ค้นพบ 10 รูปแบบ Japanese Candlestick ที่ทรงพลังที่สุด ช่วยให้นักเทรดจับจุดกลับตัวและแนวโน้มตลาดได้อย่างมั่นใจ
รูปแบบ Japanese Candlestick ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือที่น่าเชื่อถือและเข้าใจง่ายที่สุดในการอ่านความรู้สึกของตลาด
รูปแบบเหล่านี้ถูกคิดค้นครั้งแรกโดยพ่อค้าข้าวญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 18 และกลายเป็นส่วนสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดการเงินทั่วโลก เช่น ตลาด Forex หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 10 รูปแบบ Japanese Candlestick ที่สำคัญที่สุด ซึ่งนักเทรดทุกคนควรจดจำและใช้ได้อย่างมั่นใจในปี 2025
รูปแบบ Japanese Candlestick เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนหนึ่งแท่งหรือหลายแท่งแสดงภาพการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด โดยแต่ละแท่งเทียนประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ ราคาที่เปิด (Open) ราคาสูงสุด (High) ราคาต่ำสุด (Low) และราคาปิด (Close) ของช่วงเวลานั้น
ตัวแท่งเทียนจะแสดงระยะห่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นแท่งขาขึ้น (Bullish) ซึ่งมักจะมีสีขาวหรือเขียว แต่หากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นแท่งขาลง (Bearish) โดยทั่วไปจะมีสีดำหรือแดง ส่วน "ไส้เทียน" หรือ "เงา" แสดงถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดของช่วงเวลานั้น
ด้วยการศึกษารูปทรง ตำแหน่ง และลำดับของแท่งเทียนเหล่านี้ นักเทรดสามารถประเมินการเปลี่ยนแปลงของแรงขับเคลื่อนตลาด จิตวิทยาของผู้เล่นในตลาด และทิศทางราคาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
1. Hammer
Hammer คือรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) แบบแท่งเดียวที่ปรากฏหลังจากแนวโน้มขาลง โดยมีลำตัวแท่งเล็กอยู่ด้านบนของแท่งและมีไส้เทียนด้านล่างยาว
รูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าในช่วงแรกผู้ขายพยายามกดราคาลง แต่ในภายหลังผู้ซื้อสามารถดันราคากลับขึ้นมาได้ก่อนปิดแท่ง ซึ่งมักบ่งบอกว่าแนวโน้มอาจกลับตัวเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแท่งต่อไปเป็นแท่งขาขึ้นที่ยืนยันสัญญาณ
2. Inverted Hammer
Inverted Hammer หรือค้อนกลับหัว เป็นรูปแบบตรงข้ามกับ Hammer โดยมีลำตัวเล็กอยู่ด้านล่างของแท่ง และมีไส้เทียนด้านบนยาว เกิดขึ้นหลังแนวโน้มขาลง และส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ของการกลับตัวเป็นขาขึ้น
ไส้เทียนด้านบนที่ยาวแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อพยายามผลักดันราคาในช่วงการซื้อขาย แต่ไม่สามารถรักษาระดับราคาสูงไว้ได้ หากแท่งเทียนถัดมาเป็นแท่งขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ก็จะช่วยยืนยันสัญญาณการกลับตัว
3. Shooting Star
Shooting Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) ที่พบในช่วงปลายของแนวโน้มขาขึ้น ลักษณะของแท่งมีลำตัวเล็กอยู่ด้านล่างและไส้เทียนด้านบนที่ยาว
รูปแบบนี้แสดงว่าผู้ซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้น แต่ล้มเหลวในที่สุด ส่งผลให้ผู้ขายกลับมาเป็นฝ่ายควบคุม เมื่อมีแท่งเทียนขาลงตามหลัง Shooting Star จะยิ่งเพิ่มโอกาสของการกลับตัวในระยะสั้น
4. Hanging Man
Hanging Man มีลักษณะเหมือนกับ Hammer แต่ปรากฏที่ปลายของแนวโน้มขาขึ้น แม้ว่าจะดูคล้ายแท่งเทียนขาขึ้น แต่จริง ๆ แล้วถือเป็นรูปแบบกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal)
รูปแบบนี้แสดงว่าผู้ขายเริ่มมีแรงมากขึ้น แม้ว่าผู้ซื้อจะสามารถดันราคากลับขึ้นมาปิดใกล้จุดเปิดได้ก็ตาม หากมีแท่งเทียนสีแดงตามมา นักเทรดมักพิจารณาออกจากสถานะ Long หรือเปิดสถานะ Short
5. Bullish Engulfing
Bullish Engulfing เป็นรูปแบบแท่งเทียน 2 แท่ง โดยแท่งแรกเป็นแท่งขาลงขนาดเล็ก และตามด้วยแท่งขาขึ้นขนาดใหญ่ที่กลืนกินตัวแท่งก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์ มักพบในช่วงปลายของแนวโน้มขาลง และแสดงถึงการเปลี่ยนทิศทางจากแรงขายไปสู่แรงซื้อ
รูปแบบนี้เป็นสัญญาณของความสนใจในการซื้อที่เพิ่มขึ้น และหากได้รับการยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นหรือแท่งเทียนขาขึ้นเพิ่มเติม อาจนำไปสู่แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
6. Bearish Engulfing
Bearish Engulfing เป็นรูปแบบตรงข้ามกับ Bullish Engulfing โดยแท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้นขนาดเล็ก และตามด้วยแท่งขาลงขนาดใหญ่ที่กลืนแท่งก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์ มักปรากฏที่ปลายของแนวโน้มขาขึ้น และแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากแรงซื้อไปสู่แรงขาย
รูปแบบนี้บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่ราคาจะปรับตัวลง โดยจะยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้นหากมีปริมาณการซื้อขายสูง และมีสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought)
7. Doji
Doji เกิดขึ้นเมื่อราคาปิดและราคาเปิดแทบไม่ต่างกัน ส่งผลให้แท่งเทียนมีลำตัวเล็กมากหรือไม่มีเลย โดยมักมีลักษณะคล้ายเครื่องหมายบวกหรือเครื่องหมายกากบาท ซึ่งบ่งบอกถึงความลังเลหรือไม่แน่ชัดของตลาด
รูปแบบ Doji สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในช่วงแนวโน้มและช่วงที่ราคาทรงตัว (Consolidation) โดยลำพัง Doji เป็นสัญญาณเป็นกลาง แต่หากเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและตามด้วยแท่งเทียนกลับทิศ อาจเป็นสัญญาณกลับตัวที่ทรงพลัง
8. Morning Star
Morning Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) ประกอบด้วย 3 แท่งได้แก่:
แท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่
แท่งเทียนลำตัวเล็ก (อาจเป็น Doji หรือ Spinning Top)
แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ที่ปิดเหนือกึ่งกลางของแท่งแรก
รูปแบบนี้บ่งบอกว่าแรงขายเริ่มลดลงและผู้ซื้อเริ่มกลับมาเป็นฝ่ายควบคุม Morning Star จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อปรากฏใกล้แนวรับสำคัญหรือหลังจากแนวโน้มขาลงที่ยาวนาน
9. Evening Star
Evening Star เป็นรูปแบบกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) ซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามของ Morning Star ประกอบด้วย 3 แท่งได้แก่:
แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่
แท่งเทียนลำตัวเล็กที่แสดงความลังเลของตลาด
แท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่ที่ปิดต่ำกว่ากึ่งกลางของแท่งแรก
รูปแบบนี้มักบ่งชี้ถึงการหมดแรงของแนวโน้มขาขึ้น และถือว่าเป็นสัญญาณกลับตัวขาลงที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะหากมีปริมาณการซื้อขายที่สนับสนุนการเปลี่ยนทิศทาง
10. Harami
Harami เป็นรูปแบบแท่งเทียน 2 แท่ง โดยแท่งที่สองมีขนาดเล็กและอยู่ภายในกรอบของแท่งแรก แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ:
Bullish Harami: ปรากฏหลังจากแนวโน้มขาลง โดยแท่งแรกเป็นแท่งขาลงขนาดใหญ่ และตามด้วยแท่งขาขึ้นขนาดเล็ก
Bearish Harami: ปรากฏหลังจากแนวโน้มขาขึ้น โดยแท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้นขนาดใหญ่ และตามด้วยแท่งขาลงขนาดเล็ก
รูปแบบ Harami บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของแรงซื้อหรือขาย และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการกลับทิศ แต่นักเทรดมักรอการยืนยันจากแท่งเทียนถัดไปก่อนตัดสินใจซื้อขาย
ด้าน | Japanese Candlestick Patterns | Western Chart Pattern |
---|---|---|
ที่มา | พัฒนาขึ้นในญี่ปุ่นช่วงศตวรรษที่ 18 โดยพ่อค้าข้าว | พัฒนาขึ้นและได้รับความนิยมจากนักวิเคราะห์ทางเทคนิคฝั่งตะวันตก |
กรอบเวลาในการใช้งาน | ระยะสั้น (Intaday ถึงรายวัน) | ระยะกลางถึงระยะยาว (รายวันถึงรายสัปดาห์) |
โครงสร้าง | แท่งเดียวหรือชุดแท่งเทียนจำนวนน้อย | รูปแบบหลายแท่งหรือหลายช่วงเวลา |
ตัวอย่างรูปแบบ | Hammer, Doji, Engulfing, Morning Star, Shooting Star | Head and Shoulders, Double Top/Bottom, Triangles, Flags |
แนวทางในการตีความ | เน้นจิตวิทยาตลาดและความรู้สึกแบบเรียลไทม์ | เน้นการเกิดรูปแบบสมบูรณ์และการวัดเป้าหมายราคา |
ประเภทของสัญญาณ | ส่วนใหญ่มักเป็นสัญญาณกลับตัว(แต่มีแบบต่อเนื่องด้วย) | ทั้งแบบกลับตัวและต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับรูปแบบ |
การยืนยันสัญญาณ | มักยืนยันโดยแท่งเทียนถัดไป 1–2 แท่ง | มักยืนยันจากการเบรกเอาท์ หรือปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้น |
ความง่ายในการมองเห็น | มองเห็นง่ายด้วยจำนวนแท่งน้อย | ซับซ้อนกว่า ต้องใช้ความอดทนและการวิเคราะห์โครงสร้าง |
เครื่องมือที่ใช้ร่วมกันได้ดี | อินดิเคเตอร์ (RSI,MACD), แนวรับแนวต้าน | เส้นแนวโน้ม, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, ปริมาณการซื้อขาย, แนวรับแนวต้าน |
ความเร็วของสัญญาณ | รวดเร็ว เห็นได้แบบเรียลไทม์ | ช้ากว่า ต้องรอให้รูปแบบสมบูรณ์ก่อนยืนยัน |
การใช้งานทั่วไปใน | Day Trading, Scalping, Swing Trading | Swing Trading, Position Trading |
การสะท้อนจิตวิทยาตลาด | สูง — สะท้อนอารมณ์ของผู้ซื้อและผู้ขายในแต่ละแท่ง | ปานกลาง — เน้นโครงสร้างราคามากกว่าความรู้สึกทันที |
Japanese Candlestick Patterns เน้นการเปลี่ยนแปลงของจิตวิทยาระยะสั้นและมักใช้เพื่อระบุจุดกลับตัวหรือรูปแบบต่อเนื่อง ในขณะที่ Western Chart Patterns เช่น Double Top, Head and Shoulders หรือ Flags จะมุ่งเน้นโครงสร้างในภาพรวมและการคาดการณ์เป้าหมายราคาในระยะยาว
แม้ว่ารูปแบบแท่งเทียนจะให้สัญญาณเร็วกว่า แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับโครงสร้างแนวโน้มที่ใหญ่กว่าและการวิเคราะห์ในภาพรวม (Macro View)
แม้ว่าการซื้อขายแบบอัลกอริธึมและตัวบ่งชี้ขั้นสูงจะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่รูปแบบแท่งเทียนยังคงเป็นส่วนพื้นฐานของการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา นี่คือเหตุผลที่รูปแบบแท่งเทียนยังคงมีความเกี่ยวข้องในการซื้อขายสมัยใหม่:
ความชัดเจนทางสายตา: รูปแบบแท่งเทียนแสดงความเคลื่อนไหวระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือเสริม
จิตวิทยาที่ยังคงใช้ได้เสมอ: อารมณ์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นความกลัวหรือความโลภ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนตลาด และรูปแบบแท่งเทียนสะท้อนพฤติกรรมนั้นได้อย่างแม่นยำ
ความยืดหยุ่นในการใช้งาน: รูปแบบแท่งเทียนสามารถใช้ได้ในหลายช่วงเวลาและหลายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโต
เรียนรู้ได้ง่าย: แม้แต่มือใหม่ก็สามารถจดจำรูปทรงพื้นฐานของแท่งเทียนได้ง่าย และเริ่มพัฒนากลยุทธ์การเทรดอย่างเป็นธรรมชาติ
แม้ตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด การมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนยังคงเป็นข้อได้เปรียบที่ไร้กาลเวลาให้กับนักเทรด ไม่ว่าพวกเขาจะใช้เครื่องมือวิเคราะห์หรือแพลตฟอร์มใดก็ตาม
การเรียนรู้รูปแบบ Japanese Candlestick ก็เหมือนกับการเรียนรู้ภาษาหนึ่ง เมื่อคุณอ่านแท่งเทียนได้คล่อง คุณจะเข้าใจว่าตลาดกำลังบอกอะไร และเดาทิศทางต่อไปได้ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะเทรดหุ้นแบบสวิงหรือเก็งกำไรฟอเร็กซ์ระยะสั้น การรู้จัก 10 รูปแบบพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าออกรายการได้แม่นยำขึ้น วางแผนการปิดออเดอร์ได้ดี และลดการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์
แต่อย่าลืมว่า ไม่มีรูปแบบแท่งเทียนใดให้ผลลัพธ์ที่แน่นอน 100% คุณควรใช้ควบคู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค การบริหารความเสี่ยง และวินัยในการเทรดเมื่อทุกอย่างมาประกอบกันอย่างมีระบบ คุณจะเทรดได้อย่างมั่นใจและมีความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้นในระยะยาว
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
ค้นพบ 5 วันสำคัญของการแตกพาร์หุ้น NVIDIA รวมถึงวันปิดสมุดทะเบียน วันแจกจ่ายหุ้น และวันเริ่มซื้อขายใหม่ ข้อมูลสำคัญที่นักเทรดและผู้ถือหุ้นไม่ควรพลาด
2025-06-23ค้นหาความแตกต่างระหว่างรูปแบบ Piercing Pattern และ Bullish Engulfing พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีเลือกสัญญาณแท่งเทียนขาขึ้นที่เหมาะกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
2025-06-23เปิดเผยความจริงเบื้องหลังความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BSV ETF และเรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดดังกล่าวสามารถนำไปใช้กับกลยุทธ์การลงทุนแบบระมัดระวังของคุณได้อย่างไร
2025-06-23