ประเภทของเงินที่นักเทรดควรรู้จัก

2025-05-26
สรุป

เรียนรู้ประเภทของเงินที่สำคัญซึ่งนักเทรดควรรู้ ตั้งแต่เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง เงินสินค้า ไปจนถึงเงินธนาคารและเงินตัวแทน พร้อมประวัติโดยสังเขป

เงิน คือรากฐานของการซื้อขาย การลงทุน และตลาดการเงินทุกประเภท สำหรับนักเทรด การเข้าใจประเภทของเงินแต่ละรูปแบบ และวิวัฒนาการของเงินแต่ละประเภท ถือเป็นสิ่งสำคัญในการก้าวสู่ตลาดโลกอย่างมั่นใจ


ตั้งแต่ระบบแลกเปลี่ยนสินค้าในยุคแรกเริ่ม จนถึงสกุลเงินสมัยใหม่ที่เราใช้กันในปัจจุบัน เงินได้แปรเปลี่ยนไปในหลายรูปแบบ บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยประวัติศาสตร์โดยสังเขป พร้อมแนะนำประเภทของเงินที่นักเทรดทุกคนควรรู้จักอย่างกระชับ และใช้งานได้จริง

ประวัติโดยสังเขปของเงิน

ประวัติศาสตร์ของเงิน

เงินมีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี ย้อนกลับไปในยุคที่มนุษย์ยังใช้ระบบแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter) เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของและบริการกันโดยตรง แต่เมื่อสังคมขยายตัวและการค้าขายมีความซับซ้อนมากขึ้น ระบบดังกล่าวก็เริ่มไม่ตอบโจทย์ ความต้องการจึงเกิดขึ้นสำหรับ "สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน" ที่เป็นมาตรฐาน ใช้ง่าย และยอมรับกันอย่างแพร่หลาย


จากจุดนี้เอง เงินในรูปแบบแรกเริ่มจึงถือกำเนิดขึ้น — ที่เรียกว่า “เงินสินค้า (Commodity Money)” เช่น ปศุสัตว์ ธัญพืช และโลหะมีค่าต่าง ๆ อย่างทองคำและเงิน สิ่งเหล่านี้มีมูลค่าในตัวเองและได้รับความเชื่อถือในการนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยน ราว 1,200 ปีก่อนคริสตกาล ผู้คนในบางพื้นที่ของเอเชียและแอฟริกาใช้เปลือกหอยคาวรี (Cowrie Shells) เป็นเงินตรา และในเวลาต่อมาประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล เหรียญโลหะก็เริ่มปรากฏในจีนและบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรงใช้งานสะดวกและพกพาได้ง่าย


หลังจากนั้นแนวคิดของ“เงินตัวแทน (Representative Money)” ก็เริ่มขึ้น ซึ่งเป็นเงินกระดาษหรือโทเคนที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นทองคำหรือเงินตามอัตราที่กำหนด ประเทศจีนเป็นชาติแรกที่นำเงินกระดาษมาใช้ในช่วงราชวงศ์ซ่ง (ศตวรรษที่ 11) ต่อมาในศตวรรษที่ 13 มาร์โคโปโลได้เขียนถึงการใช้เงินกระดาษในยุคราชวงศ์หยวน การแพร่หลายของธนบัตรและตั๋วแลกเงินในยุโรปก็มีส่วนช่วยให้การทำธุรกรรมขนาดใหญ่เป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น


กระทั่งเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 หลายประเทศเริ่มนำระบบมาตรฐานทองคำ (Gold Standard) มาใช้ โดยผูกมูลค่าของเงินตราไว้กับปริมาณทองคำที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป โลกก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ “เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง (Fiat Money)” ซึ่งมีมูลค่าอยู่บนพื้นฐานของคำประกาศจากรัฐบาลและความเชื่อมั่นของประชาชน ไม่ได้มีทองคำหรือทรัพย์สินจริง ๆ หนุนหลังอีกต่อไป


ทุกวันนี้ เงินส่วนใหญ่ของเราไม่ได้อยู่ในรูปธนบัตรหรือเหรียญอีกแล้ว แต่เป็นเพียงตัวเลขในระบบธนาคารหรือบนหน้าจอดิจิทัล แม้รูปร่างของเงินจะเปลี่ยนไปมาก แต่หลักคิดเบื้องหลังในเรื่องคุณค่า ความเชื่อถือ และการยอมรับ ยังคงสืบทอดมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานเช่นเดิม


ประเภทของเงินที่นักเทรดควรรู้จัก

ประเภทของเงิน

1. เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง (Fiat Money)


เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง คือรูปแบบของเงินตราที่ใช้กันในเกือบทุกประเทศในปัจจุบัน  เงินประเภทนี้ไม่มีมูลค่าในตัวเอง และไม่ได้มีสินทรัพย์จริงค้ำประกัน มูลค่าของเงินประเภทนี้ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของรัฐบาล และความเชื่อมั่นของประชาชนผู้ใช้งาน


คุณสมบัติหลัก:


  • ออกโดยธนาคารกลางหรือรัฐบาล

  • มูลค่าขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและคำสั่งทางกฎหมาย

  • อุปทานถูกควบคุมโดยนโยบายการเงิน


ตัวอย่าง:

ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์อังกฤษ (GBP), เยนญี่ปุ่น (JPY)


2. เงินสินค้า (Commodity Money)

เงินสินค้า คือเงินที่มีมูลค่าในตัวเอง หมายความว่าสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน และยังสามารถใช้ในทางอื่นได้ด้วย โดยในอดีตนิยมใช้โลหะมีค่า เช่น ทองคำ และเงิน


คุณสมบัติหลัก:


  • มูลค่าขึ้นอยู่กับตัวสินค้าเอง

  • อุปทานที่จำกัด ซึ่งช่วยรักษามูลค่า

  • มักใช้เป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน


ตัวอย่าง:

เหรียญทอง แท่งเงิน หรือแม้แต่แม้กระทั่งเกลือหรือปศุสัตว์ในเศรษฐกิจสมัยโบราณ


3. เงินตัวแทน (Representative Money)


เงินตัวแทนคือเงินที่เป็นใบแสดงสิทธิ์ในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ เช่น ทองคำหรือเงิน ที่ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย เงินประเภทนี้ไม่มีมูลค่าในตัวเอง แต่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าจริงได้


คุณสมบัติหลัก:


  • มีสินทรัพย์จริงค้ำประกันอยู่เบื้องหลัง

  • ช่วยให้การทำธุรกรรมขนาดใหญ่สะดวกขึ้น

  • ต้องอาศัยความไว้วางใจจากผู้ออกหลักทรัพย์


ตัวอย่าง:

ใบรับรองทองคำ ธนบัตรเก่าที่แลกเปลี่ยนได้กับโลหะมีค่า หรือ “ใบรับรองเงิน” ของสหรัฐฯ ในยุคแรก ๆ


4. เงินที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อถือ (Fiduciary Money)

เงินที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อถือ (Fiduciary Money)

เงินประเภทนี้ไม่ได้มีสินทรัพย์ใด ๆ รองรับ แต่มูลค่าของเงินเกิดจากความเชื่อมั่นว่าผู้ออกจะรับผิดชอบตามที่สัญญาไว้ มักใช้ในรูปแบบตราสารต่าง ๆ เช่น เช็คหรือตั๋วแลกเงิน


คุณสมบัติหลัก:


  • มูลค่าขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้ออกหลักทรัพย์และระบบ

  • ใช้สำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่หรือไม่ใช่เงินสด

  • ไม่ใช่เงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง


ตัวอย่าง:

เช็ค ตั๋วแลกเงินจากธนาคาร ตราสารสัญญาชำระเงิน (Promissory Notes)


5. เงินของธนาคารพาณิชย์ (Commercial Bank Money)


เงินของธนาคารพาณิชย์ คือเงินที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อหรือเครดิตโดยธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ที่ใช้ในระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน และมักอยู่ในรูปแบบดิจิทัลในบัญชีธนาคาร


คุณสมบัติหลัก:


  • เกิดจากการปล่อยกู้หรือออกเครดิตของธนาคาร

  • ส่วนใหญ่มีอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

  • ใช้สำหรับการชำระเงิน โอน และชำระบัญชี


ตัวอย่าง:

ยอดเงินคงเหลือในบัญชีกระแสรายวันหรือออมทรัพย์ การโอนเงินผ่านธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์


สรุป


การเข้าใจวิวัฒนาการและประเภทของเงิน ช่วยให้นักเทรดมองเห็นภาพใหญ่ของระบบการเงินได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลไกการถ่ายโอนมูลค่าเหตุผลที่สกุลเงินผันผวน หรือบทบาทของธนาคารกลางที่มีอิทธิพลต่อทิศทางของตลาด เงินตราที่ไม่มีมูลค่าในตัวเองที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันขึ้นอยู่กับนโยบายและความเชื่อมั่นของผู้คน จึงมีความเปราะบางต่อข่าวสารและเหตุการณ์เศรษฐกิจ ขณะที่ทองคำและเงินประเภทสินค้าอื่น ๆ มักทำหน้าที่เป็นที่พักเงินหรือเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน เงินตัวแทนและเงินที่อิงกับความเชื่อมั่น เช่น เช็คหรือธนบัตรในอดีต ชี้ให้เห็นว่าความไว้วางใจและสภาพคล่องคือสิ่งสำคัญในการทำธุรกรรม ส่วนเงินฝากและเครดิตที่เกิดจากธนาคารพาณิชย์ ก็เป็นรากฐานสำคัญของการซื้อขายในโลกยุคดิจิทัล


สำหรับนักเทรดแล้ว ความรู้เหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องทฤษฎี แต่คือเครื่องมือที่ใช้ได้จริงในการอ่านความเคลื่อนไหวของตลาด วางแผนกลยุทธ์ และบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20