กลยุทธ์ Trend Following คืออะไร? เจาะลึก 7 กลยุทธ์

2025-04-29
สรุป

กลยุทธ์ Trend Following คือการติดตามแนวโน้มตลาดเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และการ Breakout

กลยุทธ์แบบ Trend Following ถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่ผ่านการพิสูจน์มาอย่างยาวนานในโลกของการเทรด แทนที่จะพยายามทำนายจุดสูงสุดหรือต่ำสุดของตลาด กลยุทธ์เหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การติดตามแรงโมเมนตัมของแนวโน้มที่เกิดขึ้นแล้ว


นักเทรดที่ใช้แนวคิดแบบ Trend Following จะพยายามสร้างผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นในช่วงขาขึ้นหรือขาลงของตลาด


ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 7 กลยุทธ์ Trend Following ที่ได้รับความนิยม วิธีการทำงานของแต่ละกลยุทธ์ รวมถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนำไปใช้


จัดอันดับกลยุทธ์ Trend Following ที่ดีที่สุด

จัดอันดับกลยุทธ์ Trend Following ที่ดีที่สุด - EBC

1. กลยุทธ์ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบตัดกัน (Moving Average Crossover Strategy)

หนึ่งในกลยุทธ์ Trend Following ที่พบได้บ่อยที่สุดคือ การใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น โดยทั่วไปจะเป็นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและระยะยาว สัญญาณซื้อหรือขายจะเกิดขึ้นเมื่อค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดขึ้นหรือลงผ่านค่าเฉลี่ยระยะยาว ตัวอย่างเช่น เมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันตัดขึ้นเหนือค่าเฉลี่ย 200 วันอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น


กลยุทธ์นี้ได้รับความนิยมเนื่องจากสามารถลดความผันผวนของราคาและให้จุดเข้าออกที่ชัดเจน


2. การเทรดแบบ Breakout (Breakout Trading)

กลยุทธ์ Breakout มุ่งเน้นการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ทะลุผ่านระดับแนวรับหรือแนวต้านที่กำหนด เมื่อราคาผ่านแนวต้านขึ้นไป มักจะเป็นสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น ในทำนองเดียวกัน หากราคาทะลุผ่านแนวรับลงไป อาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง


นักเทรดที่ประสบความสำเร็จในการ Breakout มักจะรอการยืนยัน เช่น ปริมาณการซื้อขายที่สูง เพื่อหลีกเลี่ยงการ Breakout ปลอม วิธีนี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง


3. การเทรดตามการเคลื่อนไหวของราคา (Price Action Trend Riding)

กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาทั้งหมดโดยไม่พึ่งพาอินดิเคเตอร์ นักเทรดจะมองหาจุดที่ราคาใหม่สูงขึ้นและต่ำลงในแนวโน้มขาขึ้น หรือจุดที่ราคาใหม่ต่ำลงและสูงขึ้นในแนวโน้มขาลง รูปแบบต่าง ๆ เช่น Flags, Pennants และเส้นแนวโน้ม (Trendlines) จะถูกใช้เพื่อระบุจุดเข้าออก


การเทรดตามการเคลื่อนไหวของราคา (Price Action) ต้องการทักษะการอ่านกราฟที่แข็งแกร่ง แต่สามารถให้มุมมองที่บริสุทธิ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของตลาด ทำให้กลยุทธ์นี้เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่เทรดแบบตามแนวโน้ม


4. กลยุทธ์ Donchian Channel (Donchian Channel Strategy)

Donchian Channel ติดตามราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่เลือกไว้ โดยการ Breakout ขึ้นเหนือช่องบนสุดจะเป็นสัญญาณซื้อ (long) ในขณะที่การ Breakout ลงใต้ช่องล่างสุดจะเป็นสัญญาณขาย (short) กลยุทธ์นี้ช่วยให้นักเทรดเข้าสู่การเทรดเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่มีทิศทางชัดเจนในตลาด


การเทรดแบบกลยุทธ์นี้ได้รับความนิยมในกลุ่มนักเทรดฟิวเจอร์และสินค้าโภคภัณฑ์


5. การยืนยันด้วยดัชนี RSI

แม้ว่าดัชนี RSI มักจะถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการกลับตัวของราคา (mean-reversion) แต่ก็สามารถใช้ยืนยันแนวโน้มได้ ในกลยุทธ์ Trend Following นักเทรดใช้ RSI เพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ตัวอย่างเช่น ในแนวโน้มขาขึ้น การที่ค่า RSI อยู่เหนือ 50 แสดงถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่ยังคงมีอยู่


การผสมผสาน RSI กับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ สามารถเพิ่มความแม่นยำและลดสัญญาณที่ผิดพลาดได้


6. การตั้ง Stop Loss โดยใช้ Average True Range (ATR) Trailing Stops

การบริหารความเสี่ยงเป็นปัจจัยสำคัญในกลยุทธ์ Trend Following และ ATR trailing stop ถือเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมจากนักเทรดมืออาชีพ เนื่องจาก ATR วัดระดับความผันผวนของราคา ซึ่งช่วยให้สามารถตั้งจุด Stop Loss ที่ปรับตัวตามสภาวะตลาด


การใช้ Stop Loss ที่อิงตาม ATR ช่วยให้นักเทรดสามารถคงตำแหน่งในแนวโน้มได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น โดยลดโอกาสที่จะออกจากการเทรดเร็วเกินไปจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง


7. การตามแนวโน้มด้วยการผสมผสานอินดิเคเตอร์ (Trend Following with Indicators Combo)

นักเทรดหลายคนใช้การผสมผสานของอินดิเคเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มเพื่อให้ได้รับการยืนยันที่แข็งแกร่งมากขึ้น การผสมผสานที่ใช้กันทั่วไปอาจประกอบด้วย MACD (Moving Average Convergence Divergence), ADX (Average Directional Index), และ Bollinger Bands เมื่อเครื่องมือทั้งสามตัวนี้เข้ากัน จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในความแข็งแกร่งและทิศทางของแนวโน้ม


การผสมผสานเหล่านี้ช่วยลดเสียงรบกวนและกรองแนวโน้มที่ผิดพลาด ทำให้เหมาะสำหรับนักเทรดที่มองหาความสม่ำเสมอในการเทรด


ทำไมกลยุทธ์ Trend Following ถึงได้ผล?

แนวคิดหลักของกลยุทธ์ Trend Following มีรากฐานมาจากหลักการที่ว่าตลาดมักเคลื่อนไหวในทิศทางที่ยั่งยืนเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย กำไร หรือข่าวเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาด เมื่อแนวโน้มเกิดขึ้นและนักเทรดรอจังหวะที่เหมาะสมแล้วเข้าไปเทรดอย่างมีระเบียบวินัย ก็สามารถเก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่มีขนาดใหญ่ได้


กลยุทธ์นี้ต้องใช้ความอดทน นักเทรดที่ตามแนวโน้มมักยอมรับการขาดทุนเล็กน้อย เพื่อแลกกับโอกาสที่อาจจะทำกำไรจากการเทรดที่ให้ผลตอบแทนสูง ถึงแม้ไม่ทุกรูปแบบของแนวโน้มจะยั่งยืน แต่บางแนวโน้มที่ยาวนานสามารถทำกำไรได้มากกว่าการขาดทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้น


ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

แม้ว่ากลยุทธ์ Trend Following จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อผิดพลาดที่นักเทรดบางคนอาจทำโดยไม่รู้ตัว ซึ่งข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อผลลัพธ์การเทรดได้:

  • การเข้าเทรดเร็วเกินไป: การกระโดดเข้าเทรดก่อนที่แนวโน้มจะได้รับการยืนยันมักจะทำให้พลาดจากการกลับทิศทางของราคา และอาจเสียโอกาสในการทำกำไร

  • การบริหารความเสี่ยงที่ไม่เพียงพอ: หากไม่มีการตั้ง Stop Loss ที่เหมาะสม แม้แต่แนวโน้มที่แข็งแกร่งก็อาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างหนักได้

  • การพึ่งพาอินดิเคเตอร์มากเกินไป: อินดิเคเตอร์เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ ไม่ใช่การรับประกันความสำเร็จ ควรใช้การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาควบคู่ไปด้วยเสมอ

  • การบังคับเทรดในทุกสถานการณ์: ไม่ทุกรูปแบบของตลาดที่จะเหมาะสมกับการเทรดตามแนวโน้ม ควรหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวแคบหรือแกว่งตัวมากเกินไป


สรุป

หากคุณกำลังมองหากลยุทธ์การเทรดที่มีความชัดเจนและไม่ต้องคาดเดาทิศทางตลาด กลยุทธ์ Trend Following อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพราะมันสามารถช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงและผลตอบแทนได้ดี และยังสามารถใช้ได้กับสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Forex หุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์


อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ต้องการความมีวินัยทางอารมณ์ เพราะการเทรดทุกครั้งไม่ได้หมายความว่าจะได้กำไรทุกครั้ง บางครั้งก็ต้องยอมรับการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสำคัญ การรักษาความสม่ำเสมอและเชื่อมั่นในวิธีการที่ใช้ คือกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาว


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20