Fair Value Gap คืออะไร? วิธีระบุและเทรดอย่างมืออาชีพ

2025-04-18
สรุป

Fair Value Gap คือช่องว่างที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วโดยที่ตลาดยังไม่มีการตกลงราคาอย่างสมดุล ซึ่งสามารถเป็นโอกาสทำกำไรได้ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง ต้องระมัดระวังในการเข้าทำการเทรด

หากคุณกำลังศึกษาเรื่องการเทรด ไม่ว่าจะเป็นในตลาดหุ้นหรือตลาด forex คุณอาจเคยได้ยินคำว่า "Fair Value Gap (FVG)" มาแล้วบ้าง แม้ฟังดูซับซ้อนในตอนแรก แต่จริง ๆ แล้วแนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาโดยตรง Fair Value Gap เกิดขึ้นเมื่อราคาขยับขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วจนผู้ซื้อกับผู้ขายไม่มีโอกาสเจรจาต่อรองราคากันได้ทัน ทำให้เกิด "ช่องว่าง" ที่เห็นชัดบนกราฟ


แม้ว่าช่องว่างเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้ทำกำไรจากการเทรดได้ แต่ก็ต้องระวังความเสี่ยงที่ตามมาด้วย การเข้าใจว่ากลไกของ FVG ทำงานอย่างไร จึงสำคัญทั้งในแง่การหาโอกาสทำกำไร และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีสติ


Fair Value Gap (FVG) คืออะไร

โดยพื้นฐานแล้ว Fair Value Gap คือความคลาดเคลื่อนของราคาที่เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งมักเกิดจากข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญ หรือการเปลี่ยนแปลงของมุมมองในตลาด ช่องว่างนี้สะท้อนถึงระดับราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายยังไม่มีโอกาสตกลงราคากันได้อย่างสมดุล โดยบนกราฟราคาจะเห็นเป็นช่วงที่ไม่มีการซื้อขาย หรือมีการซื้อขายเกิดขึ้นน้อยมากระหว่างสองระดับราคา

Fair Value Gap (FVG)-EBC

ในสภาวะปกติ ราคาของสินทรัพย์จะเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีการปรับเปลี่ยนสถานะของผู้ซื้อและผู้ขายอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อราคาของสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากปัจจัยภายนอก เช่น ข่าวเศรษฐกิจ รายงานผลประกอบการ หรือเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ มักทำให้เกิดช่องว่างบนกราฟ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า Fair Value Gap


นักเทรดมักมองหาช่องว่างเหล่านี้เพื่อหาโอกาสในการเข้า-ออกจากตลาด โดยคาดหวังว่าราคาจะย้อนกลับมาปิดช่องว่าง หรือเคลื่อนไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้


ผลกระทบของ Fair Value Gap ต่อการกำหนดราคาและการเทรด

FVG สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อการกำหนดราคาของสินทรัพย์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เมื่อเกิดช่องว่างขึ้น นั่นสะท้อนว่ามีการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็วโดยที่ตลาดยังไม่ได้สร้างฉันทามติอย่างเพียงพอ ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น ช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญหรือเกิดความเปลี่ยนแปลงใหญ่ในตลาด


สำหรับนักเทรด ช่องว่างเหล่านี้ถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในด้านหนึ่ง FVG อาจบ่งชี้ว่าตลาดมีการตอบสนองเกินจริง จึงเปิดโอกาสให้เก็งกำไรจากการกลับตัวของราคาได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง FVG ก็สะท้อนถึงความเสี่ยง โดยเฉพาะหากราคายังคงเคลื่อนที่ไปในทิศทางของช่องว่างโดยไม่ย้อนกลับมาปิด ทำให้เกิดความผันผวนมากยิ่งขึ้น


เนื่องจาก FVG มักเกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์สำคัญ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ Day Trader และ Swing Trader ที่เน้นการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น นอกจากนี้ FVG ยังสามารถเป็นสัญญาณที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนระยะยาว ในการระบุจุดที่ราคามีแนวโน้มจะเกิดการปรับฐานได้เช่นกัน


การระบุ Fair Value Gap บนกราฟราคา

หลังจากที่เราเข้าใจแล้วว่า FVG คืออะไร และมีผลต่อราคาตลาดอย่างไร มาดูกันต่อว่ามีวิธีระบุ FVG อย่างไรบ้าง จริง ๆ แล้ว การหาช่องว่างนี้บนกราฟไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณใช้กราฟแท่งเทียนหรือกราฟแท่งราคา คุณจะเห็น FVG เป็นช่วงที่มี "ช่องว่าง" ระหว่างราคาปิดของแท่งหนึ่งกับราคาเปิดของแท่งถัดไปอย่างชัดเจน


ลองนึกภาพว่า ราคาหุ้นตัวหนึ่งพุ่งขึ้นถึง 10% ภายในวันเดียว โดยที่ไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้นระหว่างราคาปิดของวันก่อนหน้ากับราคาเปิดของวันถัดไป นั่นแหละคือลักษณะของ Fair Value Gap ซึ่งเกิดจากราคาขยับเร็วจนตลาดไม่ทันได้สร้างสมดุลอย่างเหมาะสม


อีกจุดที่ควรสังเกตคือ "ขนาดของช่องว่าง" ถ้า FVG มีขนาดเล็ก อาจหมายถึงการตอบสนองชั่วคราวของตลาด แต่หากช่องว่างมีขนาดใหญ่ ก็อาจสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มที่สำคัญ สำหรับมือใหม่ อาจต้องใช้เวลาในการฝึกสังเกต FVG แต่เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับเครื่องมือดูกราฟแล้ว การมองเห็น FVG ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก และช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย


กลยุทธ์การเทรดด้วย Fair Value Gap ที่นิยมใช้

หลังจากที่คุณสามารถระบุ FVG ได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเรียนรู้วิธีนำข้อมูลนี้มาใช้ในการวางกลยุทธ์การเทรด นักเทรดจำนวนมากมักผสานการใช้ FVG เข้ากับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ


หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยม คือการ "รอให้ราคากลับมาเติมเต็มช่องว่าง" เมื่อราคาเกิดการกระโดดขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว หลายคนคาดว่าตลาดจะย้อนกลับมาที่บริเวณช่องว่างในภายหลัง ซึ่งเรียกว่าปรากฏการณ์ "การเติมช่องว่าง (Gap Filling)" เพราะตลาดมีแนวโน้มต้องการปรับสมดุลใหม่ ตัวอย่างเช่น หากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนจะรอให้ราคาย่อลงมาทดสอบบริเวณช่องว่าง ก่อนตัดสินใจเทรดตามแนวโน้มถัดไป


อีกแนวทางหนึ่งคือ "เทรดตามทิศทางของช่องว่าง" กลยุทธ์นี้ตั้งอยู่บนแนวคิดที่ว่าหากช่องว่างเกิดขึ้นจากแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง เช่น ข่าวสำคัญหรือเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ตลาดมักมีแนวโน้มเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดิม นักเทรดที่เลือกวิธีนี้มักมองหาสัญญาณยืนยันเพิ่มเติมจากอินดิเคเตอร์อื่น เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนี RSI เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนเปิดสถานะ

Fair Value Gap ขาขึ้นและช่องว่างมูลค่าเหมาะสมขาลง-EBC คืออะไร แม้ว่าทั้งสองกลยุทธ์นี้จะได้รับความนิยม แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะตลาดไม่เคลื่อนตัวตามคาดเสมอไป บางครั้งช่องว่างก็ไม่ถูกเติมเต็ม โดยเฉพาะในช่วงที่มีแรงส่งจากข่าวหรือความผันผวนสูง การบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อนำ FVG มาใช้ในการเทรด


ความเสี่ยงและข้อดีของการเทรดด้วย Fair Value Gap

การเทรดด้วย FVG มีทั้งข้อดีและความเสี่ยง ข้อดีหลัก ๆ คือโอกาสทำกำไรสูง เพราะช่องว่างมักเกิดในช่วงที่ตลาดผันผวนอย่างแรง ทำให้ราคาขยับเร็ว หากคาดการณ์ได้ถูกต้อง การทำกำไรก็สามารถทำได้มาก


แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวัง เช่น ราคาที่ไม่ย้อนกลับมาเติมเต็มช่องว่าง แต่กลับวิ่งไปในทิศทางตรงข้าม ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ช่องว่างที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดผันผวนอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอกหรือราคาผันผวนรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ขาดประสบการณ์โดนหลอกได้


อีกสิ่งที่ต้องระวังคือการหาจังหวะเข้าและออกจากการเทรดให้เหมาะสม เพราะช่องว่างเกิดจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็ว การตัดสินใจเข้าเร็วเกินไปหรือล่าช้าไปก็อาจทำให้พลาดโอกาสหรือขาดทุนได้ ดังนั้น การมีแผนการเทรดที่ชัดเจนและการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ


สรุปแล้ว การเทรดด้วย FVG มีโอกาสที่ดี แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว สำหรับผู้เริ่มต้น ควรฝึกฝนการสังเกตช่องว่างและเรียนรู้กลยุทธ์ที่เหมาะสม พร้อมทั้งบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น FVG ก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20