)


ตัวอย่าง:

ถ้าราคาทองคำปิดเหนือระดับสูงสุดใน 20 วันที่ผ่านมา นักเทรดจะเปิดสถานะซื้อ (long position) แต่ถ้าราคาตกต่ำกว่าระดับต่ำสุดใน 10 วันที่ผ่านมา จะปิดสถานะนั้นออก


วิธีการเบรกเอาต์นี้ทำงานบนหลักการที่แนวโน้มที่แข็งแกร่งมักจะดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม มันก็ทำให้เกิดการขาดทุนเล็กๆ บ่อยครั้ง (whipsaws) เมื่อตลาดอยู่ในช่วงกรอบราคาที่แน่น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรด Turtle ยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด


วิธีนี้ต้องการความอดทนและความเต็มใจที่จะยอมรับการขาดทุนระยะสั้น ขณะรอผลกำไรใหญ่ที่มาจากแนวโน้มตลาดที่ชัดเจน


พื้นฐานการจัดการความเสี่ยง


การควบคุมความเสี่ยงถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของระบบ Turtle วิธีการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาเงินทุนในช่วงตลาดเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ และเพิ่มผลกำไรสูงสุดในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มชัดเจน


กฎสำคัญในการจัดการความเสี่ยงประกอบด้วย:


  • กฎ 1%: ห้ามเสี่ยงมากกว่า 1–2% ของเงินทุนทั้งหมดในแต่ละการเทรด

  • หน่วยความผันผวน (N): ขนาดตำแหน่งจะถูกกำหนดตามความผันผวนของตลาด โดยใช้ค่า Average True Range (ATR) ในช่วง 20 วันที่ผ่านมา

  • การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop-loss): กำหนดจุดออกจากการเทรดล่วงหน้าเพื่อป้องกันการขาดทุนหนัก

  • การเพิ่มตำแหน่งอย่างระมัดระวัง (Pyramiding): นักเทรดสามารถเพิ่มขนาดตำแหน่งเมื่อกำไร โดยต้องมั่นใจว่าความเสี่ยงรวมอยู่ในขอบเขตที่กำหนด

  • ขีดจำกัดความเสี่ยงสูงสุด: ควบคุมความเสี่ยงรวมจากการเปิดตำแหน่งทั้งหมดเพื่อป้องกันความเสี่ยงเกินพอดีในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน


วิธีการที่มีโครงสร้างนี้ช่วยให้แม้ในช่วงขาดทุนระยะยาว นักเทรดก็สามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียครั้งใหญ่และอยู่ในเกมได้จนสามารถจับโอกาสแนวโน้มใหญ่ครั้งถัดไปได้


สรุป


Turtle Trading ยังคงเป็นหนึ่งในระบบเทรดเชิงกลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ ค่าที่ยั่งยืนของระบบนี้ไม่ได้อยู่แค่เพียงกฎเกณฑ์เท่านั้น แต่ยังอยู่ที่แนวคิดที่ส่งเสริม คือ การตามเทรนด์ การจัดการความเสี่ยง และการตัดอารมณ์ออกจากกระบวนการตัดสินใจ


แม้ว่าตลาดการเงินจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่หลักการเบื้องหลังระบบ Turtle ยังคงใช้ได้ดี ด้วยการปรับใช้และควบคุมความเสี่ยงอย่างเหมาะสม นักเทรดยุคใหม่ก็ยังสามารถได้รับประโยชน์จากวิธีการตามเทรนด์อย่างมีวินัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นในตลาดฟิวเจอร์ส Forex หรือ ETF สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหากลยุทธ์ที่มีพื้นฐานชัดเจนจากตรรกะและข้อมูล Turtle Trading เสนอทั้งพื้นฐานที่มั่นคงและบทเรียนที่ไม่ล้าสมัย: ระบบง่ายๆ เมื่อใช้ด้วยวินัย สามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่ากลยุทธ์ที่ซับซ้อนที่สุดอีกด้วย


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20
สกุลเงินของอินเดียคืออะไร: ปัจจุบันนี้แข็งค่าเพียงใด?

สกุลเงินของอินเดียคืออะไร: ปัจจุบันนี้แข็งค่าเพียงใด?

สกุลเงินของอินเดียคืออะไร ค้นพบความแข็งแกร่งในปัจจุบันและเปรียบเทียบกับสกุลเงินหลัก เช่น USD และ EUR

2025-06-20