อัตราดอกเบี้ยปี 2025 จะลดลงหรือไม่? การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ

2025-04-28
สรุป

อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2025 คาดว่าจะมีความเสถียรและการปรับลดอย่างระมัดระวัง โดยบางธนาคารกลางลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่บางแห่งรักษาอัตราดอกเบี้ยที่คงที่

ในปี 2025 เส้นทางของอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นประเด็นที่สำคัญสำหรับนักลงทุน เจ้าของบ้าน และผู้กำหนดนโยบาย การเปลี่ยนแปลงในตัวชี้วัดเศรษฐกิจ นโยบายของธนาคารกลาง และเหตุการณ์ทางการเมืองโลกทำให้เราสามารถมองเห็นทิศทางที่อาจจะเกิดขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต


คำถามที่หลายคนสงสัยคือ: อัตราดอกเบี้ยในปี 2025 จะลดลงหรือไม่? จากการคาดการณ์ของธนาคารกลางและนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ คำตอบคือมีแนวโน้มที่จะลดลง


ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ รวมแล้วอาจถึง 75 จุดฐาน ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของ Federal Funds อยู่ในช่วง 3.5% ถึง 4%


ภาพรวมเศรษฐกิจโลก

ภาพรวมเศรษฐกิจโลก 2025 – EBC

ในปี 2025 เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคระบาด และยังต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างเศรษฐกิจขนาดใหญ่สร้างความไม่แน่นอนที่มีผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายการเงินทั่วโลก


ในสหรัฐอเมริกา ความขัดแย้งทางการค้า โดยเฉพาะการใช้ภาษีศุลกากร ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว ความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของ Fed ในการรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทาย


ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังพยายามหาสมดุลระหว่างการควบคุมอัตราเงินเฟ้อและการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่การใช้แนวทางที่แตกต่างกันในการปรับอัตราดอกเบี้ย


ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

1. แนวโน้มเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อเป็นประเด็นหลักที่ Fed ให้ความสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลล่าสุดแสดงว่าแรงกดดันจากเงินเฟ้อเริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาจทำให้ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ ธนาคารกลางต้องหาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


2. การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจของสหรัฐฯ คาดว่าจะเติบโตช้าในปี 2025 โดยมีการคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตจะอยู่ระหว่าง 1.6% ถึง 1.9% การชะลอตัวของการเติบโตนี้ และผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ อาจทำให้ Fed ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ


3. สถานการณ์ตลาดแรงงาน

ตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แต่เริ่มมีสัญญาณอ่อนตัวลง เช่น การชะลอการสร้างงาน หรือการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงาน ซึ่งอาจทำให้ Fed ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจตกต่ำลงไปมากกว่านี้


อัตราดอกเบี้ยในปี 2025 จะลดลงหรือไม่? ข้อมูลจากแต่ละประเทศ

อัตราดอกเบี้ยจะลดลงในปี 2025 หรือไม่ – EBC

1. สหรัฐอเมริกา: แนวทางที่รอดูก่อน

Fed ยังคงดำเนินการด้วยความระมัดระวังท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจที่หลากหลาย แม้ว่าเงินเฟ้อจะเริ่มมีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของ Fed นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนในเรื่องการค้าระหว่างประเทศยังคงมีผลกระทบต่อการตัดสินใจ


ในด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย ซึ่งเชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยหลัก เริ่มมีแนวโน้มลดลง Fannie Mae คาดว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยแบบคงที่ 30 ปี จะเฉลี่ยอยู่ที่ 6.3% ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งเป็นการปรับลดจากการคาดการณ์ก่อนหน้า ขณะที่สมาคมธนาคารสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 6.5% ในปี 2025


2. สหราชอาณาจักร: แนวทางของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ

สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจจากภาษีศุลกากรใหม่ที่มีผลต่อการส่งออก ซึ่งทำให้การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจได้รับการปรับลดลง EY Item Club ปรับการคาดการณ์การเติบโตในปี 2025 ของสหราชอาณาจักรลงเหลือ 0.8% จากเดิมที่ 1% โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนในตลาดและการค้าระหว่างประเทศที่ถูกขัดขวาง


ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 4.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ BoE คาดว่าเงินเฟ้อจะยังคงสูงกว่า 3% ตลอดปี 2025 โดยคาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ5%


แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ การลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นทางเลือกที่ใช้ในการสร้างเสถียรภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างประเทศ


3. ยุโรป: การผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางการเติบโตที่ชะลอตัว

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับการคาดการณ์ใหม่ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะลดลงเหลือ 2.5% ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งเป็นการปรับลดจากการคาดการณ์เดิมที่ 2%


การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการประเมินอัตราดอกเบี้ยที่สมดุลในประเทศเศรษฐกิจพัฒนา โดยได้รับผลกระทบจากพลศาสตร์เศรษฐกิจหลังการระบาดของโรค


4. ออสเตรเลีย: คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการเติบโต

ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลง 0.25% ในเดือนพฤษภาคม 2025 การดำเนินการนี้มีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศและช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ


กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียในปี 2025 ลงจาก 2.1% เป็น 1.6% เนื่องจากผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าโลก


5. มาเลเซีย: ความเสถียรท่ามกลางความผันผวนในภูมิภาค

มาเลเซียถือเป็นกรณีศึกษาของความเสถียรทางการเงินในภูมิภาค ธนาคาร Negara Malaysia (BNM) ได้คงอัตราดอกเบี้ย Overnight Policy Rate (OPR) ไว้ที่ 3.00% ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจในพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนี้จะคงอยู่จนถึงปี 2025 หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ


ตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่สนับสนุนเสถียรภาพ

  • เงินเฟ้อ: ธนาคาร Negara Malaysia (BNM) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 2025 จะอยู่ในช่วง 2.0% ถึง 3.5% ซึ่งถือเป็นระดับที่สามารถจัดการได้และสอดคล้องกับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน

  • การเติบโตของ GDP: คาดว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะเติบโตที่ประมาณ 4.8% ในปี 2025 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนที่ยังคงมีความแข็งแกร่ง

  • เงินตรา: การคงอัตราดอกเบี้ย OPR ไว้จะช่วยสนับสนุนค่าเงินริงกิตของมาเลเซีย โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าเงินทั่วโลกมีความผันผวนจากผลกระทบของนโยบายการค้า


ผลกระทบต่อผู้กู้และนักลงทุน

การลดอัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบในหลายด้าน เช่น:

  • ต้นทุนการกู้ยืม: การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนในการกู้ยืมทั้งสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการใช้จ่ายมากขึ้น

  • ผลตอบแทนจากการออม: ผู้ที่ออมเงินอาจได้รับผลตอบแทนจากบัญชีที่มีดอกเบี้ยลดลง

  • กลยุทธ์การลงทุน: นักลงทุนอาจต้องปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจทำให้พวกเขาหันไปลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ มากขึ้น


สรุป

โดยรวมแล้ว ภาพรวมของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในปี 2025 จะเน้นไปที่ความเสถียรและการปรับลดอย่างระมัดระวัง แม้ว่าธนาคารกลางบางแห่ง เช่น ECB และ RBA จะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่บางแห่ง เช่น BNM ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยที่คงที่ ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจในความสามารถของเศรษฐกิจในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ


สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง การติดตามความเคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างใกล้ชิดถือเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการเงินและการตัดสินใจลงทุนอย่างมีวิจารณญาณ


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20