ราคาทองคำจะลดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหรือไม่? ผู้เชี่ยวชาญชี้

ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 ราคาทองคำแสดงให้เห็นถึงความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่จะประสบกับภาวะปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด

สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ทำให้ผู้ลงทุนต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อทิศทางของทองคำ และประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในโลหะมีค่า

ดังนั้น บทความนี้จะเจาะลึกถึงสถานะปัจจุบันของตลาดทองคำ สำรวจข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ ปัจจัยที่มีอิทธิพลสำคัญ และแนวโน้มในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น

ความเคลื่อนไหวราคาทองคำล่าสุด

ทองคำเริ่มต้นปี 2568 ด้วยโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง ขับเคลื่อนโดยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความต้องการของธนาคารกลางที่แข็งแกร่ง

1) มกราคม: เติบโตอย่างมั่นคงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

• ความเคลื่อนไหวของราคา: ราคาทองคำอยู่ที่ประมาณ 2,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 31.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี

2) กุมภาพันธ์: พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

• ความเคลื่อนไหวของราคา: ราคาทองคำพุ่งขึ้น 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน แตะที่ 2,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบเป็นรายปี

3) มีนาคม : ผันผวนเล็กน้อย

• ความเคลื่อนไหวของราคา: ราคาทองคำมีความผันผวนเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 1.45% ในสัปดาห์แรก จาก 2,868.07 ดอลลาร์ เป็น 2,909.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์

4) เมษายน : จุดสูงสุดของโมเมนตัมขาขึ้น

• การเคลื่อนไหวของราคา: ราคาทองคำยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพุ่งแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

5) พ.ค. : แก้ไข

• การเคลื่อนไหวของราคา: เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ราคาได้ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 3,211.53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นการปรับฐานที่สำคัญ การลดลงนี้เกิดจากความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลงและการเทขายทำกำไรของนักลงทุน

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำในปี 2568

1. การซื้อของธนาคารกลาง

ธนาคารกลาง โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ เช่น จีน อินเดีย และตุรกี เป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ โดยพยายามกระจายสำรองและป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความต้องการที่ต่อเนื่องนี้ช่วยหนุนราคาทองคำให้แข็งแกร่ง

2. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ความขัดแย้งในปัจจุบัน รวมทั้งความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลาง ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความวิตกกังวลมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำมากขึ้น ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์เหล่านี้ยังคงส่งผลกระทบต่อความน่าดึงดูดของทองคำ

3. ตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ

ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และความตึงเครียดด้านการค้าที่ผ่อนคลายลง ส่งผลให้ความจำเป็นในการลงทุนที่ปลอดภัยลดน้อยลง ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงในระยะสั้น

อัตราทองคำจะลดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหรือไม่?

แม้ว่าแนวโน้มในระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น แต่การปรับตัวในระยะสั้นก็เป็นไปได้เนื่องจาก:

• ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น : ตัวบ่งชี้เชิงบวก เช่น รายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง สามารถลดความต้องการทองคำได้

• การพัฒนาการค้า : การผ่อนปรนความตึงเครียดและมาตรการลดภาษีศุลกากรอาจทำให้ผู้ลงทุนหันเหความสนใจจากทองคำออกไป

• ปัจจัยทางเทคนิค : นักวิเคราะห์สังเกตว่าราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเมื่อเร็วๆ นี้ อาจนำไปสู่การขายทำกำไรและช่วงการรวมตัว

การพยากรณ์ของผู้เชี่ยวชาญ

• โกลด์แมนแซคส์ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะแตะระดับ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้ โดยอาจแตะระดับสูงสุด 4,500 ดอลลาร์ในกรณีเสี่ยงสูง

• JP Morgan คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในกลางปี 2569 โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและภาวะเงินเฟ้อที่ต่อเนื่อง

ในขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนยังคงมองในแง่ดีต่อทองคำ นักวิเคราะห์รายอื่นๆ เตือนถึงการลดลงที่อาจเกิดขึ้น:

• มุมมองของ Morningstar : นักวิเคราะห์ Jon Mills คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจลดลง 38% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยอ้างถึงอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมการทำเหมือง และความต้องการที่อาจลดลง

• มุมมองของ Standard Chartered : นักวิเคราะห์ Suki Cooper เตือนถึงความเสี่ยงจากตลาดกายภาพที่อ่อนแอลงและการซื้อของธนาคารกลางที่ชะลอตัว ซึ่งอาจทำให้ความน่าสนใจของทองคำลดน้อยลง

• ซิตี้ คาดหวังราคาทองคำจะไปถึงระดับ 3,000 ดอลลาร์ในอีกหกเดือนข้างหน้า เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์และความเสี่ยงของการลงทุนทองคำตอนนี้

ประโยชน์:

• การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ : โดยทั่วไปแล้ว ทองคำจะถูกมองว่าเป็นเครื่องป้องกันเงินเฟ้อ และช่วยรักษาอำนาจซื้อไว้ในระยะยาว

• การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ : การนำทองคำเข้ามาลงทุนสามารถลดความผันผวนของพอร์ตโฟลิโอโดยรวมได้เนื่องจากมีความสัมพันธ์ต่ำกับประเภทสินทรัพย์อื่น

• สินทรัพย์ที่ปลอดภัย : ในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหรือภูมิรัฐศาสตร์ มูลค่าของทองคำมักจะคงที่หรือเพิ่มขึ้น

ความเสี่ยง:

• ความผันผวนของราคา : ความผันผวนล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหวของทองคำต่อการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็ว

• ต้นทุนโอกาส : ทองคำไม่ได้ให้ดอกเบี้ยหรือเงินปันผล ซึ่งอาจทำให้มีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับการลงทุนอื่นๆ ในช่วงเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ

• การเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของตลาด : การเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกของนักลงทุนที่ได้รับอิทธิพลจากข้อมูลเศรษฐกิจหรือการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์อาจนำไปสู่ความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างรวดเร็ว

บทสรุป

โดยสรุปแล้ว ประสิทธิภาพของทองคำในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 สะท้อนถึงบทบาทของทองคำในฐานะผู้รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก แม้ว่าทองคำจะแตะระดับสูงสุดที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่การปรับตัวลดลงในเวลาต่อมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเน้นย้ำถึงความสำคัญของการติดตามพลวัตของตลาด

นักลงทุนควรยังคงเฝ้าระวัง โดยพิจารณาตัวชี้วัดมหภาคและการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์เมื่อประเมินทองคำเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุน

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ