หุ้นเทียบกับพันธบัตร: คู่มือการลงทุนสำหรับผู้เริ่มต้น

2025-04-21
สรุป

สนใจเรื่องหุ้นกับพันธบัตรหรือไม่ เรียนรู้ความแตกต่างที่สำคัญ ประโยชน์ และความเสี่ยงของทั้งสองประเภทเพื่อเริ่มสร้างพอร์ตการลงทุนที่ชาญฉลาดและสมดุลยิ่งขึ้น

เมื่อเริ่มต้นลงทุน การถกเถียงเรื่องหุ้นกับพันธบัตรมักจะเป็นสิ่งแรกที่ผู้เริ่มต้นต้องตัดสินใจ เช่นเดียวกับการเลือกรถสปอร์ตสมรรถนะสูงกับรถครอบครัวที่ไว้ใจได้ แต่ละอย่างต่างก็มีเสน่ห์ ความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่างกัน


ในการตัดสินใจอย่างรอบรู้ เราจำเป็นต้องเข้าใจบทบาทของสินทรัพย์ทั้งสองประเภท และปฏิสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์เหล่านี้ภายในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย


หุ้นคืออะไร?

Stocks vs Bonds - EBC

หุ้นแสดงถึงความเป็นเจ้าของในบริษัท เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณก็ซื้อหุ้นในธุรกิจนั้นโดยพื้นฐานแล้ว ความเป็นเจ้าของนี้ทำให้คุณมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งกำไรของบริษัท และในบางกรณีก็มีสิทธิ์ออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น ผลตอบแทนจากหุ้นของคุณมาจากการเพิ่มขึ้นของทุนเมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้น และเงินปันผลซึ่งเป็นการชำระเงินปกติที่บริษัทบางแห่งออกให้กับผู้ถือหุ้น


อย่างไรก็ตาม หุ้นมีความผันผวน ราคาอาจผันผวนอย่างมากขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ ผลงานของบริษัท และความรู้สึกของนักลงทุน แม้ว่าจะทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ก็เปิดโอกาสให้ได้รับผลกำไรในระยะยาวที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ในอดีต หุ้นมักมีผลงานดีกว่าสินทรัพย์ประเภทหลักอื่นๆ เป็นเวลานาน ซึ่งทำให้หุ้นเหล่านี้มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นการเติบโต


พันธบัตรคืออะไร?


ในทางตรงกันข้าม พันธบัตรเป็นรูปแบบหนึ่งของการลงทุนในตราสารหนี้ เมื่อคุณซื้อพันธบัตร คุณกำลังให้รัฐบาล เทศบาล หรือบริษัทต่างๆ กู้ยืมเงิน โดยคุณจะได้รับดอกเบี้ยในระยะเวลาที่กำหนด และจะได้รับเงินชำระคืนเท่ากับมูลค่าที่ตราไว้เมื่อพันธบัตรครบกำหนด พันธบัตรมักมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้นและถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน


พันธบัตรมีจุดเด่นที่ความมั่นคงและรายได้ที่คาดการณ์ได้ นักลงทุนที่ต้องการรักษาเงินทุนหรือกระแสรายได้ที่คงที่มักหันมาซื้อพันธบัตร โดยเฉพาะพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลที่มีชื่อเสียงหรือบริษัทที่มีคุณภาพสูง


ทำความเข้าใจความแตกต่างที่สำคัญ


ความแตกต่างพื้นฐานระหว่างหุ้นกับพันธบัตรนั้นอยู่ที่การเป็นเจ้าของกับการให้กู้ยืม เมื่อคุณเป็นเจ้าของหุ้น คุณจะกลายเป็นเจ้าของบางส่วนของบริษัท เมื่อคุณลงทุนในพันธบัตร คุณจะกลายเป็นเจ้าหนี้ หุ้นมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่มีความเสี่ยงที่สูงกว่า พันธบัตรมักจะมีเสถียรภาพมากกว่า โดยให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าแต่คาดเดาได้มากกว่า


โดยทั่วไปแล้ว หุ้นเหมาะกับกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาวมากกว่า หุ้นจะมีประสิทธิภาพดีเมื่อเศรษฐกิจเติบโตและผลกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน พันธบัตรจะมีลักษณะเชิงรับมากกว่า โดยจะช่วยปกป้องพอร์ตโฟลิโอของคุณเมื่อตลาดตกต่ำหรือเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง


คุณควรเลือกหุ้นเมื่อใด?


นักลงทุนมักนิยมลงทุนในหุ้นเมื่อสามารถลงทุนได้ในระยะยาวและยอมรับความเสี่ยงได้สูง หุ้นสามารถเติบโตได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเต็มใจที่จะฝ่าฟันช่วงขาขึ้นและขาลงของตลาด หุ้นจะดึงดูดใจเป็นพิเศษในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูหรือตลาดกระทิงเมื่อรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น


นักลงทุนที่อายุน้อยหรือผู้ที่ออมเงินเพื่อเป้าหมายระยะยาว เช่น การเกษียณอายุ อาจชอบหุ้นมากกว่า เนื่องจากมีเวลาฟื้นตัวจากการสูญเสียในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมและภูมิศาสตร์ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสี่ยง


คุณควรเลือกพันธบัตรเมื่อใด?


พันธบัตรจะมีความน่าสนใจมากขึ้นเมื่อนักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงหรือสร้างรายได้ที่มั่นคง พันธบัตรมักได้รับความนิยมจากนักลงทุนที่มีอายุมากขึ้นหรือผู้ที่กำลังจะเกษียณอายุ เนื่องจากช่วยรักษาเงินทุนและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด


โดยทั่วไปแล้ว พันธบัตรรัฐบาลถือเป็นพันธบัตรที่ปลอดภัยที่สุด โดยเฉพาะพันธบัตรที่ออกโดยประเทศที่พัฒนาแล้ว พันธบัตรของบริษัทต่างๆ ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าแต่มีความเสี่ยงในระดับที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือทางเครดิตของผู้ออกพันธบัตร การเลือกพันธบัตรที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินและการยอมรับความเสี่ยงของคุณ


หุ้นเทียบกับพันธบัตรในพอร์ตโฟลิโอที่กระจายความเสี่ยง

Stocks vs Bonds in Portfolio - EBC

การลงทุนที่ชาญฉลาดวิธีหนึ่งคือการรวมหุ้นและพันธบัตรไว้ในพอร์ตการลงทุนของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน และลดผลกระทบจากการแกว่งตัวของตลาด หุ้นให้ศักยภาพในการเติบโต ในขณะที่พันธบัตรให้เสถียรภาพ


อัตราส่วนของหุ้นเทียบกับพันธบัตรในพอร์ตโฟลิโอของคุณควรสะท้อนถึงเป้าหมายทางการเงิน ช่วงเวลา และความสามารถในการรับความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น มืออาชีพรุ่นเยาว์อาจเลือกลงทุนในหุ้น 80 เปอร์เซ็นต์ และลงทุนในพันธบัตร 20 เปอร์เซ็นต์ ในทางกลับกัน ผู้เกษียณอายุอาจเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนเพื่อรักษาความมั่งคั่งและสร้างรายได้ที่มั่นคง


กลยุทธ์การจัดสรรสินทรัพย์มักเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เมื่อคุณเข้าใกล้ช่วงสำคัญในชีวิต การเปลี่ยนมาลงทุนในพันธบัตรมากขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงและปกป้องความมั่งคั่งที่คุณสะสมไว้ได้


จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างความผันผวนของตลาด?


ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน พันธบัตรมักจะให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้น นักลงทุนมักจะหลีกหนีไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า ทำให้ราคาพันธบัตรสูงขึ้นและผลตอบแทนลดลง ในทางกลับกัน ราคาหุ้นอาจลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับข่าวหรือความรู้สึกเชิงลบ


การเปลี่ยนแปลงนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ทั้งสองประเภท หุ้นอาจลดลงในระยะสั้น แต่บ่อยครั้งที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง พันธบัตรช่วยบรรเทาผลกระทบในช่วงขาลง ทำให้พอร์ตโฟลิโอโดยรวมของคุณมีเสถียรภาพมากขึ้น


ผลกระทบทางภาษีที่ต้องพิจารณา


การปฏิบัติทางภาษีแตกต่างกันไปตามหุ้นและพันธบัตร เงินปันผลจากหุ้นอาจถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับกฎภาษีของประเทศของคุณ ภาษีเงินได้จากกำไรทุนจะใช้เมื่อคุณขายหุ้นเพื่อแสวงหากำไร พันธบัตรยังมีผลกระทบทางภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณได้รับดอกเบี้ย พันธบัตรรัฐบาลบางประเภทอาจได้รับการยกเว้นภาษีบางประเภท ทำให้พันธบัตรเหล่านี้มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มีอัตราภาษีสูงกว่า


การทำความเข้าใจว่าการลงทุนของคุณถูกเก็บภาษีอย่างไรถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนทางการเงินโดยรวม อย่าลืมปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อปรับกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสม


บทสรุป


การถกเถียงระหว่างหุ้นกับพันธบัตรไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าโดยรวมแล้วอะไรดีกว่ากัน แต่เป็นเรื่องว่าอะไรดีกว่าสำหรับคุณมากกว่า การผสมผสานการลงทุนในอุดมคติของคุณขึ้นอยู่กับเป้าหมายส่วนตัว ความสบายใจต่อความเสี่ยง และระยะเวลาในการลงทุน


สำหรับคนส่วนใหญ่ การผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันถือเป็นแนวทางที่ชาญฉลาดที่สุด หุ้นช่วยให้เติบโตและสร้างโอกาสในการสร้างความมั่งคั่ง ในขณะที่พันธบัตรช่วยให้มีความสม่ำเสมอและลดผลกระทบจากความปั่นป่วนของตลาด การเรียนรู้วิธีการทำงานของแต่ละอย่างและปรับกลยุทธ์ตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป จะช่วยให้คุณสร้างพอร์ตโฟลิโอที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้นเพื่อรองรับคุณในทุกช่วงของชีวิต


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20