รูปแบบแท่งเทียน Hammer กับสัญญาณกลับตัวของเทรดเดอร์

รูปแบบแท่งเทียน Hammer คืออะไร?

รูปแบบแท่งเทียน Hammer เป็นรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เทรดเดอร์มักใช้เพื่อหาจุดกลับตัวของราคา โดยลักษณะของแท่งเทียนนี้จะคล้ายกับตัวอักษร “T” กล่าวคือ ราคาของหลักทรัพย์จะลดลงต่ำกว่าราคาเปิด แต่สามารถดีดกลับขึ้นมาปิดใกล้จุดเปิดได้สำเร็จ จนเกิดเป็นไส้เทียนด้านล่างยาวและลำตัวสั้น

แท่งเทียน Hammer ถือเป็นรูปแบบกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal) ที่ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มขาลงอาจสิ้นสุดลงและกำลังเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้น

ลักษณะของรูปแบบแท่งเทียน Hammer คือมีลำตัวแท่งเทียนขนาดเล็กและไส้เทียนด้านล่างยาว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระหว่างช่วงการซื้อขายมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากราคาลดลงอย่างรุนแรง

ประเภทของแท่งเทียน Hammer

Bullish Hammer – สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น

เป็นแท่งเทียน Hammer ที่มักพบในช่วงแนวโน้มขาลง และส่งสัญญาณว่าแนวโน้มอาจกำลังจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น ถือเป็นสัญญาณกลับตัวที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก บ่งชี้ว่ามีแรงซื้อเข้ามาอย่างชัดเจน ดันราคาจากจุดต่ำสุดให้ฟื้นกลับขึ้นมา จึงมักถูกใช้เป็นจุดสังเกตว่าโมเมนตัมอาจเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น

Bearish Hammer หรือ Hanging Man – สัญญาณกลับตัวเป็นขาลง

เป็นแท่งเทียน Hammer ที่ปรากฏในช่วงแนวโน้มขาขึ้น และส่งสัญญาณว่าแนวโน้มอาจกำลังจะเปลี่ยนเป็นขาลง แม้จะถือว่าเป็นสัญญาณกลับตัวที่มีน้ำหนักน้อยกว่ารูปแบบ Bullish Hammer แต่ก็ยังบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่โมเมนตัมอาจเปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลง การเข้าใจความแตกต่างของแท่งเทียน Hammer แต่ละประเภท จึงมีความสำคัญต่อการวิเคราะห์พฤติกรรมราคาและการตัดสินใจลงทุนอย่างมีหลักการ

วิธีสังเกตรูปแบบแท่งเทียน Hammer

แท่งเทียน Hammer มักเกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ปรับตัวลดลงในช่วงแรกของการซื้อขาย แต่สามารถฟื้นตัวกลับมาปิดใกล้ระดับราคาเปิดได้ สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อเริ่มกลับมา หลังจากถูกแรงขายกดดันอย่างหนักในช่วงต้นวัน ลักษณะที่เห็นได้ชัดของแท่งเทียนนี้คือ ตัวแท่งมีขนาดเล็กและมีไส้เทียนด้านล่างยาว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้กันระหว่างผู้ขายที่พยายามกดราคาให้ต่ำลง กับผู้ซื้อที่สามารถพลิกสถานการณ์และดึงราคากลับขึ้นมาได้ก่อนตลาดปิด

จิตวิทยาที่ซ่อนอยู่ในรูปแบบ Hammer

แท่งเทียน Hammer เป็นภาพสะท้อนของจิตวิทยาตลาดที่เปลี่ยนแปลงจากความรู้สึกในเชิงลบ (Bearish) ไปสู่เชิงบวก (Bullish) โดยสัญญาณนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อเริ่มกลับมาคุมเกมได้อีกครั้ง และสามารถดันราคาให้สูงขึ้นแม้จะมีแรงขายอย่างมากในช่วงต้น

ดังนั้น รูปแบบแท่งเทียน Hammer จึงมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการกลับตัวของแนวโน้ม เมื่อแรงซื้อเริ่มมีบทบาทที่เหนือกว่าในตลาด

การเทรดด้วยแท่งเทียน Hammer

สัญญาณ Hammer

แท่งเทียน Hammer เป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น ซึ่งมักปรากฏในช่วงที่ตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มขาลง เมื่อเทรดเดอร์เห็นรูปแบบนี้ ก็สามารถใช้สัญญาณนี้ในการเปิดสถานะซื้อ (Long Position) ได้ เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่โมเมนตัมของตลาดจะเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ ควรใช้สัญญาณนี้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อยืนยันการกลับตัวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

การบริหารความเสี่ยง

แม้ว่าแท่งเทียน Hammer จะเป็นสัญญาณที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่ใช่เครื่องมือที่แม่นยำ 100% ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เทรดเดอร์ควรวางจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) ไว้ต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งเทียน Hammer และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนขั้นต่ำที่อัตราส่วน 2:1 เมื่อเทียบกับความเสี่ยง นอกจากนี้ การใช้อิรดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นร่วมด้วย เพื่อช่วยยืนยันสัญญาณและลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่อาจผิดพลาด

ข้อจำกัดและข้อควรพิจารณา

แม้ว่าแท่งเทียน Hammer จะเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยม แต่ก็ไม่สามารถรับประกันการกลับตัวของแนวโน้มได้เสมอไป รูปแบบนี้อาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่นในตลาด เช่น ปริมาณการซื้อขาย (Volume) หรือสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ดังนั้น เทรดเดอร์ควรใช้รูปแบบ Hammer เป็นเพียงหนึ่งในองค์ประกอบของการวิเคราะห์ไม่ใช่เครื่องมือหลักเพียงอย่างเดียวเพื่อให้การตัดสินใจมีเหตุผลและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

รูปแบบ Hammer vs. รูปแบบอื่น ๆ

รูปแบบแท่งเทียน Hammer มักถูกนำมาเปรียบเทียบกับรูปแบบอื่น ๆ เช่น Doji และ Inverted Hammer

ความแตกต่างที่สำคัญคือ แท่งเทียน Hammer มักจะส่งสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้น ในขณะที่ Doji มักสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาด ส่วน Inverted Hammer ที่มีไส้เทียนยาวด้านบนและลำตัวเล็กอยู่ด้านล่าง มักปรากฏหลังจากแนวโน้มขาขึ้น และบ่งชี้ถึงแรงขายหรือโมเมนตัมขาลงที่อาจเริ่มต้นขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับสัญญาณของแท่งเทียน Hammer ปกติที่บ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น

สรุป

รูปแบบแท่งเทียน Hammer ถือเป็นสัญญาณกลับตัวที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของทิศทางตลาดได้ แต่ก็ต้องระวัง เพราะไม่สามารถการันตีได้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจริง ๆ การใช้รูปแบบนี้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรืออินดิเคเตอร์ปริมาณการซื้อขาย จะช่วยให้เทรดเดอร์มีความมั่นใจในการตัดสินใจและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับความผันผวนของตลาดมากขึ้น

คำเตือน: เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นใดที่ควรอ้างอิง (และไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคำแนะนำ) ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำของ EBC หรือผู้เขียนว่ากลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์ ธุรกรรม หรือการลงทุนใดๆ เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ