Scalping Trade คืออะไร และทำอย่างไรให้ได้กำไรต่อเนื่อง

2025-06-05
สรุป

ต้องการเทรดสั้น ทำกำไรที่เร็วๆ หรือไม่? เรียนรู้กลยุทธ์การเทรด Scalping 2025 และอินดิเคเตอร์ บวกกลยุทธ์การเทรดสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

Scalping Trade คือกลยุทธ์ที่ใช้ความเร็วและการทำธุรกรรมบ่อยครั้ง เพื่อหวังผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กน้อยในเวลาสั้นๆ แม้ว่าวิธีนี้จะไม่เหมาะกับนักเทรดที่มีอารมณ์ความรู้สึกมาก แต่สแค็ปปิงสามารถให้ผลกำไรสูงสำหรับนักเทรดที่มีวินัยและเข้าใจกลไกของมันอย่างดี


ในบทความนี้ เราจะพูดถึงว่า Scalping Trade คืออะไร วิธีการทำงาน กลยุทธ์ที่นิยม เครื่องมือที่ต้องใช้ ข้อดีข้อเสีย และวิธีเริ่มต้นในปี 2025


Scalping Trade คืออะไร?

What Is Scalping

Scalping Trade คือกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่มุ่งหวังกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กน้อย โดยมักถือโพซิชั่นเพียงไม่กี่วินาทีถึงไม่กี่นาที นักเทรดที่ใช้เทคนิคนี้ซึ่งเรียกว่า Scalpers จะทำการเทรดหลายสิบหรือหลายร้อยครั้งต่อวันเพื่อสะสมกำไรรวม


แตกต่างจากการเทรดแบบ Swing หรือ Position ที่เน้นเทรนด์ราคาขนาดใหญ่ Scalpers จะใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาที่เล็กและเกิดซ้ำๆ ความเร็ว ความแม่นยำ และการจับจังหวะเป็นสิ่งสำคัญมาก


ตัวอย่างเช่น การเทรดแบบ Scalping มักจะเกิดขึ้นที่:

  • กราฟ 1 นาที

  • กราฟ 5 นาที

  • กราฟ Tick (เช่น ทุกๆ 100 เทรด)

  • กราฟ 15 วินาที หรือ 30 วินาที สำหรับการเทรดที่รวดเร็วมาก

ยิ่งช่วงเวลาบนกราฟสั้นลง ก็จะได้รับสัญญาณมากขึ้น แต่ก็มีสัญญาณรบกวนมากขึ้นด้วย ดังนั้นความแม่นยำจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก


Scalping trade, Day trade และ Swing trade

คุณสมบัติ Scalping trade Day trade Swing trade
ระยะเวลาการถือครอง วินาทีถึงนาที นาทีถึงชั่วโมง วันถึงสัปดาห์
จำนวนการเทรดต่อวัน 20–100+ ต่อวัน 2–10 ต่อวัน 1–5 ต่อสัปดาห์
ระดับความเครียด สูง ปานกลาง ต่ำ
ทักษะทางเทคนิค สูง ปานกลาง ต่ำถึงปานกลาง
เหมาะสำหรับ นักคิดเร็ว ผู้ติดตามเทรนด์ระหว่างวัน เทรดเดอร์พาร์ทไทม์


Scalping Trade ทำงานอย่างไร?

Scalping Trading

นี่คือขั้นตอนการเทรดแบบสแค็ปปิงอย่างละเอียด:

  1. ระบุโอกาสเล็ก ๆ จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือรูปแบบกราฟ

  2. เปิดออเดอร์เทรดในระยะเวลาสั้นมาก (เช่น 10 วินาที ถึงไม่กี่นาที)

  3. ปิดออเดอร์อย่างรวดเร็วด้วยกำไรเล็กน้อย (หรือขาดทุนน้อยที่สุด)

  4. ทำซ้ำกระบวนการนี้หลาย ๆ ครั้งในหนึ่งวัน

  5. ผลกำไรในระยะยาวขึ้นอยู่กับการรักษาอัตราการชนะที่สูง การจัดการความเสี่ยง และต้นทุนธุรกรรมที่น้อยที่สุด


การเทรดแบบ Scalping จะได้ผลดีที่สุดในตลาดที่:

  • มีสภาพคล่องสูง

  • มีความผันผวนมาก

  • ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นต่


ตลาดที่เทรดเดอร์ส Scalping เน้นทำกำไร

ตลาด เหตุผลที่เหมาะสม
Forex สเปรดแคบ สภาพคล่องสูง
ดัชนี (เช่น S&P 500, NASDAQ) ความผันผวนดี การเคลื่อนไหวที่สม่ำเสมอ
หุ้น (เช่น หุ้นเทคโนโลยี) ปริมาณและรูปแบบภายในวัน
สัญญาฟิวเจอร์ เลเวอเรจและการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็ว


เครื่องมือที่เทรดเดอร์ใช้สำหรับ Scalping

เครื่องมือ คำอธิบาย ความสำคัญ
โบรกเกอร์ที่มีความล่าช้าต่ำ โบรกเกอร์ที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายรวดเร็ว สเปรดแคบ และลื่นไหลน้อย

ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญในการสแค็ปปิง

ความล่าช้าอาจทำให้ขาดทุนได้

เข้าถึงตลาดโดยตรง (DMA) ให้การเข้าถึงข้อมูลคำสั่งซื้อขายและสภาพคล่องของสถาบันโดยตรง

ช่วยให้สแค็ปเปอร์ได้ราคาที่ดีกว่าและ

การส่งคำสั่งที่เร็วกว่า

ปุ่มลัดและการซื้อขายแบบ

คลิกเดียว

ปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดสำหรับสั่งซื้อขายทันที ลดเวลาล่าช้าเมื่อต้องเปิดหรือปิดการเทรด
ปฏิทินเศรษฐกิจ อัปเดตข่าวสารและรายงานที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดแบบเรียลไทม์ สแค็ปเปอร์มักหลีกเลี่ยงการเทรดช่วงข่าวสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงลื่นไถล

หน้าจอหลายจอหรือพื้นที่

ทำงานบนมือถือ

ช่วยให้ดูกราฟและสินทรัพย์หลายตัวพร้อมกัน

ช่วยให้ทำงานหลายอย่างพร้อมกันและ

ตัดสินใจได้รวดเร็ว

โครงสร้างค่าธรรมเนียมต่ำ โบรกเกอร์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นหรือมีสเปรดต่ำ สแค็ปเปอร์ทำการเทรดบ่อย ค่าธรรมเนียมต่ำช่วยเพิ่มกำไร
สมุดคำสั่งซื้อขาย แสดงระดับราคาซื้อขายและปริมาณจากผู้เข้าร่วมตลาด

ช่วยตรวจจับการไหลของคำสั่งและ

โซนสภาพคล่อง

กราฟ Tick หรือ Renko กราฟที่สร้างจากจำนวนการเทรดหรือการเคลื่อนไหวของราคา ไม่ใช่เวลา ช่วยกรองเสียงรบกวนและแสดงโมเมนตัมได้ดีกว่ากราฟรายนาที


กลยุทธ์การเทรด Scalping ที่ดีที่สุดเพื่อผลกำไรอย่างรวดเร็ว

Scalping Trading Strategies

1. EMA Crossover Scalping

  • ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลเร็วและช้า (เช่น 5 EMA และ 20 EMA)

  • สัญญาณซื้อเกิดขึ้นเมื่อเส้น EMA ที่เร็วตัดขึ้นเหนือเส้น EMA ที่ช้า

  • วิธีนี้นิยมใช้ในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน (Trending markets


2. กลยุทธ์ VWAP Bounce

  • เทรดโดยรอราคาย่อตัวลงมาที่เส้นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักด้วยปริมาณซื้อขาย (VWAP)

  • เข้าซื้อเมื่อราคาย่อลงมาแตะ VWAP และมีสัญญาณกลับตัว

  • กลยุทธ์นี้มักใช้โดยนักสแค็ปเปอร์สถาบัน (Institutional scalpers


3. การบีบแถบ Bollinger

  • กลยุทธ์นี้เน้นช่วงที่ความผันผวนต่ำ (Low-volatility) ตามด้วยการเบรกเอาต์ (Breakout)

  • ทำการเทรดเมื่อราคาทะลุผ่านช่วงแคบของแถบโบลิงเจอร์ (Band) ที่บีบตัวแล้วขยายออก

  • เหมาะสำหรับการจับจังหวะการระเบิดของความผันผวนอย่างรวดเร็


4. แนวรับและแนวต้าน

  • ระบุจุดแนวรับและแนวต้านในระยะสั้น

  • เข้าทำการซื้อขายเมื่อราคาทดสอบและตีกลับจากระดับนั้น โดยมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) ยืนยัน

  • เหมาะสำหรับตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ หรือเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ (Sideways market


5. การเก็งกำไรโมเมนตัมแบบสุ่ม

  • เทรดเดอร์ใช้ตัวชี้วัด Stochastic Oscillator เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อขายในโซนที่ซื้อเกิน (overbought) และขายเกิน (oversold)

  • ผสมผสานกับรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (เช่น pin bars หรือ engulfing candles)

  • เหมาะสำหรับการเล่นสวนกับการเคลื่อนไหวที่เหนื่อยล้าระยะสั้น


6. การเคลื่อนไหวราคาแบบเก็งกำไร

  • เน้นการเคลื่อนไหวของราคาดิบๆ โดยไม่ใช้ตัวชี้วัดใดๆ

  • มองหารูปแบบกราฟ เช่น micro double tops/bottoms, flags หรือ wicks

  • ต้องใช้ประสบการณ์สูง แต่ช่วยลดปัญหาการหน่วงของตัวชี้วัด (indicator lag)


7. Order Flow/Depth of Market (DOM) Scalping

  • ติดตามคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่และโซนสภาพคล่องโดยใช้ข้อมูล Level 2 หรือสมุดคำสั่ง (order book)

  • เทรดตามหรือสวนกับผู้เล่นรายใหญ่ ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์การไหลของคำสั่ง

  • เป็นเทคนิคขั้นสูง แต่ทรงพลังมากเมื่อมีข้อมูลที่ถูกต้อง

ตัวอย่างจริง

สมมติว่าคุณกำลังทำ scalping คู่สกุลเงิน EUR/USD บนกราฟ 1 นาที


  1. คุณสังเกตเห็นค่า RSI ที่ 25 และราคาติดอยู่ที่เส้นล่างของ Bollinger Band

  2. คุณซื้อที่ราคา 1.0750 โดยตั้งเป้ากำไรไว้ที่ 1.0755 และตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 1.0747

  3. ราคาเด้งกลับและแตะเป้าหมายของคุณภายใน 1 นาที

  4. คุณปิดการซื้อขายด้วยกำไร 5 จุด ขณะที่เสี่ยงขาดทุน 3 จุด (อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุน 1.66:1


ถ้าทำซ้ำวิธีนี้วันละ 20 ครั้ง โดยมีอัตราชนะ 80% — คุณก็จะเป็น scalper ที่มีกำไรได้


ข้อดีและข้อเสียของ Scalping

ด้าน ข้อดี ข้อเสีย
ความเร็วของผลกำไร ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว—สร้างกำไรได้ภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่วินาที การสูญเสียก็สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
การเปิดรับความเสี่ยงในตลาด เปิดรับความเสี่ยงข้ามคืนได้น้อยมาก ต้องจ้องหน้าจอตลอดเวลา
ความถี่ในการเทรด มีโอกาสเทรดหลายครั้งต่อวัน อาจนำไปสู่ภาวะหมดไฟหรือการซื้อขายมากเกินไป
สภาวะตลาด ทำงานได้ดีในตลาดทุกประเภท (ตามแนวโน้มหรือตามช่วงเวลา) สินทรัพย์ทั้งหมดไม่เหมาะสม (สภาพคล่องต่ำ = การดำเนินการไม่ดี)
ความต้องการเงินทุน สามารถเริ่มต้นในระดับเล็กด้วยการใช้ประโยชน์ กำไรเพียงเล็กน้อยต้องควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด
ความเสี่ยงต่อการเทรด ความเสี่ยงที่ควบคุมได้เล็กน้อยต่อตำแหน่ง ความเสี่ยงสะสมสูงขึ้นหากไม่มีวินัย
ระยะเวลาการเรียนรู้ การเชี่ยวชาญการทำ Scalping จะทำให้คุณกลายเป็นนักเทรดที่เฉียบแหลม การเรียนรู้ที่ยากสำหรับผู้เริ่มต้น
การพึ่งพาเทคโนโลยี แพลตฟอร์มและเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมช่วยเพิ่มความแม่นยำ หากไม่มีเครื่องมือความเร็วสูง กลยุทธ์ก็จะประสบปัญหา
การควบคุมอารมณ์ สอนการตัดสินใจอย่างรวดเร็วภายใต้ความกดดัน เหนื่อยล้าทางอารมณ์ โดยเฉพาะหลังจากการสูญเสีย
การขยายขนาด นำไปประยุกต์ใช้กับเครื่องมือหลายชนิดได้อย่างง่ายดาย การขยายขนาดเป็นเรื่องยากเมื่อมีเงินทุนจำนวนมาก (การลื่นไถล)


การเทรดแบบ Scalping เหมาะกับคุณหรือไม่?


Scalping เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่ชอบความเร็วและความตื่นเต้นในการเทรด

  • คนที่มีเวลาติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด

  • เทรดเดอร์ที่มีทักษะด้านเทคนิคและมีวินัยในการเทรด

  • ผู้ที่เข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรดที่รวดเร็วและทันสมั


ไม่เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่ไม่สามารถรับความเครียดได้

  • คนที่ต้องการกลยุทธ์แบบถือลงทุนระยะยาวหรือแบบพาสซีฟ

  • นักลงทุนที่มีค่าธรรมเนียมการเทรดสู


บทสรุป


สรุปแล้ว Scalping Trade คือวิธีการเทรดระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน การปฏิบัติอย่างมีวินัย และการควบคุมอารมณ์อย่างเข้มงวด ไม่ใช่การหาเงินแบบรวดเร็วโดยง่าย แต่เป็นเทคนิคระดับมืออาชีพที่ต้องใช้การเตรียมตัวและการฝึกฝนอย่างจริงจัง


ถ้าคุณกำลังมองหากำไรเร็ว และมีเวลาและวินัยในการฝึกฝนกลยุทธ์ความถี่สูง สแคปปิงอาจเป็นสไตล์การเทรดที่เหมาะกับคุณในปี 2025


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20