แผนภูมิจุดและตัวเลข: 10 ข้อมูลเชิงลึกที่คุณควรรู้

2025-04-30
สรุป

กราฟแบบจุดและตัวเลขช่วยให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนในตลาดที่ผันผวน นี่คือข้อมูลเชิงลึก 10 ประการที่ผู้ซื้อขายควรทราบก่อนใช้รูปแบบการสร้างกราฟที่ทรงพลังนี้

ในโลกที่เต็มไปด้วยตัวบ่งชี้ที่มีสัญญาณรบกวนและแผนภูมิซ้อนที่ซับซ้อน แผนภูมิจุดและตัวเลขช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากแผนภูมิตามระยะเวลาทั่วไป แผนภูมิเหล่านี้มุ่งเน้นเฉพาะการเคลื่อนไหวของราคาเท่านั้น โดยตัดสัญญาณรบกวนจากตลาดออกไป และช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถตัดสินใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


แม้ว่าแผนภูมิเหล่านี้จะไม่เป็นที่นิยมเท่าแผนภูมิแท่งเทียนหรือกราฟแท่ง แต่ก็ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ให้คุณค่ากับความแม่นยำ โครงสร้าง และสัญญาณที่อิงตามรูปแบบ


อะไรทำให้แผนภูมิจุดและตัวเลขโดดเด่น และทำไมเทรดเดอร์ยุคใหม่จึงควรใส่ใจกับแผนภูมิเหล่านี้มากขึ้น นี่คือข้อมูลเชิงลึกสำคัญ 10 ประการที่สามารถเปลี่ยนมุมมองของคุณต่อการเคลื่อนไหวของราคาและการวิเคราะห์แนวโน้มได้


10 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับแผนภูมิจุดและตัวเลข

What are Point and Figure Charts - EBC

1. แผนภูมิจุดและตัวเลขไม่คำนึงถึงเวลาเลย


กราฟเส้นและแท่งเทียนไม่แสดงเวลาบนแกนแนวนอน ซึ่งหมายความว่าหากตลาดเคลื่อนไหวในแนวราบ กราฟจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีการบันทึกการเปลี่ยนแปลงราคาที่สำคัญเท่านั้น โครงสร้างนี้ทำให้กราฟเหมาะสำหรับการกรองความลังเลใจและเน้นที่การเคลื่อนไหวของราคาที่มีความหมาย


2. สร้างขึ้นบน Xs และ OS


แผนภูมิจุดและตัวเลขใช้สัญลักษณ์ง่ายๆ — Xs สำหรับราคาที่เพิ่มขึ้นและ Os สำหรับราคาที่ลดลง แต่ละคอลัมน์แสดงถึงทิศทาง การกลับตัวจะเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวในปริมาณหนึ่งไปในทิศทางตรงข้าม ซึ่งทำให้แผนภูมิดูเข้าใจง่ายและเหมาะสำหรับการระบุแนวโน้ม


3. ขนาดกล่องและการกลับด้านที่ปรับแต่งได้


คุณลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของแผนภูมิจุดและตัวเลขคือ คุณสามารถกำหนดขนาดกล่อง (การเคลื่อนไหวของราคาขั้นต่ำ) และขนาดการกลับตัว (ราคาต้องเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามเท่าใดจึงจะเริ่มคอลัมน์ใหม่ได้) ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ผู้ซื้อขายปรับแต่งแผนภูมิให้เหมาะกับกรอบเวลาหรือประเภทสินทรัพย์ต่างๆ ได้ ตั้งแต่หุ้นที่มีความผันผวนไปจนถึงสกุลเงินที่มีการเคลื่อนไหวช้า


4. รูปแบบราคายังคงใช้ได้


การที่กราฟมีลักษณะแตกต่างกันไม่ได้หมายความว่ากราฟเหล่านั้นไม่คุ้นเคย กราฟแบบจุดและแบบตัวเลขยังคงใช้รูปแบบกราฟแบบดั้งเดิม เช่น จุดสูงสุดสองจุด จุดต่ำสุดสองจุด รูปสามเหลี่ยม และการทะลุแนวรับ ในความเป็นจริง เทรดเดอร์หลายคนพบว่ารูปแบบเหล่านี้ระบุได้ง่ายกว่าเนื่องจากรูปแบบกราฟที่ชัดเจนและไม่มีสัญญาณรบกวน


5. ยอดเยี่ยมสำหรับการกำหนดแนวรับและแนวต้าน


ระดับแนวรับและแนวต้านจะชัดเจนบนกราฟจุดและกราฟตัวเลข เนื่องจากกราฟจะเคลื่อนไหวเฉพาะเมื่อราคาเคลื่อนไหวเท่านั้น จึงทำให้สามารถระบุพื้นที่ที่มีการกลับตัวหรือเกิดการลังเลซ้ำๆ ได้ง่าย และมีแนวโน้มที่จะมีความสำคัญมากขึ้น


6. เหมาะสำหรับการซื้อขายในระยะยาว


เนื่องจากแผนภูมิกรองการเคลื่อนไหวเล็กน้อยและละเลยเวลาโดยสิ้นเชิง จึงมักมีประโยชน์มากกว่าสำหรับการซื้อขายในระยะยาว ผู้ซื้อขายแบบ Position และ Swing ให้ความสำคัญกับแผนภูมิเหล่านี้เป็นพิเศษในการกำหนดทิศทางของแนวโน้มและจุดเข้าที่มีความน่าจะเป็นสูงโดยไม่เสียสมาธิกับความผันผวนในระยะสั้น


7. ใช้กันอย่างแพร่หลายในการจัดการความเสี่ยง


การจัดวางแผนภูมิจุดและตัวเลขอย่างมีโครงสร้างทำให้สามารถกำหนดความเสี่ยงได้ง่าย เทรดเดอร์มักจะวางจุดหยุดขาดทุนไว้เลยจุดกลับตัวหรือระดับการทะลุแนวรับ ความสม่ำเสมอของวิธีการนี้ช่วยในการคำนวณอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน และช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะเข้าและออกอย่างมีวินัย


8. เผยให้เห็นสัญญาณการฝ่าวงล้อมที่ชัดเจน


การทะลุแนวรับบนกราฟจุดและกราฟตัวเลขนั้นชัดเจน ชัดเจน และมักเชื่อถือได้ เนื่องจากกราฟต้องการการเคลื่อนไหวที่สำคัญเพื่อเปลี่ยนทิศทาง การทะลุแนวรับจึงมีโอกาสเกิดสัญญาณหลอกที่เกิดจากสัญญาณรบกวนของตลาดน้อยลง นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ผู้ค้าสถาบันมักใช้กราฟจุดและกราฟตัวเลขเพื่อยืนยัน


9. ไม่ขึ้นอยู่กับช่วงการซื้อขาย


แผนภูมิแบบดั้งเดิมอาจได้รับผลกระทบจากเซสชันการซื้อขาย โดยมีช่องว่าง ไส้เทียน และการเปิดที่ผันผวนทำให้มุมมองไม่ชัดเจน ในทางกลับกัน แผนภูมิจุดและตัวเลขจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงราคาเท่านั้น ซึ่งทำให้แผนภูมิเหล่านี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์ตราสารที่มีการเคลื่อนไหวไม่สม่ำเสมอ เช่น น้ำมัน โลหะ หรือคู่สกุลเงินที่มีช่วงสภาพคล่องต่ำ


10. พวกเขาต้องการความอดทนและวินัย


แม้ว่าแผนภูมิจุดและตัวเลขจะทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับผู้ซื้อขายที่ชอบใช้กลยุทธ์ในการตัดสินใจ โครงสร้างของแผนภูมิช่วยส่งเสริมความอดทน การรอรูปแบบและสัญญาณที่ชัดเจนก่อนดำเนินการ วินัยในตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แผนภูมิเหล่านี้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ซื้อขายที่ประสบปัญหาในการซื้อขายมากเกินไปหรือการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์


ความคิดสุดท้าย


ในยุคที่ระบบ AI และอัลกอริทึมเข้ามามีบทบาท เหตุใดแผนภูมิที่เรียบง่ายอย่างแผนภูมิจุดและตัวเลขจึงยังมีคุณค่าอยู่ เนื่องจากความเรียบง่ายสามารถตัดความซับซ้อนออกไปได้ แผนภูมิเหล่านี้สามารถนำเสนอตลาดในรูปแบบดิบๆ ที่ไม่ผ่านการกรองได้ โดยขจัดเวลาและเสียงรบกวนออกไป


แผนภูมิเหล่านี้ให้ความคิดเห็นที่สองที่มีค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแผนภูมิอื่นๆ ดูไม่ชัดเจนหรือขัดแย้งกัน และสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความได้เปรียบในระยะยาวด้วยการตั้งค่าที่ชัดเจนกว่า แผนภูมิจุดและตัวเลขเป็นเครื่องมือเหนือกาลเวลาที่ได้รับการยอมรับในคลังอาวุธการซื้อขายสมัยใหม่


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20