简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

Premarket Trading คืออะไร? ข้อดี ข้อเสีย และกลยุทธ์

เผยแพร่เมื่อ: 2025-07-22    อัปเดตเมื่อ: 2025-07-23

ในการลงทุนยุคใหม่ ตลาดหุ้นไม่ได้เปิดทำการเฉพาะเวลา 9:30 น. ถึง 16:00 น. ตามเวลาตะวันออกอีกต่อไป ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุน Premarket Trading จึงกลายเป็นส่วนสำคัญที่ขยายวงจรการซื้อขายในแต่ละวันออกไป


แต่จริง ๆ แล้ว Premarket Trading คืออะไร? และทำไมนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันจำนวนมากจึงเริ่มให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของตลาดก่อนเสียงระฆังเปิดตลาด?


ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจ Premarket Trading อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่วิธีการทำงาน ใครที่สามารถเข้าร่วมได้ ข้อดี-ข้อเสียที่ต้องระวัง ไปจนถึงแนวทางการวางกลยุทธ์เพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนเปิดตลาด


Premarket Trading คืออะไร?

Premarket Trading

Premarket Trading หมายถึงการซื้อขายหุ้นในช่วงเวลาก่อนที่ตลาดหุ้นจะเปิดทำการอย่างเป็นทางการ โดยในสหรัฐอเมริกา ช่วงเปิดตลาดมักอยู่ระหว่างเวลา 04:00 น. ถึง 09:30 น. ตามเวลา ET ของวันซื้อขาย


แม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาทำการปกติ แต่การซื้อขายในช่วงนี้ก็เกิดขึ้นผ่านระบบดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Electronic Communication Networks (ECNs) ซึ่งเป็นเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ที่จับคู่คำสั่งซื้อขายแบบไร้ตัวกลาง ทำให้ช่วงเปิดตลาดมีสภาพคล่องต่ำและมีความผันผวนสูง


ช่วงเวลานี้มักเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มตอบสนองต่อข่าวสารข้ามคืน เช่น รายงานผลประกอบการ เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ หรือข่าวการเมืองระหว่างประเทศ


ตัวอย่างเช่น หากบริษัทหนึ่งประกาศผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมหลังตลาดปิด ราคาหุ้นของบริษัทนั้นอาจเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เช้าวันถัดไปก่อนตลาดเปิด


Premarket Trading ทำงานอย่างไร?


โดยทั่วไปแล้วคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Premarket order) จะทำผ่านแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ให้บริการเข้าถึง ECN คุณจะไม่เห็นนักลงทุนตะโกนเสียงดังที่พื้นตลาด NYSE เวลา 4:30 น. เพราะนี่เป็นการซื้อขายแบบดิจิทัลล้วนๆ


คำสั่งซื้อที่ทำในช่วงนี้จะได้รับการประมวลผลผ่านเครือข่ายการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ (ECN) ซึ่งจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายโดยไม่เปิดเผยตัวตน


อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์แต่ละรายไม่ได้ให้สิทธิ์การเข้าถึงหรือฟังก์ชันการใช้งานในระดับเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากช่วงเวลาซื้อขายปกติ บางรายอาจจำกัดคำสั่งซื้อขายบางประเภท เช่น คำสั่งซื้อขายตามราคาตลาด เนื่องจากความเสี่ยงจากช่องว่างของราคา


คุณสมบัติที่สำคัญ :

  • สภาพคล่องต่ำ: มีผู้เข้าร่วมน้อย ทำให้เกิดส่วนต่างราคา (spread) ที่กว้าง

  • ความผันผวนสูง: ข่าวสารสามารถทำให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรง

  • เวลาซื้อขายจำกัด: โบรกเกอร์บางรายเริ่มให้บริการหลัง 04:00 น. เช่น 07:00 หรือ 08:00 น.

  • ไม่มี market maker: ไม่มีความลึกของตลาดเหมือนช่วงเวลาปกติ


ทำไม Premarket Trading จึงมีความสำคัญ?


การซื้อขายก่อนเปิดตลาดไม่ใช่แค่เรื่องน่ารู้เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับทั้งนักลงทุนระยะสั้นและนักลงทุนระยะยาว เหตุผลคือ:


  • การค้นหาราคา (Price Discovery): เหตุการณ์ที่เกิดข้ามคืน เช่น ข่าวเศรษฐกิจหรือผลประกอบการ มักจะสะท้อนราคาหุ้นในช่วงนี้

  • เข้าซื้อขายก่อนตลาดเปิด: ใช้ข้อมูลข่าวสารก่อนนักลงทุนส่วนใหญ่

  • ใช้ในการป้องกันความเสี่ยง (Hedging): นักลงทุนสถาบันใช้ช่วงนี้เพื่อปรับพอร์ต

  • วัดแนวโน้มของวัน: การเคลื่อนไหวช่วงพรีมาร์เก็ตสามารถสะท้อนอารมณ์ตลาดเบื้องต้น


อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงล่วงหน้าครั้งนี้ไม่ได้ปราศจากความซับซ้อน


ข้อดีของ Premarket Trading

ข้อดีของ Premarket Trading

1. ดำเนินการตามข่าวตั้งแต่เนิ่นๆ

บริษัทต่าง ๆ มักเผยแพร่รายงานผลประกอบการหรือข้อมูลอัปเดตหลังเวลาทำการของตลาด การซื้อขายก่อนเปิดตลาดช่วยให้นักลงทุนสามารถตอบสนองต่อปัจจัยกระตุ้นเหล่านั้นได้ทันที


ตัวอย่างเช่น หาก Apple รายงานผลประกอบการดีกว่าที่คาดไว้ในเวลา 16.00 น. ของวันก่อนหน้า นักลงทุนที่ชาญฉลาดอาจเริ่มซื้อหุ้นในเวลา 07.00 น. ของวันถัดไป ซึ่งนานก่อนที่ตลาดโดยรวมจะเข้ามาเกี่ยวข้อง


2. ล้ำหน้าตลาดหลัก

การวางตำแหน่งล่วงหน้าจะช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากโมเมนตัมได้ก่อนที่ตลาดส่วนอื่นๆ จะเคลื่อนไหวเข้ามา ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนรายวันหรือผู้เก็งกำไรระยะสั้นที่พึ่งพาการซื้อขายที่รวดเร็วและมีความน่าจะเป็นสูง


3. ปรับปรุงความยืดหยุ่น

ชีวิตไม่ได้เป็นไปตามเวลาตลาดเสมอไป หากคุณยุ่งระหว่างวัน การซื้อขายก่อนตลาดเปิดจะช่วยให้คุณจัดการการลงทุนได้ก่อนวันทำงาน


4. ตัวบ่งชี้เบื้องต้นของความเชื่อมั่นของตลาด

การสังเกตการซื้อขายดัชนีสำคัญ เช่น S&P 500, Nasdaq หรือ Dow Jones Futures ก่อนเปิดตลาดอาจช่วยให้ทราบเบาะแสเกี่ยวกับทิศทางตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้


ความเสี่ยงของ Premarket Trading


1. สภาพคล่องต่ำ

ผู้ซื้อและผู้ขายที่น้อยลงในช่วงเช้าตรู่ หมายความว่าสเปรดจะกว้างขึ้นและปริมาณการซื้อขายจะน้อยลง ทำให้การเข้าหรือออกจากการซื้อขายที่ราคาที่ต้องการทำได้ยากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิด Slippage


2. ความผันผวนที่เพิ่มขึ้น

การเคลื่อนไหวก่อนเปิดตลาดอาจเกินจริงเนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่ต่ำและการซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วยข่าวสาร ราคาอาจผันผวนอย่างรุนแรง และกลับตัวเมื่อถึงเวลาปกติ


3. ข้อจำกัดการสั่งซื้อ

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จำกัดประเภทคำสั่งซื้อขายในช่วงก่อนเปิดตลาด ตัวอย่างเช่น คุณอาจไม่สามารถวางคำสั่งซื้อขายในตลาดหรือตั้งจุดตัดขาดทุนได้


4. ต้นทุนที่สูงขึ้น

เนื่องจากการแข่งขันที่จำกัดระหว่างผู้สร้างตลาดและ ECN คุณอาจพบกับค่าสเปรดและค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้กำไรที่อาจเกิดขึ้นลดลง


5. สัญญาณเท็จ

การเคลื่อนไหวก่อนเปิดตลาดไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเสมอไป เพียงเพราะหุ้นขึ้นแรงตอน 8:30 น. ไม่ได้หมายความว่ามันจะขึ้นต่อหลังจากตลาดเปิด


กลยุทธ์ Premarket Trading

กลยุทธ์ Premarket Trading

1. เทรดตามผลประกอบการ (Earnings Reaction)

ซื้อขายหุ้นที่รายงานผลประกอบการก่อนตลาดเปิด มองหาจังหวะที่ราคาดีดตัวขึ้นหรือลงแรง พร้อมปริมาณการซื้อขายก่อนเปิดตลาดสูง ใช้แนวรับ/แนวต้านจากช่วงก่อนหน้าเพื่อวางแผนการเข้า/ออก


2. กลยุทธ์ Gap and Go

กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Day Trade แบบดั้งเดิมนี้มุ่งเป้าไปที่หุ้นที่ "มีช่องว่างราคาขึ้น" ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดเนื่องจากข่าวหรือการประกาศผลประกอบการ หากปริมาณการซื้อขายยืนยันการเคลื่อนไหวและแนวโน้มยังคงทรงตัวเมื่อเปิดตลาด นักลงทุนก็มุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากโมเมนตัมนี้เพื่อทำกำไรอย่างรวดเร็ว


3. การเก็งกำไรจากข่าว

สำหรับนักเก็งกำไรที่มีประสบการณ์ การซื้อขายก่อนเปิดตลาดเป็นโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวที่ฉับพลันและระยะสั้นหลังจากมีข่าวพาดหัว จำเป็นต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วและการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด


4. การกลับตัวจากราคาที่เกินจริง (Reversal Setups)

หุ้นบางตัวมีช่องว่างมากเกินไปในช่วงก่อนเปิดตลาดเนื่องจากกระแสฮือฮาหรือความตื่นตระหนก การระบุการเคลื่อนไหวที่ยืดเยื้อเกินไปจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางตำแหน่งเพื่อรอจังหวะกลับตัวเฉลี่ย (Mean Reversion) ได้เมื่อตลาดเปิดตามปกติ


5. ติดตามดัชนีฟิวเจอร์ส

ติดตามฟิวเจอร์สของ S&P 500, Nasdaq และ Dow ก่อนเปิดตลาด หากราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้คาดการณ์การเคลื่อนไหวของหุ้นที่เกี่ยวข้อง วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีในการประเมินความเชื่อมั่นในภาพรวมและยืนยันการตั้งค่า


เคล็ดลับสำคัญสำหรับมือใหม่


ความสำเร็จในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวและวินัย ไม่ใช่โชค นี่คือเคล็ดลับที่ผ่านการทดสอบแล้ว:


  • ใช้ limit order เท่านั้น: หลีกเลี่ยง market order เพราะราคาผันผวนสูง

  • สังเกตปริมาณการซื้อขาย (Volume): หากหุ้นไม่มีปริมาณในช่วงเปิดตลาด อาจไม่คุ้มเสี่ยง

  • เตรียม watchlist ล่วงหน้า: เลือกหุ้นที่มีข่าวหรือปริมาณมาก ไม่ควรเทรดแบบสุ่ม

  • ลดขนาดสถานะ: เพราะสภาพคล่องต่ำ ความเสี่ยงสูง ควรใช้เงินน้อยกว่าปกติ

  • ติดตามปฏิทินเศรษฐกิจ: ข้อมูลสำคัญอย่าง CPI หรือตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานมักประกาศตอน 08:30 น. ET


สรุป


Premarket Trading เป็นเครื่องมือที่มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง ช่วยให้นักลงทุนตอบสนองต่อข่าวสารได้รวดเร็ว มีจุดเข้าซื้อที่ไม่เหมือนใคร และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรก่อนตลาดหลักจะเริ่ม


อย่างไรก็ตาม การจะประสบความสำเร็จในช่วงเปิดตลาด ต้องอาศัยการวางแผน การบริหารความเสี่ยง และเครื่องมือที่เหมาะสม หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ควรเริ่มจากการสังเกตตลาด ลงเงินจำนวนน้อย และค่อย ๆ สะสมประสบการณ์อย่างมั่นคง ส่วนผู้ที่มีประสบการณ์ Premarket Trading อาจกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่สร้างความได้เปรียบในการเทรดประจำวันของคุณได้อย่างแท้จริง


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
After Hours Trading คืออะไร? มือใหม่เข้าใจง่าย
Overnight Trading คืออะไร? วิธีเทรดนอกเวลาตลาดหลัก
เทคนิคการเทรดหุ้น low float
รู้จัก NYSE คืออะไร อาณาจักรตลาดหุ้นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
ตลาดหลักทรัพย์ คืออะไร? เจาะลึกกลไกและการทำงาน