简体中文 繁體中文 English 한국어 日本語 Español Bahasa Indonesia Tiếng Việt Português Монгол العربية हिन्दी Русский ئۇيغۇر تىلى

ทำไมทองถึงมีค่า? ความลับที่นักลงทุนต้องรู้

เผยแพร่เมื่อ: 2025-03-24    อัปเดตเมื่อ: 2025-04-28

ทองเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดและได้รับการแสวงหามากที่สุดตลอดประวัติศาสตร์ ด้วยคุณค่าในตัวเองและเสน่ห์ที่เป็นสากล จึงกลายเป็นรากฐานสำคัญของการค้า สกุลเงิน และการลงทุน


แม้ในยุคของตลาดการเงินสมัยใหม่ในปัจจุบัน ทองก็ยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนอันดับต้น ๆ ทั้งในหมู่บุคคลทั่วไป สถาบันการเงิน และธนาคารกลาง ความแตกต่างจากสินค้าโภคภัณฑ์อื่นคือ สามารถรักษาอำนาจซื้อไว้ได้ในระยะยาว จึงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ


ทำไมทองถึงมีค่าแม้เผชิญกับเงินเฟ้อ

ทองคำยังคงเป็นการลงทุนที่ดีในปี 2568 - EBC

ทองยังคงมีคุณค่าต่อเนื่อง เนื่องจากไม่เพียงแต่มีความหายากหรือการใช้งานในอุตสาหกรรม แต่ยังมีลักษณะเฉพาะที่เงินกระดาษไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่น ปริมาณที่จำกัด ซึ่งแตกต่างจากเงินที่สามารถพิมพ์เพิ่มได้ไม่จำกัด ทองจึงไม่ถูกลดค่าจากเงินเฟ้อและยังเป็นที่พึ่งพาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง


นอกจากนี้ ทองยังมีคุณสมบัติทางกายภาพที่โดดเด่น เช่น ความอ่อนตัว การนำไฟฟ้า และความทนทาน ทำให้เป็นที่ต้องการในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ทันตกรรม หรือแม้แต่อากาศยาน ความต้องการที่ต่อเนื่องเหล่านี้ ยิ่งช่วยเสริมให้มีมูลค่านอกเหนือจากการลงทุน


อีกจุดแข็งที่สำคัญคือ ทองเป็นทรัพย์สินที่จับต้องได้และได้รับการยอมรับในระดับสากล ต่างจากเงินดิจิทัลที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและระบบอินเทอร์เน็ต โดยมันสามารถแลกเปลี่ยนได้จริงทั่วโลก ความมีสภาพคล่องนี้ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ทั้งทองแท่ง เหรียญ และเครื่องประดับ คุณลักษณะเหล่านี้ทำให้ทองเป็นสินทรัพย์เหนือกาลเวลา ซึ่งสามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ได้อย่างมั่นคง


บทบาทของทองในช่วงวิกฤตทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย วิกฤตทางการเงิน หรือสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศ นักลงทุนมักจะหันมาพึ่งทอง เพราะในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนตลาด หุ้นมักมีความผันผวนสูง และสกุลเงินกระดาษอาจสูญเสียมูลค่า แต่ทองกลับถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงและปลอดภัยเมื่อการลงทุนในทางเลือกอื่น ๆ ไม่อาจเชื่อถือได้


ในช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008 เมื่อราคาทองพุ่งสูงขึ้นในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกตกต่ำ นักลงทุนต่างหันมาซื้อทอง เพราะตระหนักถึงความมั่นคงที่มันสามารถมอบให้ จึงเกิดความต้องการที่เพิ่มขึ้นและราคาทำสถิติสูงสุดในเวลานั้น


เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงคราม ข้อพิพาททางการค้า และความไม่มั่นคงทางการเมือง ก็ล้วนส่งผลต่อราคาทองเช่นกัน เมื่อความตึงเครียดระดับโลกเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนมักเลือกทองเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เพราะให้ความมั่นคงทางจิตใจ แตกต่างจากสกุลเงินกระดาษที่อ่อนไหวต่อการควบคุมของรัฐบาล ทองยังคงมีความเป็นอิสระและได้รับการยอมรับทั่วโลก ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในการรักษาความมั่งคั่งในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน


ทอง: การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

หนึ่งในเหตุผลหลักที่นักลงทุนจำนวนมากเลือกถือทอง คือความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เมื่ออำนาจการซื้อของเงินกระดาษลดลงจากการที่ราคาสินค้าสูงขึ้น ทองมักจะสามารถรักษามูลค่าไว้ได้ หรือบางครั้งยังเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ในประวัติศาสตร์ ราคาทองมักจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่มีเงินเฟ้อสูง เพราะนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ไม่ถูกลดมูลค่าจากการลดค่าเงิน การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้ชัดในช่วงวิกฤตเงินเฟ้อในทศวรรษ 1970 เมื่อราคาทองพุ่งสูงขึ้นในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง


ธนาคารกลางและรัฐบาลมักใช้นโยบายการเงินที่มีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงที่มีการพิมพ์เงินมากเกินไปหรืออัตราดอกเบี้ยต่ำ สกุลเงินกระดาษมักสูญเสียมูลค่า ทำให้มีนักลงทุนหันไปหาทองเพื่อเป็นที่หลบภัย ต่างจากหุ้นหรือพันธบัตรที่ผูกติดกับผลประกอบการของบริษัทหรือเสถียรภาพของรัฐบาล ทองกลับเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ขึ้นกับสถาบันการเงิน ทำให้มันเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงที่มีเงินเฟ้อ


ทอง: เครื่องมือในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ทองยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่สำคัญ คือความสามารถในการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ความสัมพันธ์ที่ต่ำกับหุ้นและพันธบัตรทำให้มันเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เมื่อราคาหุ้นลดลง ทองมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้าม ซึ่งทำให้เป็นเกราะป้องกันความเสียหายจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ การนี้ทำให้ทองเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนสถาบัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และธนาคารกลาง


พอร์ตการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของการลงทุน ด้วยการเลือกสินทรัพย์ที่ไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ทองทำหน้าที่นี้ได้โดยการสร้างความเสถียรให้กับพอร์ตในช่วงที่ตลาดตกต่ำ ที่ปรึกษาทางการเงินหลายคนแนะนำให้จัดสรรส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนไว้ในทอง โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 5% ถึง 10% ของพอร์ต การจัดสรรนี้จะช่วยให้นักลงทุนลดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความผันผวนของค่าเงิน


ทองแท้และประเภทการลงทุน

ความสามารถในการแปลงสภาพเป็นเงินสดของทองทำให้มันเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมทั้งสำหรับนักลงทุนรายบุคคลและสถาบันต่าง ๆ ต่างจากอสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์ที่จับต้องได้อื่น ๆ ทองสามารถซื้อขายและทำการค้าขายได้ง่ายในตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะรูปแบบหนึ่งของการชำระเงิน ทำให้เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง


สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงทองในปัจจุบันมีหลายทางเลือก โดยหนึ่งในนั้นคือการลงทุนในทองแท้ เช่น ทองแท่งและเหรียญทอง ซึ่งให้การเป็นเจ้าของโดยตรง แต่ก็ต้องการการจัดเก็บอย่างปลอดภัย อีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือการลงทุนในกองทุนแลกเปลี่ยนทอง (ETF) ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องถือครองทองจริง โดยกองทุน ETF ทองจะติดตามราคาทองและสามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้น


อีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนคือการซื้อหุ้นของบริษัทเหมืองทอง ซึ่งหุ้นเหล่านี้เป็นตัวแทนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการขุดและผลิตทอง แม้จะให้การเข้าถึงราคาแต่ก็มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานเหมืองทอง เช่น ความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์และต้นทุนการผลิต


แนวโน้มในอนาคตว่าทำไมทองจึงยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนอันดับต้น ๆ

ประวัติราคาทองคำและการคาดการณ์ - EBC

แนวโน้มระยะยาวของทองยังคงเป็นบวกจากหลายปัจจัยตัว อย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของทางเลือกการลงทุนในทองดิจิทัลทำให้มันเข้าถึงนักลงทุนทั่วโลกได้ง่ายขึ้น กองทุนแลกเปลี่ยนทอง (ETF) ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของทองจริง


นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยขยายความน่าสนใจของทอง ทำให้การลงทุนในทองง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า การลงทุนในทองดิจิทัลคาดว่าจะเติบโตขึ้น ซึ่งจะยิ่งเสริมบทบาทของมันในโลกการเงินยุคใหม่


นอกจากนี้ ความพิจารณาในด้านสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมในการขุดทองทำให้เกิดการลงทุนในทองที่ยั่งยืนมากขึ้น นักลงทุนนิยมมองหาทองที่มาจากการขุดที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสภาพการทำงานที่เป็นธรรม


การลงทุนในทองที่มีจริยธรรมสอดคล้องกับแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบต่อสังคม (SRI) และมาตรฐานสิ่งแวดล้อมสังคมและการกำกับดูแล (ESG) การเปลี่ยนแปลงไปสู่การผลิตทองที่ยั่งยืนเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนระยะยาวของทอง


สรุป

ทองยังคงมีคุณค่าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คุณสมบัติที่ไม่เหมือนใคร และบทบาทในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน หรือการรักษาความมั่งคั่งในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ทองยังคงเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าเชื่อถือและมีคุณค่าสำหรับนักลงทุน


ด้วยความหายาก สภาพคล่องที่สูง ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และความทนทานต่อความผันผวนของตลาด ทองจึงเป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นสำหรับนักลงทุนทั่วโลก และเมื่อทั้งตลาดการเงินพัฒนาไปเรื่อย ๆ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ บทบาทของทองในฐานะการลงทุนที่น่าเชื่อถือจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต


คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

บทความแนะนำ
ความลับทองคำกับการประกันพอร์ตที่นักลงทุนต้องรู้
รู้จัก เงินฟรังก์สวิส พร้อมบทบาทสำคัญในตลาด Forex ที่คุณต้องรู้
วิธีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ความเสี่ยง และมาตรการรับมือ
เคล็ดลับสร้าง Trading Routine ชนะตลาดปี 2025
แนวโน้มราคาทองคำปี 2568 วิเคราะห์ทิศทางสินทรัพย์ปลอดภัยในยุคเศรษฐกิจผันผวน