เทรดหุ้น กับ เล่นหุ้น ต่างกันไหม? เทียบให้ชัดเจน

2025-03-31
สรุป

เทรดหุ้นกับเล่นหุ้นต่างกันไหม เทียบความต่างทั้งในแง่ระยะเวลาการถือหุ้น วิธีวิเคราะห์ ระดับความเสี่ยง พร้อมแนวทางเลือกสไตล์การลงทุนที่เหมาะกับคุณที่สุด

ในโลกของการซื้อขายหุ้น มีวิธีการสร้างผลกำไรที่หลากหลาย แต่โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก คือ การเทรดหุ้น (Trading) และ การลงทุนหุ้น (Investing) ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า เทรดหุ้น กับ เล่นหุ้น ต่างกันไหม แต่ในปัจจุบันทั้ง 2 วิธีนั้นแทบจะไม่มีความแตกต่างกันแล้วหากมองในแง่ผลลัพธ์ท้ายที่สุดคือการทำกำไร แต่อาจต่างกันในแง่วิธีการลงทุน


แรกเริ่มเดิมทีการลงทุนและการเทรดเป็นวิธีการที่แตกต่างกันแต่มีเป้าหมายเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาและ Mindset ในการทำกำไร โดยระยะเวลาก็หมายถึงระยะในการถือออเดอร์เพื่อกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนนั่นเอง


ส่วน Mindset จะเป็นตัวกำหนดลักษณะหรือพฤติกรรมการเทรดของท่าน ต้องลองพิจารณาดูว่าท่านตั้งเป้าที่จะทำกำไรอย่างรวดเร็วหรือต้องการถือออเดอร์ไว้นานขึ้นเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว บทความนี้ เราจะเน้นความแตกต่างที่สำคัญและหลักเกณฑ์ที่ทำให้การลงทุนแตกต่างจากการเทรดหุ้น และการเลือกแนวทางไหนที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

เล่นหุ้นผ่านโทรศัพท์ - EBC

เทรดหุ้น (Trading) คืออะไร?

การ เทรดหุ้น หมายถึง การซื้อขายหุ้นในระยะสั้นโดยมีเป้าหมายในการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยเทรดเดอร์มักจะใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค การติดตามข่าวสารการเงิน หรือการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดหุ้น เพื่อตัดสินใจในการซื้อและขายหุ้น


เทรดเดอร์จะมีการซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำและขายในราคาที่สูง โดยทำการซื้อขายหุ้นหลายครั้งในระยะเวลาสั้น บางคนอาจจะเทรดหุ้นในหนึ่งวัน (Day trading) หรืออาจจะเป็นการเทรดในช่วงระยะเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่ใช้


การ เทรดหุ้น เป็นการลงทุนที่เน้นไปที่การเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะสั้น เทรดเดอร์จะมุ่งหวังผลกำไรจากการซื้อขายหลายรอบ ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟหุ้น และข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อตลาด


เล่นหุ้น (Investing) คืออะไร?

การเล่นหุ้น หรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า "Investing" คือ การลงทุนในหุ้นโดยมุ่งหวังผลกำไรในระยะยาว นักลงทุนนั้นมักจะเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตในอนาคต เช่น หุ้นของบริษัทที่มีรายได้และกำไรมั่นคง หรือหุ้นที่มีแนวโน้มในการเติบโตในอนาคต เช่น บริษัทที่มีนวัตกรรมใหม่ หรือการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ


ผู้ที่เล่นหุ้นมักจะเลือกซื้อหุ้นเพื่อถือระยะยาวและไม่เน้นการซื้อขายหุ้นบ่อย ๆ การลงทุนในลักษณะนี้จะใช้แนวทางการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental analysis) เช่น การวิเคราะห์งบการเงินของบริษัท การศึกษาผลประกอบการในอดีตและคาดการณ์การเติบโตในอนาคต รวมไปถึงการดูปัจจัยภายนอกที่อาจมีผลต่อราคาหุ้นในระยะยาว


โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนที่ "เล่นหุ้น" จะไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นในระยะสั้นนัก แต่จะมุ่งเน้นไปที่การถือหุ้นยาว ๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่เห็นว่าหุ้นนั้นทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

เทรดหุ้นในคอมพิวเตอร์ - EBC

ความแตกต่างระหว่าง "เทรดหุ้น" กับ "เล่นหุ้น"

แม้การเทรดหุ้นและการลงทุนหุ้นจะเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เหมือนกัน แต่ทั้งสองวิธีมีแนวทางที่ต่างกันอย่างชัดเจน โดยสามารถแบ่งความแตกต่างได้ดังนี้

1. ระยะเวลาการถือหุ้น

การเทรดหุ้น (Trading) → ระยะสั้น (วินาที, นาที, ชั่วโมง, วัน)

-นักเทรดมักซื้อขายหุ้นในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคา

-บางรูปแบบเช่น Day Trading (เทรดรายวัน) จะปิดออเดอร์ภายในวันเดียว

-Swing Trading (เทรดตามคลื่น) อาจถือหุ้นเป็นวันหรือสัปดาห์


การลงทุนหุ้น (Investing) → ระยะยาว (เดือน, ปี, หรือหลายปี)

-นักลงทุนมักซื้อหุ้นแล้วถือไว้ยาว โดยไม่สนใจความผันผวนระยะสั้น

-มุ่งหวังผลตอบแทนจาก การเติบโตของธุรกิจและเงินปันผล


2. Mindset และเป้าหมาย

การเทรดหุ้น → ทำกำไรจากความผันผวนของราคา

-ไม่สนใจว่าธุรกิจจะดีหรือไม่ เน้นจับจังหวะราคาขึ้น-ลง

-ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เช่น กราฟ, Indicator

-ต้องมีวินัยสูง เพราะเสี่ยงต่อการขาดทุนจากความผันผวน


การลงทุนหุ้น → ทำกำไรจากการเติบโตของธุรกิจ

-สนใจ พื้นฐานบริษัท (Fundamental Analysis) เช่น ผลประกอบการ, อัตราการเติบโต

-มองหุ้นเป็น "การเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ" มากกว่าการเก็งกำไร

-เน้นความมั่นคงในระยะยาว


3. วิธีการวิเคราะห์

การเทรดหุ้น การลงทุนหุ้น
ใช้ Technical Analysis (TA) วิเคราะห์กราฟ ใช้ Fundamental Analysis (FA) ดูงบการเงิน
สนใจแนวรับ-แนวต้าน, Volume, MACD, RSI สนใจ P/E, ROE, Debt-to-Equity, การเติบโต
โฟกัสที่ "ราคา" และ "จิตวิทยาตลาด" โฟกัสที่ "มูลค่าธุรกิจ"

กราฟหุ้น - EBC

4. ความเสี่ยงและผลตอบแทน

การเทรดหุ้น → เสี่ยงสูง แต่ได้กำไรเร็ว

-ต้องตัดขาดทุนเป็นประจำ (Stop Loss)

-อาจขาดทุนได้หากตลาดผันผวนรุนแรง


การลงทุนหุ้น → เสี่ยงน้อยกว่า แต่ต้องอดทน

-ถือหุ้นนานจนกว่าธุรกิจจะเติบโต

-ได้กำไรจาก ปันผล + ราคาหุ้นปรับขึ้น


หากกล่าวโดยสรุปความต่างของการเทรดหุ้นและเล่นหุ้นในแง่เป้าหมายในการลงทุนคือ

-เทรดหุ้น มุ่งหวังการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นในระยะสั้น

-เล่นหุ้น มุ่งหวังผลกำไรจากการเติบโตของบริษัทและราคาหุ้นในระยะยาว


ความเสี่ยงและความผันผวน

-เทรดหุ้น มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะสั้นอาจมีความผันผวนมาก

-เล่นหุ้น มีความเสี่ยงน้อยกว่าในแง่ของการต้องติดตามราคาหุ้นทุกวัน แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากภาวะตลาดที่ไม่คาดคิดในระยะยาว


ทั้ง การเทรดหุ้น และ การเล่นหุ้น ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการลงทุนและเป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคคล

เหมาะกับการเทรดหุ้น: ถ้าคุณชอบการลงทุนที่รวดเร็วและสามารถจัดการกับความเสี่ยงในระยะสั้นได้ดี รวมถึงมีเวลาว่างในการติดตามข้อมูลการเคลื่อนไหวของตลาดทุกวัน

เหมาะกับการเล่นหุ้น: หากคุณมีมุมมองระยะยาวและไม่อยากยุ่งยากกับการซื้อขายหุ้นบ่อย ๆ แต่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัทในระยะยาว


สรุป: เลือกเทรดหุ้นหรือลงทุนหุ้นดีกว่า?

คุณเหมาะกับการเทรดหุ้น ถ้า...

-ชอบความท้าทายและติดตามตลาดทุกวัน

-มีเวลาศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิค

-รับความเสี่ยงสูงเพื่อโอกาสทำกำไรเร็ว


คุณเหมาะกับการลงทุนหุ้น ถ้า...

-ไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอเทรดตลอดวัน

-ต้องการความมั่นคงและผลตอบแทนระยะยาว

-สนใจวิเคราะห์ธุรกิจมากกว่าราคาหุ้น


สรุปสุดท้าย: เทรดหุ้น กับ เล่นหุ้น ต่างกันไหม?

การเทรดหุ้นและการลงทุนหุ้นมีความแตกต่างกันทั้งในด้าน ระยะเวลา, วิธีการวิเคราะห์, และ Mindset โดย

เทรดหุ้น → เน้นซื้อขายเร็ว ทำกำไรจากความผันผวน

ลงทุนหุ้น → ถือยาว ทำกำไรจากธุรกิจและปันผล


หากคุณชอบความท้าทายและมีเวลา "เทรดหุ้น" อาจเหมาะกับคุณ แต่ถ้าอยากลงทุนแบบไม่ต้องกังวลตลอดเวลา "ลงทุนหุ้นระยะยาว" ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า

เทรดหุ้น กับ เล่นหุ้น ต่างกันไหม คำตอบคือต่างกัน อย่างชัดเจนในแง่ mild set การทำกำไร โดยการเทรดหุ้น เน้นไปที่การซื้อขายหุ้นในระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น ขณะที่การ เล่นหุ้น เน้นไปที่การลงทุนระยะยาวเพื่อหวังผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัทและราคาหุ้นในอนาคต


ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเป้าหมายและลักษณะการลงทุนอย่างไร หากคุณชอบความท้าทายและพร้อมรับความเสี่ยง การเทรดหุ้นอาจจะเหมาะกับคุณ แต่หากคุณมองหาการลงทุนที่มั่นคงและมีระยะเวลาในการถือหุ้นนาน การเล่นหุ้นอาจจะตอบโจทย์มากกว่า


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

เส้น EMA 200 คืออะไร? ทำไมนักลงทุนต้องรู้จักเครื่องมือนี้

เส้น EMA 200 คืออะไร? ทำไมนักลงทุนต้องรู้จักเครื่องมือนี้

รู้จักเส้น EMA 200 เครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคสุดฮิตที่นักลงทุนใช้ จับแนวโน้มใหญ่ บริหารความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสทำกำไร

2025-06-30
ราคาหุ้น Tesla ผันผวนท่ามกลางความเชื่อมั่นของ Robotaxi

ราคาหุ้น Tesla ผันผวนท่ามกลางความเชื่อมั่นของ Robotaxi

ราคาหุ้น Tesla พุ่งสูงจากกระแสข่าวเกี่ยวกับ Robotaxi แต่การเพิ่มขึ้นที่ลดลงและความกังวลเรื่องการประเมินมูลค่าเผยให้เห็นความเสี่ยงที่อยู่เบื้องหลังแนวโน้มขาขึ้น

2025-06-27
เลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ

เลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ

ค้นพบกลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับเป้าหมาย เวลา และระดับความเสี่ยงของคุณ เหมาะสำหรับการเริ่มต้นด้วยความชาญฉลาดและซื้อขายด้วยความมั่นใจ

2025-06-27