5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ Intraday

2025-06-05
สรุป

Intraday คือการเทรดรายวัน แต่ก็ยังมีความเชื่อผิดๆ ซึ่งบทความนี้จะลบล้างความเชื่อผิดๆ และเปิดเผยกลยุทธ์ที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในตลาดโลกการเงิน

Intraday คือการเทรดรายวัน ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการเข้าร่วมตลาดที่น่าตื่นเต้นที่สุด เพราะเต็มไปด้วยความรวดเร็ว ความตื่นเต้น และโอกาสในการทำกำไรอย่างฉับไว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเข้าใจผิดอยู่มาก หากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่กำลังหาจังหวะของตัวเอง หรือเป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์แล้ว แต่ต้องการพัฒนากลยุทธ์เพิ่มเติม การเข้าใจความจริงเบื้องหลัง "ความเชื่อผิด ๆ" เหล่านี้ อาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ แทนที่จะต้องเผชิญกับความสูญเสียโดยไม่จำเป็น


ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปไขความลับและหักล้าง 5 ความเชื่อผิด ๆ ที่มักเข้าใจผิดกันเกี่ยวกับการเทรดรายวัน แยกแยะสิ่งที่เป็นเพียงแค่กระแส กับสิ่งที่เป็นความจริงให้ชัดเจน


ไขความจริง : 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ Intraday

Intraday Trading

ความเชื่อผิดที่ 1: Intraday เหมือนการพนัน

หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุดก็คือ การเทรดรายวันไม่ต่างอะไรกับการเสี่ยงโชคในคาสิโน ความคิดนี้มักเกิดจากเรื่องราวของคนที่ขาดทุนอย่างรวดเร็วหรือพฤติกรรมที่ดูเสี่ยงเกินไป


ความเป็นจริง :

แม้ว่าการเทรดรายวันจะมีความเสี่ยง แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่มแต่อย่างใด เทรดเดอร์ที่ทำกำไรได้จริงจะใช้การวิเคราะห์ การบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย และกลยุทธ์ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว พวกเขาอาศัยเครื่องมือ เช่น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียน การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย และแนวโน้มในระหว่างวัน เพื่อตัดสินใจอย่างมีหลักการ สิ่งที่แยกความแตกต่างระหว่าง "การพนัน" กับ "การเทรด" คือ การเตรียมตัวและการลงมือทำอย่างมีระบบ ไม่ใช่เรื่องของโชค


ความเชื่อผิดที่ 2: ต้องจ้องหน้าจอทั้งวัน

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดคือ การเทรดรายวันต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตั้งแต่เปิดตลาดจนปิดตลาดแบบไม่มีเวลาพัก ไม่มีความยืดหยุ่น


ความเป็นจริง :

แม้ว่า "จังหวะเวลา" จะมีความสำคัญในการเทรดรายวัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องนั่งดูกราฟทุกวินาที เทรดเดอร์หลายคนเลือกโฟกัสเฉพาะช่วงเวลาที่มีโอกาสสูง เช่น ชั่วโมงแรกหลังเปิดตลาด หรือช่วงตลาดลอนดอนซ้อนกับนิวยอร์ก


บางคนใช้ระบบแจ้งเตือน (alert) หรือเครื่องมือเทรดอัตโนมัติเพื่อช่วยลดเวลาหน้าจอ ถ้ามีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและการวางแผนที่ดี การเทรดรายวันสามารถทำควบคู่กับการใช้ชีวิตอย่างสมดุลได้ โดยไม่ต้องเสียประสิทธิภาพในการเทรดเลย


ความเชื่อผิดที่ 3: เทรดยิ่งเยอะ ยิ่งได้กำไรเยอะ

นี่คือกับดักอันตรายที่เทรดเดอร์มือใหม่จำนวนมากมักตกหลุมพราง คิดว่ายิ่งเปิดออเดอร์เยอะ ก็ยิ่งทำกำไรได้มากขึ้น


ความเป็นจริง :

ในการเทรดรายวัน “คุณภาพ” สำคัญกว่า “ปริมาณ” เสมอ การเทรดมากเกินไป (Overtrading) นอกจากจะเพิ่มต้นทุนผ่านสเปรดหรือค่าคอมมิชชันแล้ว ยังทำให้เสี่ยงขาดทุนมากขึ้นด้วย เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักรอจังหวะที่มีความน่าจะเป็นสูงเท่านั้น บางวันอาจเปิดแค่ไม่กี่ออเดอร์ พวกเขาให้ความสำคัญกับ “จุดเข้าที่มีคุณภาพตามเงื่อนไขที่ชัดเจน” มากกว่าการไล่ตามทุกการเคลื่อนไหวของราคาอย่างไร้แผน


ความเชื่อผิดที่ 4: การเทรดรายวันเหมาะกับหุ้นราคาถูก (Penny Stocks) ที่สุด

หลายคนเชื่อว่าหุ้นราคาถูกที่ผันผวนแรง คือเป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดรายวัน เพราะราคาขึ้นลงเร็ว เหมือนจะทำกำไรได้ง่าย


ความเป็นจริง :

แม้ว่าความผันผวนจะสร้างโอกาสในการทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงของการหลุดราคาที่ตั้งไว้ (Slippage) และความไม่แน่นอนเช่นกัน เทรดเดอร์มืออาชีพหลายคนกลับเลือกใช้สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและเสถียรมากกว่า เช่น คู่เงินหลัก (Major Currency Pairs), หุ้นขนาดใหญ่ (Large-cap Stocks) หรือสินค้าโภคภัณฑ์


ตลาดเหล่านี้ให้สเปรดที่เหมาะสม การเปิด–ปิดออเดอร์รวดเร็ว และมีรูปแบบราคาที่คาดการณ์ได้ง่ายกว่า ซึ่งเหมาะกับกลยุทธ์การเทรดในระยะสั้น


ความเชื่อผิดที่ 5: ต้องมีเงินทุนจำนวนมากจึงจะเริ่มเทรดรายวันได้

หลายคนเชื่อว่าการเทรดรายวันเป็นเรื่องของมืออาชีพที่มีเงินทุนหนาเท่านั้น


ความเป็นจริง :

แม้ว่าการมีเงินทุนมากจะช่วยให้จัดขนาดตำแหน่งได้ยืดหยุ่นขึ้น และลดผลกระทบจากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย แต่ก็ไม่ใช่ข้อจำเป็นในการเริ่มต้นปั่นกำไรยุคนี้ ด้วยระบบเทรดแบบเศษหุ้น (Fractional Trading), สัญญาขนาดเล็ก (Micro-lots) และบัญชีใช้เลเวอเรจ (Leverage) เทรดเดอร์สามารถเริ่มต้นด้วยเงินทุนจำนวนน้อยและยังสามารถทำกำไรได้อย่างมีความหมาย สิ่งที่สำคัญกว่าคือการบริหารจัดการเงินทุน ไม่ใช่จำนวนเงินทุนที่มีอยู่


ความจริงเกี่ยวกับกลยุทธ์ Intraday

Intraday Trading Strategies

ความเชื่อผิดส่วนใหญ่เกิดจากความไม่เข้าใจว่ากลยุทธ์การเทรดรายวันถูกสร้างขึ้นอย่างไร กลยุทธ์เหล่านี้มักจะอิงกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคระยะสั้น การเคลื่อนไหวของราคา แนวรับแนวต้าน และจิตวิทยาตลาด จุดมุ่งหมายไม่ใช่การเดาทิศทางตลาดล่วงหน้า แต่เป็นการตอบสนองตามสิ่งที่ตลาดกำลังทำแบบเรียลไทม์


กลยุทธ์การเทรดรายวันที่พบได้บ่อย เช่น:

  • Breakout: ระบุระดับสำคัญและเข้าเทรดเมื่อราคาทะลุผ่าน

  • Momentum: ตามกระแสการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในทิศทางหนึ่ง

  • Reversal: มองหาสัญญาณว่าราคาหมดแรงและตั้งเป้าการดีดตัวกลับ


แต่ละวิธีต้องใช้ทักษะที่แตกต่างกัน และเทรดเดอร์มักจะทดสอบกลยุทธ์เหล่านี้ทั้งแบบย้อนหลัง (backtest) และแบบเรียลไทม์ (forward-test) ก่อนนำไปใช้จริง


ทำไมความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเทรดถึงยังคงอยู่อีก


การเทรดแบบเดย์เทรดมักดึงดูดมือใหม่ที่มองหากำไรเร็วหรือความสำเร็จแบบฉับพลัน แต่เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามคาด หลายคนกลับโทษระบบแทนที่จะย้อนมองความเข้าใจของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น ในโลกออนไลน์ก็เต็มไปด้วยข้อมูลผิดๆ ทำให้ไม่แปลกใจว่าทำไมความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเทรดถึงยังคงแพร่กระจาย


บทบาทของนักสร้างคอนเทนต์และกลุ่มเทรดในโซเชียลก็สำคัญไม่แพ้กัน—ทั้งกลยุทธ์ที่อวดเกินจริง ภาพหน้าจอที่แสดงผลตอบแทนเว่อร์ๆ และคำแนะนำแบบผิวเผิน ล้วนสร้างความคาดหวังผิดๆ ให้กับเทรดเดอร์หน้าใหม่


Intraday ต้องการการเปลี่ยนแปลงทางความคิด


ความจริงก็คือ การเทรดแบบวันเดย์ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะมันต้องใช้วินัยทางอารมณ์ การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และความพร้อมที่จะปรับตัวได้สำเร็จในพื้นที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะถูกต้องทุกครั้ง แต่เป็นการบริหารความเสี่ยงได้ดีเมื่อผิดพลาด และเร่งทำกำไรเมื่อถูกต้อง


นักเทรดที่เข้าใจเรื่องนี้มักจะทำผลงานได้ดีกว่าผู้ที่โฟกัสแค่การตามหาชัยชนะ พวกเขามักจะจดบันทึก ประเมินผลการเทรด และปรับปรุงระบบของตัวเองอย่างต่อเนื่อง


สรุป


Intraday คือหนึ่งในวิธีการเทรดที่เทรดเดอร์เข้าใจผิดมากที่สุด แต่มันไม่ใช่ความวุ่นวาย หรือเส้นทางสู่ความมั่งคั่งที่รับประกันได้ แต่เป็นการปฏิบัติที่มีโครงสร้าง ซึ่งถ้าทำอย่างถูกต้อง สามารถสร้างโอกาสที่สม่ำเสมอทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง


ด้วยการตัดเสียงรบกวนและท้าทายความเชื่อผิด ๆ นักเทรดจะสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล และสร้างเส้นทางการเทรดแบบวันเดย์ที่ยั่งยืนมากขึ้น


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20