จับจุดปัจจัยดันกราฟ XAUUSD จ่อแตะ $3,400

2025-04-22
สรุป

ทองคำจ่อ $3,400! จับตาปัจจัยดันกราฟ XAUUSD สงครามการค้า, ดอลลาร์อ่อน, เทคนิคและเป้าหมาย พร้อมกลยุทธ์เทรด

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กราฟ XAUUSD หรือกราฟราคาทองคำต่อน้ำหนักทองคำ 1 ออนซ์ (XAU) ต่อดอลลาร์สหรัฐ (USD) แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จนสร้างสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ $3,319.60 จากปัจจัยความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (safe‑haven demand)


ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า บทความนี้จะเจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคที่ผลักดันราคา ทิศทางและจุดเป้าหมายถัดไป พร้อมการวิเคราะห์แนวโน้มระยะกลางถึงยาว เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์และนักลงทุนสามารถวางกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจ


ภาพรวมราคาทองคำและสถานการณ์ปัจจุบัน

เมื่อวันที่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวแตะระดับ $3,319.60 ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแรงซื้อหลักมาจากความวิตกเรื่องสงครามการค้าระลอกใหม่ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และท่าทีของรัฐบาลสหรัฐที่สั่งสอบสวนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสำคัญ (critical minerals) จากจีน ส่งผลให้เกิดการย้ายพอร์ตไปถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง (safe‑haven) อย่างรวดเร็ว ตัดสัญญาณเทคนิคของช่วงต้นสัปดาห์ที่เคยเป็นขาลงไปอย่างสิ้นเชิง พร้อมยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง

กราฟ XAUUSD timeframe 2 ชั่วโมง - EBC

ลักษณะโดยรวม:

-แนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน: โดยรวมแล้ว ราคาทองคำแสดงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งในช่วงเวลาที่แสดงในกราฟ จะเห็นว่ามีจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ยกตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

-การเคลื่อนไหวของราคา: ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2700 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายเดือนมกราคม และปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับสูงสุดที่เห็นในกราฟ ซึ่งสูงกว่า 3350 ดอลลาร์สหรัฐ

-แท่งเทียน: แท่งเทียนส่วนใหญ่เป็นสีเขียว ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งในแต่ละวันที่มีการปรับตัวขึ้น แท่งเทียนสีแดงแสดงถึงวันที่ราคาปรับตัวลง


เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages):

-SMA (50): เส้นสีน้ำเงินแสดงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับไดนามิก โดยราคามักจะเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้นนี้ และเมื่อราคาปรับตัวลงมาใกล้เส้นนี้ มักจะมีการดีดตัวขึ้น

-SMA (200): เส้นสีแดงแสดงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งเป็นแนวรับระยะยาวที่สำคัญ และยังคงอยู่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันอย่างมาก ซึ่งเน้นย้ำถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว

-SMA (10): เส้นสีเขียวอ่อนแสดงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วัน ซึ่งอยู่ใกล้กับราคาปัจจุบันมากที่สุด และแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ยังคงแข็งแกร่ง


จุดสำคัญที่สังเกตได้:

-การทะลุแนวต้าน: มีการทะลุแนวต้านสำคัญหลายครั้งในช่วงขาขึ้นนี้ ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

-การปรับฐาน: แม้จะมีแนวโน้มขาขึ้น แต่ก็มีการปรับฐานราคาลงมาเป็นระยะๆ (แท่งเทียนสีแดง) แต่การปรับฐานเหล่านี้มักจะไม่รุนแรงนักและราคาจะกลับไปเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นต่อ

-การเร่งตัวขึ้นในช่วงล่าสุด: ในช่วงท้ายของกราฟ จะเห็นว่าราคามีการปรับตัวขึ้นอย่างรวดแรงและชัน ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความร้อนแรงของการซื้อมากเกินไปในระยะสั้น

กราฟ XAUUSD - EBC

จากกราฟ XAUUSD ในกรอบรายชั่วโมงของสัปดาห์นี้ (21 เมษายน 2025) ลักษณะปัจจุบัน

-ราคาทองคำซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,390 ดอลลาร์สหรัฐฯ

-ราคามีการ ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากแนวรับของช่องราคา ใกล้ระดับ 3,316 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อที่ระดับนี้

-โครงสร้างขาขึ้น ยังคงแข็งแกร่ง

-เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) 50 วัน ที่ระดับ 3,286 ดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังทำหน้าที่เป็นแนวรับ

-ราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่ใน ช่องราคาขาขึ้นที่กว้างขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ต่อเนื่อง


แนวโน้มขาขึ้นที่เป็นไปได้:

-ด้วย โมเมนตัมที่ฟื้นตัวขึ้น ระดับแนวต้านที่ต้องจับตาดูในระยะสั้นคือ 3,404 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 3,425 ดอลลาร์สหรัฐฯ

-การ ทะลุเหนือเส้นแนวโน้มด้านบน ของช่องราคาขาขึ้น อาจเร่งให้ราคาสูงขึ้นต่อไป โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 3,448 ดอลลาร์สหรัฐฯ


แนวโน้มขาลงที่เป็นไปได้:

-แนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ระดับ 3,368 ดอลลาร์สหรัฐฯ

-แนวรับสำคัญที่ต้องจับตาดูคือ 3,346 ดอลลาร์สหรัฐฯ และบริเวณจุดต่ำสุดล่าสุดใกล้ 3,316 ดอลลาร์สหรัฐฯ


ภาพรวม:

-ผู้ซื้อยังคงควบคุมตลาดอยู่ในขณะนี้

-การเคลื่อนไหวของราคาใกล้เข้าสู่ จุดเปลี่ยนที่สำคัญ บริเวณแนวต้าน 3,404 ดอลลาร์สหรัฐฯ

-การ ทะลุเหนือระดับ 3,404 ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างชัดเจน พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่ง อาจยืนยันการต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น

-หากไม่สามารถทะลุเหนือระดับ 3,404 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ อาจนำไปสู่ การพักตัวในระยะสั้น ของราคา


โดยสรุป บทวิเคราะห์บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นสำหรับราคาทองคำ โดยระดับ 3,404 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นจุดที่สำคัญสำหรับการเคลื่อนไหวขึ้นต่อไป หากแนวต้านนี้ยังคงอยู่ เราอาจเห็นการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบแคบๆ ก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญครั้งต่อไป


ปัจจัยหนุนจากสงครามการค้าและภาษีนำเข้า

ปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองขึ้นคือ ประเด็นสงครามภาษีและการค้า โดยประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศตรวจสอบมาตรการภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่ม critical minerals ทั้งหมด นอกจากนี้ยังต้องจับตาประเด็นที่จีนเป็นผู้ผลิตสำคัญในตลาดนี้ ขณะเดียวกันเพิ่งประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นถึง 24% เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ภาพรวมความสัมพันธ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู่ค้าสำคัญทวีความตึงเครียด นักลงทุนจึงมองทองคำเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ จุดนี้จึงเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เกิดการรีบซื้อทองคำในช่วงติดลบของตลาดหุ้น ในฐานะ Safe‑Haven Demand


อิทธิพลของค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า

นอกเหนือจากความเสี่ยงการค้า ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ยังคงปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าคือปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำจัดราคาเป็นดอลลาร์ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้ทองคำถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ เพิ่มแรงซื้อจากนอกตลาดสหรัฐฯ ทั้งนี้ FXTM’s Lukman Otunuga ระบุว่า “ทองคำยังได้รับการสนับสนุนอย่างหนักจากความอ่อนแอของดอลลาร์ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง” ซึ่งสอดคล้องกับการไหลเข้า (inflow) ของเงินทุนในทองคำอย่างต่อเนื่อง


แนวรับแนวต้านสำคัญทางเทคนิค

จากกราฟ XAUUSD ปัจจุบัน แนวรับสำคัญอยู่ที่ $3,137.91 ซึ่งเป็นระดับ pivot ใหม่ หลังจากที่ราคายืนเหนือจุดนี้ได้ จะช่วยค้ำแรงซื้อให้ดำเนินต่อไป ส่วนแนวต้านระยะสั้นถัดไปคือ $3,400 ซึ่งเป็นเป้าหมายแรก หากพิจารณาจากช่องแนวโน้ม (ascending channel) บนกราฟรายวัน พบว่าราคามีท่าทีจะทดสอบแนวต้านบริเวณ upper boundary ของช่อง หากผ่านขึ้นไปได้ จะยิ่งตอกย้ำเทรนด์ขาขึ้นและเปิดทางสู่เป้าหมายถัดไปที่ $3,500


วิเคราะห์กรอบแนวโน้มระยะกลางถึงยาว

ในมุมมองเทคนิคอลระยะยาว หากดูบนกราฟแบบ LOG scale ตั้งแต่ปี 1993 จะเห็นกรอบช่องขาขึ้น (ascending parallel channel) ที่ถูกทดสอบมาแล้ว 5 ครั้ง และกำลังรอการทดสอบครั้งที่ 6 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ภายในกรอบ channel นี้ มีการคาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจเร่งขึ้นแตะ $7,000 ในปี 2027 หากทิศทางเทรนด์ขาขึ้นยังไม่ถูกทำลาย


มุมมอง Elliott Wave และความเสี่ยงการปรับฐาน

จากทฤษฎี Elliott Wave เราอยู่ในคลื่นที่ 3 ซึ่งมักเป็นคลื่นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่หลังจากจบคลื่น 3 แล้ว จะเกิดคลื่นปรับฐาน (wave 4) ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวลง 20–30% จากจุดสูงสุด ก่อนจะเริ่มคลื่น 5 ขาขึ้นในระยะยาว ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวน และใช้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง stop‑loss หรือการลดขนาดพอร์ตในช่วงที่ราคาทองคำมีอาการรีเทสต์


กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม

-เน้นเปิด Long ตามเทรนด์หลัก: เนื่องจากแนวโน้มทองคำยังคงเป็นขาขึ้น การเทรดฝั่ง Long จะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากกว่าการสวนเทรนด์ด้วยการเปิด Short ซึ่งควรหลีกเลี่ยงในช่วงนี้

-เทรดในกรอบแนวโน้มขาขึ้น: รอให้ราคาย่อลงใกล้ระดับแนวรับสำคัญบริเวณ $3,137 หรือบริเวณแนวล่างของกรอบ ascending channel เพื่อหาจุดเข้าออเดอร์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

-ยืนยันสัญญาณก่อนเข้าซื้อ: ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น RSI, MACD หรือ Fibonacci Retracement เพื่อช่วยยืนยันการกลับตัวของราคา และเพิ่มความแม่นยำในการเข้าเทรด

-จัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุม: วางจุดหยุดขาดทุน (stop-loss) ไว้ต่ำกว่าระดับ pivot หรือแนวรับที่สำคัญ พร้อมทั้งคำนวณขนาดล็อตให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้


ปัจจัยเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ต้องจับตา

ตัวเลขผลสำรวจเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า retail sales เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.4% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ 1.2% แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังไม่สามารถกลบความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าได้ นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี (10-year yield) แม้จะขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 4.341% หลังจากตัวเลข retail sales แข็งแกร่ง แต่โดยรวมยังคงได้รับแรงกดดันจากการขายพันธบัตรเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน (mean reversion) หลังจากที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุม FOMC และการแถลงนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในอนาคตจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดทองคำมีความผันผวนสูงขึ้นอย่างมาก


คำแนะนำสำหรับนักลงทุน

-ติดตามข่าวสาร: สถานการณ์สงครามการค้าและการปรับท่าทีของธนาคารกลางเป็นปัจจัยสำคัญ

-ปรับพอร์ตให้ยืดหยุ่น: จัดสรรสัดส่วนทองคำในพอร์ตให้เหมาะสม ไม่มากเกินไปจนรับความผันผวนไม่ไหว

-ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง: เช่น ออปชันหรือฟิวเจอร์สทองคำ เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินคาด


สรุปแล้วกราฟ XAUUSD นับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศนโยบายภาษี แสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดการเงิน ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน เนื่องจากราคาทองคำทะยานสูงขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดที่ 3,319.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการเพิ่มขึ้นของราคานี้มีสาเหตุหลักจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงความอ่อนแอของดอลลาร์สหรัฐฯ


ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดการเงิน ขณะที่การคาดการณ์ในอนาคตสำหรับกราฟ XAUUSD ยังคงมองไปที่ระดับเป้าหมายใหม่ที่ 3,400 และ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับที่นักลงทุนคาดหวังว่าราคาทองคำจะสามารถทะลุผ่านไปได้หากสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศไม่เกิดการผ่อนคลาย


กราฟ XAUUSD ยังแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งในตลาดทองคำ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ทองคำสามารถสร้างผลกำไรได้สูง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดการเงินเผชิญกับความไม่แน่นอนและความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก


ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่สูงขึ้นยังได้รับผลกระทบจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และการคาดการณ์ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนที่ติดตามกราฟ XAUUSD ควรระวังความผันผวนของราคาทองคำที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้น ขณะที่ภาพรวมของตลาดทองคำยังคงบ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20