Slippage คืออะไ? นักเทรดต้องรู้ ไขความลับเบื้องหลังราคาซื้อขายที่ไม่ตรงใจ พร้อมวิธีลดผลกระทบและความเสี่ยงในการเทรดอย่างมืออาชีพ
ในช่วงที่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวนอยู่ โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่ดัชนีสำคัญ ๆ เช่น Dow Jones, S&P 500 และ NASDAQ มีการปรับตัวลงมา ทำให้เทรดเดอร์หลายท่านเจอกับสถานการณ์ที่ราคาซื้อขายจริงไม่ตรงกับราคาที่ตั้งใจไว้ จนแผนการลงทุนหรือกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ไม่เป็นไปตามแผนได้ ซึ่งสิ่งนี้ในโลกของการเทรดเราเรียกว่า Slippage
วันนี้ EBC Financial Group จึงขอเจาะลึกข้อมูลว่า Slippage คืออะไร เกิดได้ยังไง มีกี่ประเภท พร้อมปัจจัยที่อาจทำให้เกิด Slippage ขึ้นว่ามีอะไรบ้าง
Slippage คือ ความแตกต่างระหว่างราคาที่เทรดเดอร์คาดหวังในการซื้อขาย (ราคาที่ตั้งไว้ในคำสั่ง) กับราคาที่ได้รับการซื้อขายได้จริงในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง ปริมาณการซื้อขายเบาบาง หรือเมื่อมีคำสั่งซื้อขายจำนวนมากเข้ามาพร้อมกัน โดยเกิดจากกลไกการทำงานของตลาดที่ไม่สามารถจับคู่คำสั่งซื้อขายได้ในราคาที่เราต้องการ เพราะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาที่รวดเร็วเกินไป
ดังนั้นเมื่อเทรดเดอร์ส่งคำสั่งซื้อหรือขาย ระบบจะพยายามหาผู้ที่เสนอราคาตรงกันข้ามที่ดีที่สุดในตอนนั้น แต่ถ้ามีคำสั่งอื่นที่เข้ามาในตลาดก่อนหน้า หรือตลาดมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาที่ยิงออเดอร์ไปแล้วอาจเปลี่ยนแปลงได้ จึงส่งผลให้คำสั่งของเราถูกจับคู่ที่ราคาอื่นที่ไม่ใช่ราคาที่เราไม่ได้ตั้งใจเลือก
1. Slippage เป็นบวก (Positive Slippage): กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อราคาที่คุณได้รับจากการซื้อขายจริงดีกว่าราคาที่คุณตั้งใจไว้ เช่น คุณตั้งซื้อที่ราคา 100 บาท แต่คำสั่งถูกจับคู่ที่ราคา 99.50 บาท
2. Slippage เป็นลบ (Negative Slippage): ในเคสนี้จะเกิดขึ้นเมื่อราคาที่เราได้รับจากการซื้อขายจริงแย่กว่าราคาที่ตั้งใจไว้ เช่น คุณตั้งซื้อที่ราคา 100 บาท แต่คำสั่งถูกจับคู่ที่ราคา 100.50 บาท หรือคุณตั้งขายที่ราคา 50 บาท แต่คำสั่งถูกจับคู่ที่ราคา 49.50 บาท
ความผันผวนของตลาด (Market Volatility): ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้โอกาสเกิด Slippage มีมากขึ้น
ปริมาณการซื้อขาย (Liquidity): หากตลาดมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง อาจมีผู้เสนอซื้อหรือขายในราคาที่คุณต้องการไม่เพียงพอ ทำให้คำสั่งถูกจับคู่ที่ราคาอื่น
ความเร็วในการส่งคำสั่ง (Order Execution Speed): ความเร็วในการส่งและประมวลผลคำสั่งมีผลต่อโอกาสในการได้รับราคาที่คุณต้องการ หากระบบการซื้อขายช้า ราคาอาจเปลี่ยนแปลงไปก่อนที่คำสั่งของคุณจะถูกดำเนินการ
ขนาดของคำสั่ง (Order Size): คำสั่งที่มีขนาดใหญ่อาจต้องใช้เวลานานในการจับคู่ และอาจส่งผลให้เกิด Slippage ได้มากขึ้น
ประเภทของคำสั่ง (Order Type): คำสั่งแบบ Market Order มีโอกาสเกิด Slippage สูงกว่า Limit Order เนื่องจากระบบจะดำเนินการซื้อขายที่ราคาที่ดีที่สุดในตลาดขณะนั้น โดยไม่จำกัดราคา
คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใด ๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใด ๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ
เจาะลึก 5 อินดิเคเตอร์ เทรดทองpvfVb9 เครื่องมือสำคัญช่วยจับจังหวะซื้อขายทองคำ วิธีใช้และข้อควรระวังสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และมือโปร
2025-07-14การประชุมเฟดครั้งต่อไปคือเมื่อไหร่? สำรวจปฏิทินปี 2025 ฉบับเต็ม และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น
2025-07-14ออมเงินที่ไหนดีที่สุด? เปรียบเทียบชัด พันธบัตรรัฐบาล E-saving ฝากประจำ ข้อดีข้อเสียครบ จบในที่เดียว! เลือกช่องทางออมเงินให้ตอบโจทย์เป้าหมายการเทรด-ลงทุน
2025-07-14