简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

Fear and Greed Index มีประโยชน์จริงหรือแค่กระแส?

เผยแพร่เมื่อ: 2025-07-18

Fear and Greed Index เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อวัดความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดการเงิน โดยมีเป้าหมายเพื่อวัดระดับความกลัวหรือความโลภที่กำลังขับเคลื่อนพฤติกรรมนักลงทุนในขณะนั้น แนวคิดนี้ง่ายมาก คือเมื่อผู้ลงทุนรู้สึกกลัว ตลาดอาจถูกประเมินค่าต่ำเกินไป ส่วนเมื่อผู้ลงทุนรู้สึกโลภตลาดอาจถูกประเมินค่าสูงเกินจริง


ดัชนีนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจาก CNN Business โดยใช้ปัจจัยนำเข้าหลายอย่างเพื่อพิจารณาว่าตลาดกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยความกลัวหรือความโลภ ซึ่งรวมถึงตัวบ่งชี้ต่างๆ เช่น โมเมนตัมราคาหุ้น ความผันผวน ขอบเขตตลาด และอัตราส่วน Put-Call ผลลัพธ์คือคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยตัวเลขที่ต่ำกว่าบ่งชี้ถึงความกลัวอย่างรุนแรง และตัวเลขที่สูงกว่าบ่งชี้ถึงความโลภอย่างรุนแรง


สำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนที่ต้องการประเมินบรรยากาศตลาดดัชนี Fear and Greed จึงเป็นเครื่องมือที่สรุปข้อมูลได้อย่างสะดวก แต่คำถามที่ยังคงอยู่คือ ดัชนีนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าจริงหรือเป็นเพียงภาพสะท้อนอารมณ์ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น


การคำนวณดัชนี

การคำนวณดัชนี

เพื่อประเมินว่า Fear and Greed Index มีประโยชน์จริงหรือไม่ จำเป็นต้องทำความเข้าใจวิธีการทำงานของดัชนี โดยทั่วไปดัชนีจะรวบรวมข้อมูลจากตัวชี้วัดสำคัญ 7 ตัว ได้แก่ โมเมนตัมของตลาด ความแข็งแกร่งของราคาหุ้น ความผันผวนของตลาด อุปสงค์ของออปชัน กระแสเงินทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ขอบเขตตลาด และอุปสงค์ของพันธบัตรขยะ


แต่ละตัวชี้วัดจะถูกกำหนดค่าโดยอ้างอิงจากข้อมูลตลาดปัจจุบัน จากนั้นนำค่าตัวชี้วัดทั้งหมดมาคำนวณหาเฉลี่ยเพื่อให้ได้คะแนนรวม ซึ่งคะแนนตั้งแต่ 0-25 หมายถึงความกลัวสูงสุด (extreme fear) คะแนนระหว่าง 25-50 บ่งชี้ความกลัวในระดับปานกลาง ส่วนคะแนนเกิน 50 จะเข้าสู่โซนความโลภ (greed) และคะแนนที่สูงกว่า 75 ถือเป็นความโลภสุดขีด (extreme greed)


วิธีการนี้ทำให้ดัชนีมีความโดดเด่นในฐานะเครื่องมือที่เน้นวัดความรู้สึกของตลาด แตกต่างจากการวิเคราะห์พื้นฐานหรือกราฟเทคนิคที่เน้นข้อมูลเชิงตัวเลข ดัชนี Fear and Greed ให้ความสำคัญกับจิตวิทยาตลาดเป็นหลัก


ทำไมดัชนีนี้จึงได้รับความนิยมในกลุ่มเทรดเดอร์


ความเรียบง่ายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Fear and Greed Index ดึงดูดใจเทรดเดอร์ เพียงแค่มองแวบเดียว เทรดเดอร์ก็สามารถรับรู้ถึงบรรยากาศโดยรวมของตลาดได้ทันที ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้กลยุทธ์สวนทางตลาด (contrarian strategy) เช่น เมื่อดัชนีแสดงความกลัวสูงสุด บางคนอาจมองหาโอกาสซื้อ เพราะคาดว่าตลาดถูกประเมินค่าต่ำเกินไป ในขณะที่ความโลภสูงสุดอาจกระตุ้นให้บางคนทำกำไรหรือปรับลดความเสี่ยง


นอกจากนี้ ดัชนียังช่วยลดอคติทางอารมณ์ในการตัดสินใจซื้อขาย เพราะเป็นการพึ่งพามาตรการวัดความรู้สึกที่มีโครงสร้างชัดเจน ทำให้เทรดเดอร์ไม่ต้องตัดสินใจเพียงแค่ตามความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น


ข้อจำกัดของดัชนี


แม้ว่า Fear and Greed Index จะได้รับความนิยม แต่ก็มีข้อจำกัดหลายประการที่ทำให้นักลงทุนบางส่วนตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพ หนึ่งในข้อจำกัดที่ชัดเจนที่สุด คือดัชนีนี้เป็น lagging indicator เนื่องจากข้อมูลที่นำมาใช้เป็นข้อมูลตลาดที่เกิดขึ้นแล้ว จึงสะท้อนความรู้สึกที่ผ่านไปแล้ว ไม่ใช่การทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


อีกประเด็นหนึ่ง คือดัชนีนี้อาจไม่เหมาะสมกับสินทรัพย์ทุกประเภท แม้ว่าจะถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับตลาดหุ้นเป็นหลัก แต่การนำไปใช้กับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดฟอเร็กซ์ หรือสกุลเงินดิจิทัล อาจให้ผลวัดความรู้สึกที่ไม่แม่นยำ ผู้เทรดในตลาดเหล่านี้จึงอาจต้องหาเครื่องมือที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจงมากกว่า


นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่นักลงทุนจะตีความดัชนีนี้เกินความเป็นจริง บางคนอาจให้ความสำคัญกับดัชนีมากเกินไป และใช้เป็นสัญญาณเดียวในการตัดสินใจ แต่เช่นเดียวกับอินดิเคเตอร์ตลาดอื่น ๆ ดัชนี Fear and Greed ควรนำมาใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค และการประเมินความเสี่ยงเฉพาะบุคคลควบคู่กันไปด้วยเสมอ


Fear and Greed Index ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจได้หรือไม่?

Fear and Greed Index

คุณค่าของดัชนี Fear and Greed ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานเป็นหลัก สำหรับเทรดเดอร์ที่เข้าใจว่าดัชนีนี้เป็นเครื่องมือวัดอารมณ์ตลาดมากกว่าจะเป็นสัญญาณซื้อขายโดยตรง ดัชนีนี้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ ช่วยให้เห็นช่วงเวลาที่ตลาดอยู่ในสภาวะอารมณ์สุดขั้ว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังหรือโอกาสในการลงทุน


สำหรับนักลงทุนระยะยาว ดัชนีนี้อาจเป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้ไล่ตามผลตอบแทนแบบเร่งด่วนหรือเกิดความตื่นตระหนกในช่วงตลาดขาลง เมื่อเห็นคะแนน “ความกลัวสุดขีด” ในช่วงที่ตลาดปรับฐาน อาจช่วยเสริมสร้างวินัยการลงทุน กระตุ้นให้ยึดมั่นในกลยุทธ์ระยะยาวแทนที่จะขายทิ้งอย่างรีบร้อน


อย่างไรก็ตาม การใช้ดัชนี Fear and Greed เป็นปัจจัยหลักสำหรับการจับจังหวะตลาดไม่แนะนำเพราะดัชนีนี้ไม่ได้พิจารณาปัจจัยสำคัญอื่น ๆ เช่น การประเมินมูลค่าหุ้น รายได้ ข้อมูลเศรษฐกิจ หรือมาตรการของธนาคารกลาง ซึ่งล้วนมีผลต่อทิศทางตลาดอย่างมาก


สรุป


แล้ว Fear and Greed Index คือกระแสชั่วคราวหรือตัวช่วยที่แท้จริง? คำตอบอาจอยู่ตรงกลางเพราะดัชนีนี้มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ในฐานะเครื่องมือเดี่ยว ๆ ดัชนียังมีจุดอ่อนตรงที่ไม่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างแม่นยำ ควรมองว่ามันเป็นเพียงภาพสะท้อนความรู้สึกของนักลงทุนในช่วงเวลาหนึ่ง มากกว่าจะเป็นคู่มือการลงทุนที่ครบถ้วน


แต่ถ้าใช้อย่างระมัดระวังและมีวิจารณญาณ ดัชนี Fear and Greed ก็ยังเป็นเครื่องมือเสริมที่ช่วยให้การตัดสินใจลงทุนมีมุมมองที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงและอารมณ์ของนักลงทุนแปรปรวน


สรุปง่าย ๆ คือดัชนี Fear and Greed ไม่ใช่ลูกแก้วพยากรณ์อนาคต แต่เป็นเลนส์ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมความรู้สึกของตลาดได้ดีขึ้น ความสำเร็จของการใช้ดัชนีนี้จึงขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใช้มันอย่างไรและเมื่อใด อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้ดัชนีนี้เป็นปัจจัยหลักในการจับจังหวะตลาด เพราะมันไม่ได้ครอบคลุมปัจจัยสำคัญอื่น ๆ อย่างการประเมินมูลค่าหุ้น รายได้ข้อมูลเศรษฐกิจ หรือมาตรการจากธนาคารกลาง ซึ่งล้วนส่งผลต่อทิศทางตลาดอย่างมาก


ข้อสงวนสิทธิ์: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีเจตนา (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำจาก EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
เจาะลึก Leading Indicators เครื่องมือชี้นำตลาดหุ้น
ดัชนีความกลัวและความโลภคืออะไร?
Bitcoin ทยานแตะ 124,000 จุด อนาคตจะบินหรือร่วง?
ตัวบ่งชี้ความเชื่อมั่นของตลาดคืออะไร?
Fear of Missing Out คืออะไร? อธิบายง่าย เข้าใจไว