10 รูปแบบ Japanese Candlestick ที่นักเทรดต้องรู้

2025-06-23
สรุป

ค้นพบ 10 รูปแบบ Japanese Candlestick ที่ทรงพลังที่สุด ช่วยให้นักเทรดจับจุดกลับตัวและแนวโน้มตลาดได้อย่างมั่นใจ

รูปแบบ Japanese Candlestick ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือที่น่าเชื่อถือและเข้าใจง่ายที่สุดในการอ่านความรู้สึกของตลาด


รูปแบบเหล่านี้ถูกคิดค้นครั้งแรกโดยพ่อค้าข้าวญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 18 และกลายเป็นส่วนสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดการเงินทั่วโลก เช่น ตลาด Forex หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์


ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 10 รูปแบบ Japanese Candlestick ที่สำคัญที่สุด ซึ่งนักเทรดทุกคนควรจดจำและใช้ได้อย่างมั่นใจในปี 2025


รูปแบบ Japanese Candlestick คืออะไร?

Japanese Candlestick

รูปแบบ Japanese Candlestick เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนหนึ่งแท่งหรือหลายแท่งแสดงภาพการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด โดยแต่ละแท่งเทียนประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ ราคาที่เปิด (Open) ราคาสูงสุด (High) ราคาต่ำสุด (Low) และราคาปิด (Close) ของช่วงเวลานั้น


ตัวแท่งเทียนจะแสดงระยะห่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นแท่งขาขึ้น (Bullish) ซึ่งมักจะมีสีขาวหรือเขียว แต่หากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นแท่งขาลง (Bearish) โดยทั่วไปจะมีสีดำหรือแดง ส่วน "ไส้เทียน" หรือ "เงา" แสดงถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดของช่วงเวลานั้น


ด้วยการศึกษารูปทรง ตำแหน่ง และลำดับของแท่งเทียนเหล่านี้ นักเทรดสามารถประเมินการเปลี่ยนแปลงของแรงขับเคลื่อนตลาด จิตวิทยาของผู้เล่นในตลาด และทิศทางราคาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้


10 รูปแบบยอดนิยมของ Japanese Candlestick

รูปแบบ Japanese Candlestick

1. Hammer

Hammer คือรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) แบบแท่งเดียวที่ปรากฏหลังจากแนวโน้มขาลง โดยมีลำตัวแท่งเล็กอยู่ด้านบนของแท่งและมีไส้เทียนด้านล่างยาว


รูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าในช่วงแรกผู้ขายพยายามกดราคาลง แต่ในภายหลังผู้ซื้อสามารถดันราคากลับขึ้นมาได้ก่อนปิดแท่ง ซึ่งมักบ่งบอกว่าแนวโน้มอาจกลับตัวเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแท่งต่อไปเป็นแท่งขาขึ้นที่ยืนยันสัญญาณ


2. Inverted Hammer

Inverted Hammer หรือค้อนกลับหัว เป็นรูปแบบตรงข้ามกับ Hammer โดยมีลำตัวเล็กอยู่ด้านล่างของแท่ง และมีไส้เทียนด้านบนยาว เกิดขึ้นหลังแนวโน้มขาลง และส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ของการกลับตัวเป็นขาขึ้น


ไส้เทียนด้านบนที่ยาวแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อพยายามผลักดันราคาในช่วงการซื้อขาย แต่ไม่สามารถรักษาระดับราคาสูงไว้ได้ หากแท่งเทียนถัดมาเป็นแท่งขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ก็จะช่วยยืนยันสัญญาณการกลับตัว


3. Shooting Star

Shooting Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) ที่พบในช่วงปลายของแนวโน้มขาขึ้น ลักษณะของแท่งมีลำตัวเล็กอยู่ด้านล่างและไส้เทียนด้านบนที่ยาว


รูปแบบนี้แสดงว่าผู้ซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้น แต่ล้มเหลวในที่สุด ส่งผลให้ผู้ขายกลับมาเป็นฝ่ายควบคุม เมื่อมีแท่งเทียนขาลงตามหลัง Shooting Star จะยิ่งเพิ่มโอกาสของการกลับตัวในระยะสั้น


4. Hanging Man

Hanging Man มีลักษณะเหมือนกับ Hammer แต่ปรากฏที่ปลายของแนวโน้มขาขึ้น แม้ว่าจะดูคล้ายแท่งเทียนขาขึ้น แต่จริง ๆ แล้วถือเป็นรูปแบบกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal)


รูปแบบนี้แสดงว่าผู้ขายเริ่มมีแรงมากขึ้น แม้ว่าผู้ซื้อจะสามารถดันราคากลับขึ้นมาปิดใกล้จุดเปิดได้ก็ตาม หากมีแท่งเทียนสีแดงตามมา นักเทรดมักพิจารณาออกจากสถานะ Long หรือเปิดสถานะ Short


5. Bullish Engulfing

Bullish Engulfing เป็นรูปแบบแท่งเทียน 2 แท่ง โดยแท่งแรกเป็นแท่งขาลงขนาดเล็ก และตามด้วยแท่งขาขึ้นขนาดใหญ่ที่กลืนกินตัวแท่งก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์ มักพบในช่วงปลายของแนวโน้มขาลง และแสดงถึงการเปลี่ยนทิศทางจากแรงขายไปสู่แรงซื้อ


รูปแบบนี้เป็นสัญญาณของความสนใจในการซื้อที่เพิ่มขึ้น และหากได้รับการยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นหรือแท่งเทียนขาขึ้นเพิ่มเติม อาจนำไปสู่แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง


6. Bearish Engulfing

Bearish Engulfing เป็นรูปแบบตรงข้ามกับ Bullish Engulfing โดยแท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้นขนาดเล็ก และตามด้วยแท่งขาลงขนาดใหญ่ที่กลืนแท่งก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์ มักปรากฏที่ปลายของแนวโน้มขาขึ้น และแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากแรงซื้อไปสู่แรงขาย


รูปแบบนี้บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่ราคาจะปรับตัวลง โดยจะยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้นหากมีปริมาณการซื้อขายสูง และมีสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought)


7. Doji

Doji เกิดขึ้นเมื่อราคาปิดและราคาเปิดแทบไม่ต่างกัน ส่งผลให้แท่งเทียนมีลำตัวเล็กมากหรือไม่มีเลย โดยมักมีลักษณะคล้ายเครื่องหมายบวกหรือเครื่องหมายกากบาท ซึ่งบ่งบอกถึงความลังเลหรือไม่แน่ชัดของตลาด


รูปแบบ Doji สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในช่วงแนวโน้มและช่วงที่ราคาทรงตัว (Consolidation) โดยลำพัง Doji เป็นสัญญาณเป็นกลาง แต่หากเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและตามด้วยแท่งเทียนกลับทิศ อาจเป็นสัญญาณกลับตัวที่ทรงพลัง


8. Morning Star

Morning Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal) ประกอบด้วย 3 แท่งได้แก่:

  • แท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่

  • แท่งเทียนลำตัวเล็ก (อาจเป็น Doji หรือ Spinning Top)

  • แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ที่ปิดเหนือกึ่งกลางของแท่งแรก


รูปแบบนี้บ่งบอกว่าแรงขายเริ่มลดลงและผู้ซื้อเริ่มกลับมาเป็นฝ่ายควบคุม Morning Star จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อปรากฏใกล้แนวรับสำคัญหรือหลังจากแนวโน้มขาลงที่ยาวนาน


9. Evening Star

Evening Star เป็นรูปแบบกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) ซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามของ Morning Star ประกอบด้วย 3 แท่งได้แก่:

  • แท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่

  • แท่งเทียนลำตัวเล็กที่แสดงความลังเลของตลาด

  • แท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่ที่ปิดต่ำกว่ากึ่งกลางของแท่งแรก

รูปแบบนี้มักบ่งชี้ถึงการหมดแรงของแนวโน้มขาขึ้น และถือว่าเป็นสัญญาณกลับตัวขาลงที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะหากมีปริมาณการซื้อขายที่สนับสนุนการเปลี่ยนทิศทาง


10. Harami

Harami เป็นรูปแบบแท่งเทียน 2 แท่ง โดยแท่งที่สองมีขนาดเล็กและอยู่ภายในกรอบของแท่งแรก แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ:

  • Bullish Harami: ปรากฏหลังจากแนวโน้มขาลง โดยแท่งแรกเป็นแท่งขาลงขนาดใหญ่ และตามด้วยแท่งขาขึ้นขนาดเล็ก

  • Bearish Harami: ปรากฏหลังจากแนวโน้มขาขึ้น โดยแท่งแรกเป็นแท่งขาขึ้นขนาดใหญ่ และตามด้วยแท่งขาลงขนาดเล็ก


รูปแบบ Harami บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของแรงซื้อหรือขาย และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการกลับทิศ แต่นักเทรดมักรอการยืนยันจากแท่งเทียนถัดไปก่อนตัดสินใจซื้อขาย


Japanese Candlestick Patterns vs Western Chart Patterns

ด้าน Japanese Candlestick Patterns Western Chart Pattern
ที่มา พัฒนาขึ้นในญี่ปุ่นช่วงศตวรรษที่ 18 โดยพ่อค้าข้าว พัฒนาขึ้นและได้รับความนิยมจากนักวิเคราะห์ทางเทคนิคฝั่งตะวันตก
กรอบเวลาในการใช้งาน ระยะสั้น (Intaday ถึงรายวัน) ระยะกลางถึงระยะยาว (รายวันถึงรายสัปดาห์)
โครงสร้าง แท่งเดียวหรือชุดแท่งเทียนจำนวนน้อย รูปแบบหลายแท่งหรือหลายช่วงเวลา
ตัวอย่างรูปแบบ Hammer, Doji, Engulfing, Morning Star, Shooting Star Head and Shoulders, Double Top/Bottom, Triangles, Flags
แนวทางในการตีความ เน้นจิตวิทยาตลาดและความรู้สึกแบบเรียลไทม์ เน้นการเกิดรูปแบบสมบูรณ์และการวัดเป้าหมายราคา
ประเภทของสัญญาณ ส่วนใหญ่มักเป็นสัญญาณกลับตัว(แต่มีแบบต่อเนื่องด้วย) ทั้งแบบกลับตัวและต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับรูปแบบ
การยืนยันสัญญาณ มักยืนยันโดยแท่งเทียนถัดไป 1–2 แท่ง มักยืนยันจากการเบรกเอาท์ หรือปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
ความง่ายในการมองเห็น มองเห็นง่ายด้วยจำนวนแท่งน้อย ซับซ้อนกว่า ต้องใช้ความอดทนและการวิเคราะห์โครงสร้าง
เครื่องมือที่ใช้ร่วมกันได้ดี อินดิเคเตอร์ (RSI,MACD), แนวรับแนวต้าน เส้นแนวโน้ม, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, ปริมาณการซื้อขาย, แนวรับแนวต้าน
ความเร็วของสัญญาณ รวดเร็ว เห็นได้แบบเรียลไทม์ ช้ากว่า ต้องรอให้รูปแบบสมบูรณ์ก่อนยืนยัน
การใช้งานทั่วไปใน Day Trading, Scalping, Swing Trading Swing Trading, Position Trading
การสะท้อนจิตวิทยาตลาด สูง — สะท้อนอารมณ์ของผู้ซื้อและผู้ขายในแต่ละแท่ง ปานกลาง — เน้นโครงสร้างราคามากกว่าความรู้สึกทันที


Japanese Candlestick Patterns เน้นการเปลี่ยนแปลงของจิตวิทยาระยะสั้นและมักใช้เพื่อระบุจุดกลับตัวหรือรูปแบบต่อเนื่อง ในขณะที่ Western Chart Patterns เช่น Double Top, Head and Shoulders หรือ Flags จะมุ่งเน้นโครงสร้างในภาพรวมและการคาดการณ์เป้าหมายราคาในระยะยาว


แม้ว่ารูปแบบแท่งเทียนจะให้สัญญาณเร็วกว่า แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับโครงสร้างแนวโน้มที่ใหญ่กว่าและการวิเคราะห์ในภาพรวม (Macro View)


ทำไมรูปแบบ Japanese Candlestick จึงยังคงมีความสำคัญในปี 2025


แม้ว่าการซื้อขายแบบอัลกอริธึมและตัวบ่งชี้ขั้นสูงจะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่รูปแบบแท่งเทียนยังคงเป็นส่วนพื้นฐานของการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา นี่คือเหตุผลที่รูปแบบแท่งเทียนยังคงมีความเกี่ยวข้องในการซื้อขายสมัยใหม่:


  1. ความชัดเจนทางสายตา: รูปแบบแท่งเทียนแสดงความเคลื่อนไหวระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือเสริม

  2. จิตวิทยาที่ยังคงใช้ได้เสมอ: อารมณ์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นความกลัวหรือความโลภ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนตลาด และรูปแบบแท่งเทียนสะท้อนพฤติกรรมนั้นได้อย่างแม่นยำ

  3. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน: รูปแบบแท่งเทียนสามารถใช้ได้ในหลายช่วงเวลาและหลายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโต

  4. เรียนรู้ได้ง่าย: แม้แต่มือใหม่ก็สามารถจดจำรูปทรงพื้นฐานของแท่งเทียนได้ง่าย และเริ่มพัฒนากลยุทธ์การเทรดอย่างเป็นธรรมชาติ


แม้ตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด การมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียนยังคงเป็นข้อได้เปรียบที่ไร้กาลเวลาให้กับนักเทรด ไม่ว่าพวกเขาจะใช้เครื่องมือวิเคราะห์หรือแพลตฟอร์มใดก็ตาม


สรุป


การเรียนรู้รูปแบบ Japanese Candlestick ก็เหมือนกับการเรียนรู้ภาษาหนึ่ง เมื่อคุณอ่านแท่งเทียนได้คล่อง คุณจะเข้าใจว่าตลาดกำลังบอกอะไร และเดาทิศทางต่อไปได้ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะเทรดหุ้นแบบสวิงหรือเก็งกำไรฟอเร็กซ์ระยะสั้น การรู้จัก 10 รูปแบบพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าออกรายการได้แม่นยำขึ้น วางแผนการปิดออเดอร์ได้ดี และลดการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์


แต่อย่าลืมว่า ไม่มีรูปแบบแท่งเทียนใดให้ผลลัพธ์ที่แน่นอน 100% คุณควรใช้ควบคู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค การบริหารความเสี่ยง และวินัยในการเทรดเมื่อทุกอย่างมาประกอบกันอย่างมีระบบ คุณจะเทรดได้อย่างมั่นใจและมีความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้นในระยะยาว


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

หุ้น NVIDIA จะแตกพาร์เมื่อไหร่? 5 วันสำคัญต้องรู้

หุ้น NVIDIA จะแตกพาร์เมื่อไหร่? 5 วันสำคัญต้องรู้

ค้นพบ 5 วันสำคัญของการแตกพาร์หุ้น NVIDIA รวมถึงวันปิดสมุดทะเบียน วันแจกจ่ายหุ้น และวันเริ่มซื้อขายใหม่ ข้อมูลสำคัญที่นักเทรดและผู้ถือหุ้นไม่ควรพลาด

2025-06-23
Piercing vs Bullish Engulfing รูปแบบไหนดีกว่า?

Piercing vs Bullish Engulfing รูปแบบไหนดีกว่า?

ค้นหาความแตกต่างระหว่างรูปแบบ Piercing Pattern และ Bullish Engulfing พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีเลือกสัญญาณแท่งเทียนขาขึ้นที่เหมาะกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

2025-06-23
คลายความเข้าใจผิดและเจาะลึกความจริงของ BSV ETF

คลายความเข้าใจผิดและเจาะลึกความจริงของ BSV ETF

เปิดเผยความจริงเบื้องหลังความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BSV ETF และเรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดดังกล่าวสามารถนำไปใช้กับกลยุทธ์การลงทุนแบบระมัดระวังของคุณได้อย่างไร

2025-06-23