Short Squeeze คืออะไร? เหตุการณ์ที่นักลงทุนต้องรู้

2025-04-16
สรุป

Short Squeeze คือเหตุการณ์ที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากการขายชอร์ตจำนวนมาก นักลงทุนที่ขายชอร์ตต้องซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดสถานะ ส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้นอีก โดยมีความเสี่ยงและโอกาสทำกำไรสูง

Short Squeeze คือปรากฏการณ์ในตลาดที่ราคาหุ้นที่มีการขายชอร์ตมาก ๆ ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนบังคับให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตต้องซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดสถานะของตัวเอง ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้นไปอีก


เหตุการณ์นี้จะเกิดการซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้นักลงทุนหลายคนตกใจและไม่ทันตั้งตัว ดังนั้น การเข้าใจปรากฏการณ์นี้จึงสำคัญทั้งสำหรับนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพ


ทำความเข้าใจ Short Squeeze, การขายชอร์ต (Short Selling) และปัจจัยที่ก่อให้เกิด

Short Squeeze คืออะไร - EBC

ก่อนที่เราจะเข้าใจว่า Short Squeeze คืออะไร สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือกระบวนการของการขายชอร์ต (Short Selling) การขายชอร์ตเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนยืมหุ้นจากผู้อื่นแล้วขายในตลาด โดยหวังว่าจะสามารถซื้อหุ้นคืนในราคาที่ต่ำกว่าในอนาคต


หากราคาหุ้นลดลง นักลงทุนจะสามารถทำกำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาซื้อคืน แต่หากราคาหุ้นสูงขึ้น นักลงทุนจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงขาดทุน เนื่องจากต้องซื้อหุ้นคืนในราคาที่สูงกว่าเดิม


Short Squeeze เกิดขึ้นเมื่อหุ้นที่มีการขายชอร์ตจำนวนมาก (หมายถึงหุ้นส่วนใหญ่ถูกขายชอร์ต) ประสบกับการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ข่าวดี ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง หรือความสนใจในการซื้อหุ้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น


เมื่อราคาหุ้นเริ่มสูงขึ้น นักลงทุนที่ขายชอร์ตจะต้องซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดสถานะการขายชอร์ตและจำกัดการขาดทุน ซึ่งยิ่งเพิ่มแรงกดดันในการซื้อหุ้นคืน ส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้นไปอีก และนักลงทุนที่ขายชอร์ตคนอื่น ๆ อาจต้องทำการปิดสถานะของตนตามไปด้วย ซึ่งทำให้เกิดวงจรการซื้อที่ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว


ตัวอย่างของการเกิด Short Squeeze

ตัวอย่างของการเกิด Short Squeeze - EBC

หนึ่งในตัวอย่างที่น่าจดจำของ Short Squeeze เกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2021 กับหุ้นของ GameStop (GME) นักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะจากชุมชน Reddit r/WallStreetBets ได้ร่วมมือกันซื้อหุ้นเพื่อดันราคาหุ้นให้พุ่งขึ้น เป้าหมายของพวกเขาคือการโจมตีเฮดจ์ฟันด์ที่ขายชอร์ตหุ้น GameStop จำนวนมาก


เมื่อราคาหุ้นพุ่งจากประมาณ 20 ดอลลาร์ไปถึง 483 ดอลลาร์ในวันเดียวกัน นักลงทุนที่ขายชอร์ตต้องรีบซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดสถานะการขายชอร์ต ซึ่งยิ่งเพิ่มแรงซื้อและทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นไปอีก เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นถึงพลังของการกระทำร่วมกันของนักลงทุนรายย่อย และความเสี่ยงจากการขายชอร์ตในหุ้นที่มีการขายชอร์ตสูง


อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Short Squeeze กับหุ้น Volkswagen ในปี 2008 เมื่อ Porsche เปิดเผยว่าได้ซื้อหุ้นใหญ่ใน Volkswagen ซึ่งทำให้จำนวนหุ้นที่เหลืออยู่ไม่พอสำหรับนักลงทุนที่ขายชอร์ตในการปิดสถานะของตน ความขาดแคลนหุ้นนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งจากประมาณ 200 ยูโรไปสูงกว่า 1,000 ยูโร ทำให้ Volkswagen กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลกชั่วขณะ


กลยุทธ์การเทรดในช่วง Short Squeeze

การเทรดในช่วง Short Squeeze สามารถสร้างผลกำไรได้มาก แต่ก็ต้องอาศัยการจับจังหวะที่แม่นยำก ลยุทธ์ที่ชัดเจน และการบริหารความเสี่ยงที่ดี นักเทรดที่หวังจะทำกำไรจาก Short Squeeze มักจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก: กลุ่มที่พยายามคาดการณ์การเกิด Squeeze ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น และกลุ่มที่ตามกระแสเมื่อมันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองกลยุทธ์มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันและต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ


สำหรับนักเทรดที่ต้องการคาดการณ์การเกิด Short Squeeze กลยุทธ์แรกเริ่มจากการค้นหาหุ้นที่มีอัตราการขายชอร์ตสูงมากและมีจำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาด (float) ค่อนข้างต่ำ อัตราการขายชอร์ต หรือ Short Interest Ratio คือเปอร์เซ็นต์ของหุ้นที่ถูกขายชอร์ตในตลาด ซึ่งจะช่วยให้เห็นถึงความกดดันที่อาจทำให้เกิด Squeeze ได้


ตัวชี้วัดที่สำคัญอีกตัวหนึ่งคือ Days to Cover ซึ่งใช้ในการวัดระยะเวลาที่นักลงทุนขายชอร์ตทั้งหมดจะต้องปิดสถานะของตนตามปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยของหุ้น หุ้นที่มีค่าสูงในทั้งสองตัวชี้วัดนี้มักจะเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มที่จะเกิด Short Squeeze นักเทรดจะต้องรอให้เกิดปัจจัยกระตุ้น เช่น ข่าวดี ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง หรือการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อ ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้น


อีกกลยุทธ์หนึ่งคือการเทรดตามโมเมนตัม โดยนักเทรดจะเข้าซื้อหุ้นเมื่อการเกิด Squeeze เริ่มขึ้น กลยุทธ์นี้จะพึ่งพาตัวชี้วัดปริมาณการซื้อขายและรูปแบบกราฟรายวัน นักเทรดจะคอยดูการทะลุระดับแนวต้านที่สำคัญ ซึ่งมักจะมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น การยืนยันนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนที่ขายชอร์ตเริ่มปิดสถานะของตน และนักเทรดที่เน้นโมเมนตัมจะพยายามเข้าทำกำไรเร็ว ๆ เพื่อเก็บส่วนแบ่งจากการเคลื่อนไหวของราคาขาขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงเวลาของ Short Squeeze มักมีความผันผวนสูง นักเทรดจึงต้องบริหารจัดการสถานะของตนอย่างรวดเร็วและตั้ง Stop Loss ที่ตึงเพื่อป้องกันความเสี่ยง


อีกกลยุทธ์ที่นักเทรดบางคนเลือกใช้คือการซื้อออปชั่นเพื่อจำกัดความเสี่ยงในขณะที่ยังสามารถทำกำไรจาก Squeeze การซื้อ Call Option เป็นวิธีที่น่าสนใจในการเข้าถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่สูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ขณะที่จำกัดการขาดทุนไว้ที่พรีเมียมที่จ่ายไป วิธีนี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะกับหุ้นที่มีความผันผวนสูงจากการขายชอร์ต เพราะออปชั่นสามารถเพิ่มมูลค่าได้หาก Squeeze ทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น


การระบุหุ้นที่มีศักยภาพและการเข้าใจความเสี่ยง

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว นักลงทุนที่ต้องการหาหุ้นที่มีความเสี่ยงต่อการเกิด Short Squeeze มักจะใช้ตัวชี้วัดบางอย่าง เช่น Short Interest Ratio และ Days to Cover Short Interest Ratio ชี้ให้เห็นว่ามีหุ้นจำนวนมากที่ถูกขายชอร์ต ส่วน Days to Cover คือการวัดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการปิดสถานะขายชอร์ตทั้งหมด โดยอิงจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในแต่ละวัน


หุ้นที่มีค่าในทั้งสองตัวชี้วัดนี้สูง อาจมีแนวโน้มที่จะเกิด Short Squeeze ได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกเกิดขึ้น เช่น ข่าวดี หรือการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อ


การเทรดในช่วง Short Squeeze อาจทำกำไรได้มาก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมักไม่ยั่งยืน และอาจตกลงมาเร็วมากเมื่อแรงซื้อเริ่มลดลง


นอกจากนี้ การเทรดในช่วง Short Squeeze ยังอาจมีความผันผวนสูง โดยมีการเคลื่อนไหวของราคาที่กว้างและความไม่แน่นอนในตลาดเพิ่มขึ้น ดังนั้น นักลงทุนควรระมัดระวัง ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน และพิจารณาความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมการเทรดในลักษณะนี้


สรุป

Short Squeeze คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดเมื่อมีการขายชอร์ตจำนวนมาก และราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเกิดจากแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด การเข้าใจกลไกที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่คิดจะเข้าร่วมในสถานการณ์แบบนี้


ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสทำกำไรได้มาก แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะความเสี่ยงในการขาดทุนก็สูงไม่แพ้กัน ดังนั้น การเข้าร่วมใน Short Squeeze ควรทำด้วยความระมัดระวัง และต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนก่อนตัดสินใจลงทุน


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20