Dead Cat Bounce คืออะไร? รูปแบบกราฟที่นักเทรดควรรู้

2025-04-17
สรุป

Dead Cat Bounce คือการฟื้นตัวชั่วคราวในตลาดขาลงที่อาจหลอกลวงนักลงทุนให้เข้าใจผิดว่าเป็นการกลับตัวของตลาดจริง การรู้จักรูปแบบนี้ช่วยให้นักเทรดตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและจัดการความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น

ในตลาดการเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นักเทรดมักพบกับรูปแบบกราฟที่บ่งบอกถึงแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคา หนึ่งในรูปแบบที่สำคัญและน่าสนใจคือ "Dead Cat Bounce" แม้ว่าจะมีชื่อที่ฟังดูรุนแรง แต่กลับมีความหมายสำคัญในกลยุทธ์การเทรด


ในความเป็นจริง รูปแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวชั่วคราวของราคาสินทรัพย์ที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง การเข้าใจรูปแบบนี้สามารถช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ทำความเข้าใจรูปแบบ Dead Cat Bounce

Dead Cat Bounce คืออะไร - EBC

Dead Cat Bounce คือการฟื้นตัวชั่วคราวของราคาสินทรัพย์ที่กำลังตกลง ซึ่งมักจะตามมาด้วยการดำเนินการของแนวโน้มขาลงที่ต่อเนื่อง คำว่า Dead Cat Bounce มาจากการเปรียบเทียบว่า "แม้แต่แมวที่ตายแล้วก็ยังเด้งขึ้นได้หากตกจากที่สูง" ซึ่งหมายความว่า การฟื้นตัวเล็กน้อยไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าแนวโน้มขาลงจะกลับตัว


รูปแบบนี้มักพบได้ในตลาดขาลง (Bear Market) ที่การฟื้นตัวระยะสั้นอาจทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดคิดว่าตลาดได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วแต่ไม่นานราคาก็จะลดลงอีกครั้ง


ที่มาของคำและบริบททางประวัติศาสตร์

คำว่า "Dead Cat Bounce" ได้รับความนิยมในวงการการเงินครั้งแรกในเดือนธันวาคม 1985 โดยผู้สื่อข่าว Chris Sherwell และ Wong Sulong จาก Financial Times ใช้คำนี้เพื่ออธิบายการฟื้นตัวชั่วคราวในตลาดหุ้นของสิงคโปร์และมาเลเซียในช่วงที่เกิดภาวะถดถอย แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวในระยะสั้นแต่ทั้งสองตลาดยังคงลดลงต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เห็นว่าการฟื้นตัวแบบนี้มักจะหลอกลวง


ตั้งแต่นั้นมา คำนี้ได้รับการใช้แพร่หลายเพื่อเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังไม่ให้เข้าใจผิดว่า การฟื้นตัวระยะสั้นเป็นสัญญาณของการกลับตัวของตลาด มันเตือนให้เรารู้ว่าไม่ทุกราคาที่ขึ้นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง โดยเฉพาะเมื่อไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุน


ลักษณะทางเทคนิคของรูปแบบ

จากมุมมองการวิเคราะห์ทางเทคนิค Dead Cat Bounce คือการลดลงของราคาที่รวดเร็ว ตามด้วยการฟื้นตัวชั่วคราว และจากนั้นจึงกลับไปสู่แนวโน้มขาลง รูปแบบนี้อาจเป็นเรื่องยากในการระบุในขณะเกิดเหตุการณ์จริง เนื่องจากการฟื้นตัวชั่วคราวอาจดูเหมือนการกลับตัวที่แท้จริง ลักษณะสำคัญของรูปแบบนี้ ได้แก่:

  • การลดลงของราคาอย่างมีนัยสำคัญจากข่าวลบหรือความรู้สึกในตลาดที่ไม่ดี

  • การฟื้นตัวในระยะสั้นที่มักเกิดจากการซื้อเพื่อปิดตำแหน่งสั้นหรือการล่าหาซื้อในราคาถูก

  • การกลับไปสู่แนวโน้มขาลงเมื่อแรงขายเริ่มกลับมา


การระบุลักษณะเหล่านี้ต้องอาศัยการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขายอย่างรอบคอบ


สาเหตุของการฟื้นตัว

การเกิด Dead Cat Bounce มักมีหลายปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวข้อง:

  • การปิดตำแหน่งสั้น (Short-covering) โดยนักเทรดที่เคยเดิมพันให้ราคาลง อาจทำให้ราคาขึ้นในระยะสั้นเมื่อพวกเขาปิดตำแหน่งที่เปิดไว้ ทำให้เกิดความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งผลักดันให้ราคาฟื้นตัวชั่วคราว

  • การซื้อที่คาดหวังจากนักลงทุนที่หวังจะซื้อในราคาที่ต่ำ และทำกำไรจากการฟื้นตัว แต่หากไม่มีการปรับปรุงพื้นฐาน ราคาที่ขึ้นอาจจะไม่ยั่งยืนและกลับลงไปอีก

  • ข่าวดีหรือข่าวลืออาจทำให้นักลงทุนรู้สึกดีขึ้น และเกิดการซื้อชั่วคราว ทำให้ราคาขึ้น แต่หากสาเหตุที่ทำให้ราคาตกครั้งแรกยังไม่ได้รับการแก้ไข สินทรัพย์นั้นก็จะยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อไป


ผลกระทบต่อนักเทรด

ลักษณะเด่นของ Dead Cat Bounce - EBC

การรู้จักและเข้าใจรูปแบบ Dead Cat Bounce ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรด เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าไปเปิดตำแหน่งจากสัญญาณที่อาจทำให้เข้าใจผิด การมองการฟื้นตัวชั่วคราวเป็นการกลับตัวของราคาแท้จริงอาจทำให้เกิดการขาดทุนอย่างรุนแรง ดังนั้น การยืนยันความยั่งยืนของการเพิ่มขึ้นของราคาโดยการวิเคราะห์อย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก่อนการตัดสินใจ


สำหรับนักเทรดระยะสั้น (Day traders) การเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดในช่วงที่เกิด Dead Cat Bounce อาจเป็นโอกาสทำกำไรจากความผันผวนของตลาด ด้วยการใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่รอบคอบ อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้ต้องการประสบการณ์และความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสภาวะตลาด


ในขณะเดียวกัน นักลงทุนระยะยาวควรระมัดระวังในช่วงที่เกิดรูปแบบนี้ แทนที่จะตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาชั่วคราว นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์และสภาวะของตลาดโดยรวม การกระจายการลงทุนและการมองไปในระยะยาวสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาที่เกิดขึ้นชั่วคราวได้


ตัวอย่างในสถานการณ์จริง

ในประวัติศาสตร์การเงินมีหลายครั้งที่เราสามารถเห็นปรากฏการณ์ Dead Cat Bounce ได้อย่างชัดเจน เช่น ในช่วง Dot-com Bubble ปี 2000 หุ้นเทคโนโลยีเคยฟื้นตัวชั่วคราวในระหว่างที่ราคากำลังตกอย่างต่อเนื่อง


เช่นเดียวกับในวิกฤตการเงินปี 2008 ตลาดก็เคยมีการดีดตัวขึ้นในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่จะกลับมาลดลงตามแนวโน้มขาลง ตัวอย่างเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นความสำคัญของการมองภาพรวมของสภาวะตลาด แทนที่จะตัดสินจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงแค่ในระยะสั้น


การแยกแยะระหว่าง Dead Cat Bounce และการกลับตัวของตลาด

การแยกแยะว่าเป็น Dead Cat Bounce หรือการกลับตัวของตลาดที่แท้จริงนั้นต้องพิจารณาหลายปัจจัยดังนี้:

  • ปริมาณการซื้อขาย: การกลับตัวของตลาดจริงมักจะมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น แสดงถึงความสนใจจากนักลงทุนที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ Dead Cat Bounce มักจะเกิดขึ้นเมื่อปริมาณการซื้อขายค่อนข้างต่ำ

  • ปัจจัยพื้นฐาน: หากสินทรัพย์มีการปรับปรุงในปัจจัยพื้นฐาน เช่น การเติบโตของกำไรหรือแนวโน้มที่ดีในอุตสาหกรรม จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวที่ยั่งยืน แต่หากไม่มีปัจจัยเหล่านี้ การฟื้นตัวอาจเป็นเพียงช่วงระยะสั้น

  • อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค: การทะลุผ่านระดับแนวต้านสำคัญและการยืนยันจากตัวชี้วัดโมเมนตัมสามารถแสดงถึงการกลับตัวที่แท้จริง หากไม่สามารถทะลุผ่านระดับเหล่านี้ได้ การฟื้นตัวอาจเป็นแค่การปรับตัวชั่วคราวเท่านั้น


สรุป

Dead Cat Bounce คือรูปแบบที่สำคัญสำหรับผู้เทรดในการเข้าใจถึงความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่หลอกลวงหลังจากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยการรู้จักลักษณะและสาเหตุของรูปแบบนี้ ผู้เทรดสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของตัวเอง


ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับความผันผวนในระยะสั้นหรือการรักษากลยุทธ์การลงทุนระยะยาว การตระหนักถึง Dead Cat Bounce จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและการจัดการความเสี่ยงได้มากยิ่งขึ้น


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เทรดทอง Gold Spot VS Gold Future ต่างกันยังไง? รู้ไว้ก่อนลงทุน!

เรียนรู้การเทรดทอง Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีเทรด ข้อแตกต่างกับ Gold Future ปัจจัยกระทบราคา และเทคนิคทำกำไรในตลาดขาขึ้น-ขาลง

2025-06-20
การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

การสิ้นสุดเส้นทแยงมุมเข้ากับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณอย่างไร?

เรียนรู้วิธีระบุรูปแบบแนวทแยงที่สิ้นสุด ทำความเข้าใจโครงสร้าง และค้นหาสัญญาณการกลับตัวที่สำคัญโดยใช้การวิเคราะห์คลื่นเอลเลียต

2025-06-20
ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง?

ข้อใดไม่ใช่ตัวอย่างของกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขาย เปิดเผยความเข้าใจผิดทั่วไปที่ทำให้เกิดการสูญเสียในการซื้อขาย

2025-06-20