เผยแพร่เมื่อ: 2025-09-25
กำไรจาก OCO order สามารถเพิ่มสูงสุดได้โดยการตั้งค่า take-profit และ stop-loss ที่เชื่อมโยงกันอย่างมีกลยุทธ์
วิธีการอัตโนมัตินี้ช่วยให้การเทรดเป็นไปอย่างมีวินัย แม้ในสภาวะตลาดผันผวน โดยไม่ต้องเฝ้าตลอดเวลา
ในบทความนี้ เราจะสำรวจวิธีการทำงานของ OCO order การประยุกต์ใช้จริง ขั้นตอนการตั้งค่าอย่างละเอียด ข้อดีและข้อจำกัดหลัก พร้อมตอบคำถามที่พบบ่อย เพื่อช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
OCO (One-Cancels-the-Other) คือคำสั่งเทรดแบบมีเงื่อนไขชนิดหนึ่งที่รวมคำสั่งแยกสองคำสั่งไว้ในคำสั่งเดียว โดยปกติคำสั่งเหล่านี้จะประกอบด้วยคำสั่งหยุดขาดทุน (stop order) และคำสั่งจำกัดราคา (limit order) ซึ่งเมื่อคำสั่งใดถูกดำเนินการอีกคำสั่งหนึ่งจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
OCO order ถูกใช้หลักเพื่อทำให้การบริหารจัดการการเทรดเป็นอัตโนมัติ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตั้งระดับกำไรและการป้องกันขาดทุนล่วงหน้าได้พร้อมกัน
วัตถุประสงค์หลักของ OCO คือเพื่อให้เทรดเดอร์ควบคุมการเทรดได้มากขึ้น และลดความจำเป็นในการติดตามตลาดตลอดเวลา
ด้วยการรวมคำสั่งสองคำสั่งที่เชื่อมโยงกัน เทรดเดอร์สามารถจับโอกาสจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่เป็นประโยชน์ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องตัวเองจากความผันผวนของราคา
กลไกของ OCO order คือการวางคำสั่งสองคำสั่งที่เชื่อมโยงกันพร้อมกัน ได้แก่ stop order และ limit order
Stop Order: มักจะเป็นคำสั่งหยุดขาดทุน (stop-loss) วางเพื่อจำกัดการขาดทุนหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับการเทรด
Limit Order: เป็นคำสั่งเป้าหมาย วางเพื่อเก็บกำไรเมื่อราคาตลาดถึงจุดที่ต้องการ
เมื่อ OCO order ถูกเปิดใช้งาน การดำเนินการของคำสั่งหนึ่งจะทำให้คำสั่งอีกคำสั่งหนึ่งถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ เช่น หากตลาดไปถึงราคาหยุดขาดทุน คำสั่ง stop order จะถูกดำเนินการ และ limit order จะถูกยกเลิก
ในทางกลับกัน หากตลาดไปถึงราคาที่ตั้งไว้ใน limit order ก่อน คำสั่ง limit order จะถูกดำเนินการ และ stop order จะถูกยกเลิก ซึ่งช่วยให้เกิดผลลัพธ์เพียงหนึ่งในสองอย่าง ป้องกันความขัดแย้งและความเสี่ยงเกินจำเป็น
OCO order เป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่นในตลาดการเทรด และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับหลายกลยุทธ์และสภาวะตลาดต่าง ๆ
กลยุทธ์ Breakout
เทรดเดอร์มักใช้ OCO order เพื่อจับโอกาสจากการเบรคเอาต์ ในกรณีนี้ คำสั่ง stop จะวางไว้ใต้แนวรับ ในขณะที่คำสั่ง limit จะวางไว้เหนือแนวต้าน
หากราคาผ่านช่วงที่กำหนด คำสั่งที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินการ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่ตำแหน่งในจุดที่เหมาะสมที่สุด พร้อมจำกัดความเสี่ยงด้านลบ
กลยุทธ์ติดตามแนวโน้ม
OCO order ยังสามารถใช้เพื่อติดตามแนวโน้มของตลาดได้ เทรดเดอร์จะตั้ง limit order ที่เป้าหมายกำไร และ stop order เพื่อปกป้องตัวเองจากการกลับตัวของราคา กลยุทธ์นี้ช่วยให้จับกำไรได้ ในขณะเดียวกันก็ควบคุมการขาดทุน โดยเฉพาะในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน
การบริหารความเสี่ยง
การบริหารความเสี่ยงถือเป็นหนึ่งในการใช้งาน OCO order ที่สำคัญที่สุด ด้วยการเชื่อมคำสั่ง stop-loss และ take-profit เทรดเดอร์มั่นใจได้ว่าจะมีเพียงคำสั่งเดียวที่ถูกดำเนินการ ป้องกันสถานการณ์ที่อาจเกิดทั้งกำไรและขาดทุนพร้อมกัน
การทำงานอัตโนมัตินี้ช่วยลดการตัดสินใจโดยอารมณ์ และส่งเสริมการเทรดอย่างมีวินัย
แม้ OCO order จะช่วยบริหารความเสี่ยงแบบอัตโนมัติ แต่ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานร่วมกับกลยุทธ์การเทรดโดยรวม เทรดเดอร์สามารถปรับปรุงผลลัพธ์ได้ด้วยแนวทางดังนี้:
1. ปรับคำสั่งให้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ตลาด
ก่อนวาง OCO order ควรทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐานอย่างละเอียด เพื่อกำหนดแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ การวาง stop-loss และ limit order ที่ราคาที่เลือกอย่างมีกลยุทธ์จะช่วยเพิ่มโอกาสในการดำเนินการคำสั่งในจุดที่เหมาะสม
2. ปรับคำสั่งซื้อตามความผันผวน
ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจต้องใช้ขอบ stop-loss และ take-profit ที่กว้างขึ้น เพื่อป้องกันการดำเนินการก่อนเวลา
ในทางกลับกัน ตลาดที่มีความนิ่ง สามารถใช้ระดับที่เข้มงวดกว่าเพื่อปกป้องกำไรโดยไม่เสี่ยงต่อการเลื่อนราคาที่ไม่จำเป็น
3. ใช้ OCO order ร่วมกับเครื่องมือเทรดอื่น ๆ
การใช้ OCO order ร่วมกับอินดิเคเตอร์ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA), ดัชนี RSI หรือ Fibonacci retracement สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจ
ตัวอย่างเช่น การตั้ง limit order ให้สอดคล้องกับแนวต้านที่ได้รับการยืนยันจากหลายอินดิเคเตอร์ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเทรดสำเร็จ
4. ทบทวนและอัปเดตคำสั่งอย่างสม่ำเสมอ
OCO order ไม่ใช่เครื่องมือ “ตั้งแล้วลืม” เทรดเดอร์ควรติดตามสภาวะตลาดและปรับคำสั่งให้สอดคล้องกับแนวโน้มใหม่ ข่าวสาร หรือความผันผวนที่เปลี่ยนไป
การบริหารแบบไดนามิกนี้ช่วยให้ OCO order ยังคงสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง
5. ใช้ OCO order เพื่อบริหารหลายตำแหน่ง
เทรดเดอร์สามารถวาง OCO order ในหลายตำแหน่งของพอร์ตเพื่อบริหารความเสี่ยงรวม
ด้วยการเชื่อมระดับ stop-loss และ take-profit อย่างเป็นระบบ เทรดเดอร์สามารถรักษาการดำเนินการอย่างมีวินัย พร้อมบริหารสินทรัพย์หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยการประยุกต์ใช้กลยุทธ์เหล่านี้ OCO order จะไม่ใช่เพียงเครื่องมืออัตโนมัติธรรมดา แต่กลายเป็นเครื่องมือที่ซับซ้อน ช่วยเพิ่มทั้งกำไรและการบริหารความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวาง OCO order ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและดำเนินการอย่างแม่นยำ ขั้นตอนดังต่อไปนี้ช่วยอธิบายกระบวนการ
1) เลือกสินทรัพย์
ระบุเครื่องมือทางการเงินที่คุณต้องการเทรด ไม่ว่าจะเป็นหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ คู่สกุลเงิน Forex หรือสกุลเงินดิจิทัล
2) กำหนดระดับราคา
ตั้งราคาหยุดขาดทุน (stop price) เพื่อจำกัดการขาดทุน
ตั้งราคาจำกัด (limit price) เพื่อเก็บกำไรในระดับที่ต้องการ
3) วาง OCO Order
ใส่ทั้งคำสั่ง stop และ limit พร้อมกันในแพลตฟอร์มการเทรด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำสั่งทั้งสองเชื่อมโยงกันเป็นคู่ OCO
4) ติดตามสภาวะตลาด
แม้ OCO order จะทำงานอัตโนมัติ แต่เทรดเดอร์ควรติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของตลาดที่อาจส่งผลต่อการดำเนินการคำสั่ง เช่น การเพิ่มขึ้นของความผันผวนหรือข่าวที่ไม่คาดคิด
ข้อดี
1) บริหารความเสี่ยงอัตโนมัติ:
เทรดเดอร์สามารถตั้งค่าพารามิเตอร์สำหรับการทำกำไรและจำกัดการขาดทุนล่วงหน้า ลดความจำเป็นในการติดตามตลอดเวลา
2) ยืดหยุ่นในหลายตลาด:
OCO order สามารถใช้ได้ในหลากหลายสภาวะการเทรด เช่น หุ้น Forex และสกุลเงินดิจิทัล
3) ประสิทธิภาพการดำเนินงาน:
ด้วยการรับประกันว่ามีเพียงหนึ่งคำสั่งในคู่ OCO ที่ถูกดำเนินการ OCO order ช่วยป้องกันตำแหน่งขัดแย้ง และทำให้การบริหารการเทรดง่ายขึ้น
ข้อจำกัด
1) ความพร้อมใช้งานของแพลตฟอร์ม:
ไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มการเทรดรองรับ OCO order ดังนั้นเทรดเดอร์ต้องตรวจสอบก่อนวางแผนกลยุทธ์
2) ผลกระทบจากสภาวะตลาด:
ในตลาดที่มีความผันผวนสูง อาจเกิดการเลื่อนราคา (slippage) ส่งผลต่อราคาที่คำสั่งถูกดำเนินการ
3) ความซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น:
OCO order อาจยากต่อการตั้งค่าและจัดการอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน
1. สามารถใช้ OCO order ทั้งการซื้อและขายได้หรือไม่?
ได้ OCO order สามารถใช้ได้ทั้งตำแหน่งซื้อและขาย เทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อทำให้จุดเข้าและออกเป็นอัตโนมัติขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของตน
2. จะเกิดอะไรขึ้นหากตลาดไปถึงราคาหยุดและราคาจำกัดพร้อมกัน?
จะมีเพียงคำสั่งหนึ่งในคู่ OCO ที่ถูกดำเนินการ ระบบจะยกเลิกอีกคำสั่งโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เทรดเดอร์ไม่เกิดตำแหน่งที่ขัดแย้งกัน
3. OCO order มีให้ใช้ในทุกแพลตฟอร์มการเทรดหรือไม่?
แม้หลายแพลตฟอร์มการเทรดจะมีฟังก์ชัน OCO แต่ความพร้อมอาจแตกต่างกัน เทรดเดอร์ควรตรวจสอบกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มว่ารองรับ OCO order หรือไม่
4. สามารถแก้ไข OCO order หลังวางคำสั่งได้หรือไม่?
ในกรณีส่วนใหญ่สามารถปรับคำสั่ง OCO หลังวางได้ แต่เทรดเดอร์ควรระมัดระวัง เพราะการแก้ไขคำสั่งหนึ่งอาจส่งผลต่อคำสั่งที่เชื่อมโยงและกลยุทธ์โดยรวม
OCO order เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำให้กลยุทธ์การเทรดเป็นอัตโนมัติ บริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และเก็บกำไรอย่างมีการควบคุม
ด้วยการเชื่อมคำสั่ง stop กับคำสั่ง limit เทรดเดอร์สามารถรักษาวินัยทั้งในการเข้าและออกจากการเทรด พร้อมลดความเสี่ยงจากการขาดทุน
ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของ OCO order เวลาใช้งาน และข้อจำกัด เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด
ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
